แค้นโดนด่าทอหนัก! รัวยิงแฟนหนุ่ม 4 นัดดับคาหน้าร้าน เผยโดนด่าสารพัดจนเครียดสะสม

เมื่อเวลา 07.30 น. ของวันที่ 8 สิงหาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายว่า มีเหตุยิงกันตาย ภายในตลาดสี่มุมเมือง อาคารที่เกิดเหตุเปิดเป็นกิจการจำหน่ายพลาสติก ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้นครึ่ง ที่บริเวณหน้าร้านพบผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อ นายสุพรชัย แซ่อึ้ง อายุ40 ปี มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่หน้าท้อง 2 นัด ชายโครงขวา 1 นัด อกซ้าย 1 นัด เป็นเหตุให้เสียชีวิตเสียชีวิตในลักษณะนอนหงายอยู่หน้าร้าน ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่จำนวน 4 ปลอก เจ้าหน้าที่เก็บไว้ตรวจสอบ ผู้ก่อเหตุคือ น.ส.ธรินทร์ญา เกียรตินิรุจ์ อายุ 40 ปี จับกุมได้ที่เกิดเหตุพร้อมอาวุธปืนขนาด 9 มม.ยี่ห้อCZ จำนวน 1 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง

นางสาวน้อย ศรีบุญเรือง อายุ 27 ปี สัญชาติลาว ลูกจ้างร้านที่เกิดเหตุ กล่าวว่า รอบแรกคนก่อเหตุมายิงก่อน 1 ครั้ง จึงเข้าไปห้ามว่าอย่ายิง ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะยิงรอบ 2 จึงบอกว่าอย่ายิงๆ แต่ก็ยิงอีกรอบเป็นรอบที่ 3 เลยวิ่งหนี โดยคนตายเป็นเจ้าของร้าน ส่วนคนยิงไม่ทราบว่าเป็นอะไรกัน ส่วนสาเหตุก็ไม่รู้ว่าเกิดจากสาเหตุใด เขาเป็นเพียงลูกจ้างทำงาน แต่ผู้ก่อเหตุก็เดินทางมาที่ร้านบ่อยครั้ง โดยขณะเกิดเหตุคนตายเพิ่งใส่บาตรเสร็จเมื่อหันหน้าขึ้นร้าน ผู้ก่อเหตุก็ชักอาวุธปืนออกมายิงทันที

ด้านนางสาวธรินทร์ญา เกียรตินิรุจ์ ผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า ตนเองเป็นแฟนกับผู้ตาย อยู่ด้วยกันมานาน 4 ปี และไม่มีลูกด้วยกัน ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ก่อนหน้านี้เคยทะเลาะกันมาหลายครั้ง ผู้ตายเคยทำร้ายร่างกาย เคยกระชากบีบคอหลายครั้ง เรื่องทั่วไปตัวเองก็ช่วยเหลือเรื่องงานมาโดยตลอด แต่โดนด่าว่าสารพัดจนเกิดความเครียดสะสม เมื่อวานนี้ ทะเลาะกันหนักจนฝ่ายชายเอ่ยปากไล่ จึงออกไปอยู่ห้องพักอีกที่หนึ่งและโทรศัพท์ด่าทอกันอย่างรุนแรง ฝ่ายชายบอกว่าแน่จริงก็มา เช้านี้จึงเดินทางมาพร้อมด้วยอาวุธปืนที่ซื้อมาจากอินเทอร์เน็ตและนำมาก่อเหตุ

ส่วนยิงใส่แฟนหนุ่มจนเสียชีวิตนั้น ยิงไปกี่นัดก็จำไม่ได้ เขาตั้งใจจะมาฆ่าแฟนและฆ่าตัวตาย แต่หลังจากยิงแฟนแล้วลูกน้องของแฟนมาแย่งปืนไว้ได้ จึงไม่ทันได้ลั่นไกใส่ตัวเอง

ร.ต.อ.เอกอมร สีสัน รองสว.สอบสวนสภ.คูคต กล่าวว่า ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุกั้นพื้นที่ไว้เพื่อรอการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 1 ประสานฝ่ายสืบสวนตรวจสอบวงจรปิดสอบปากคำพยานและนำตัวผู้ก่อเหตุไปสอบปากคำเพื่อดำเนินคดีทางกฎหมาย ส่วนร่างผู้เสียชีวิตให้อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูส่ง รพ.ภูมิพลอดุลยเดชเพื่อรอญาติรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป