อาชญากรรม

แม่ค้าติดโควิด ไม่มีเงินส่งดอกเงินกู้ ถูกกาวหยอดรูกุญแจบ้าน แขวนป้ายประจาน

โดย attayuth_b

29 ก.ค. 2565

60 views

จากกรณีเพจเฟสบุ๊ค “Survive – สายไหมต้องรอด” โพสต์รูปภาพ 2 แม่ลูกนั่งหน้าประตูรั้วบ้านเนื่องจากถูกเซลล์เงินกู้นำกาวร้อนหยอดที่รูกุญแจบ้านพร้อมนำป้ายข้อความแขวนประจานที่ประตูบ้านเขียนว่า"เงินกู้เอามาคืน"จนต้องขอความช่วยเหลือผ่านเพจสายไหมโดยส่งทีมงานเข้ามาช่วยตัดกุญแจโดยระบุว่าป้าเเม่ค้าตลาดนัดติดโควิด10 วันทำให้ไม่มีเงินส่งดอกเงินกู้ หลังพยายามเจรจาผลัดผ่อน แต่เซลล์ดอกร้อยละ60 ต่อ/เดือน ไม่ยอม ต้องนั่งรอหน้าบ้าน นาน 3 ชม.ซึ่งจะพาผู้เสียหายมาแจ้งความที่ สน.สายไหม

วันนี้ (29 ก.ค.) ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 14.19 น. ที่สน.สายไหม นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พานางสาว จิราภรณ์ เทพบุตร อายุ44 ปี แม่ค้าตลาดนัด พร้อมลูกสาวเดินทางเข้าพบ  พ.ต.อ.อำนาจ กาหลง ผกก.สน.สายไหม และ พ.ต.ท.เสน่ห์ มณีฉาย รอง ผกก.สส.สน.สายไหม เพื่อดำเนินคดีกับเซลล์เงินกู้ดอกเบี้ยโหดรายนี้

นายเอกภพ กล่าวว่า เมื่อคืนช่วงเวลาตีสามรับแจ้งจากผู้เสียหาย ซึ่งเป็นแม่ค้าตลาดนัดสายไหม แจ้งข้อมูลผ่านเพจว่า เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ผู้เสียหายได้หยิบยืมเงินจากแก๊งเงินกู้รายนี้ เป็นจำนวนเงิน20,000บาท  ซึ่งได้เงินมาจำนวน 16,000 บาท โดยคิดดอกรายวัน วันละ400บาทยังไม่รวมเงินต้น ซึ่งมาถึงวันนี้ดอกที่ส่งไปคาดว่า เกินจำนวนเงินต้นแล้ว  กระทั่งสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้เสียหายติดโควิด เลยไม่ได้ออกไปขายของ ทำให้ไม่มีเงินจ่ายหนี้ ซึ่งผู้เสียหายกู้เงินมาประมาณ 3-4 เจ้า แต่เจ้าอื่นก็คุยกันเข้าใจทำให้ไม่มีปัญหา ปรากฎว่ามีเจ้าหนี้รายนี้ที่ไม่ยอมและบังคับให้ผู้เสียหายไปกู้เงินจากที่อื่นเพื่อมาให้ตน แต่ทางผู้เสียหายไม่สามารถทำได้เนื่องจากรู้ว่าไม่มีเงินที่จะส่ง ซึ่งก่อนหน้าที่ผู้เสียหายจ่ายดอกตรงมาโดยตลอด แต่เมื่อมาติดโควิดไม่ได้ขายของ เซลล์เงินกู้รายนี้กลับไม่ยอม ต่อมาหลังจากผู้เสียหายได้หายป่วยโควิดได้2วัน ก็ออกไปซื้อวัตถุดิบเพื่อเตรียมขายของ เวลาประมาณเที่ยงคืนกว่า เมื่อกลับมาถึงบ้านประมาณตี1 ก็พบว่ากุญแจบ้านถูกกาวร้อนหยอดที่รูกุญแจและมีกุญแจอีกตัวนึงล็อคบ้านไว้ ทางทีมไหมจึงต้องเข้าไปตัดลูกกุญแจออกให้

นายเอกภพ กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุผู้เสียหายพยายามเดินหาเพื่อนบ้านและนั่งรอว่าจะมีรถผ่านมาเพื่อจะเรียกให้ช่วยจนถึงช่วงตีสามเดินทางที่โรงพักแต่ไม่กล้าแจ้งความ เนื่องจากกลัวแก๊งเงินกู้จะตามฆ่า และจะให้ลูกนอนที่โรงพัก จึงตัดสินใจกลับไปบ้าน ก่อนที่ลูกจะแนะนำให้แม่(ผู้เสียหาย)ติดต่อขอความช่วยเหลือจากเพจสายไหม

นางสาวจิราภรณ์ กล่าวว่า กู้เงินจากเห็นใบปลิวที่ตลาด สาเหตุที่กู้เพราะจะนำไปจ่ายค่าบ้าน และพี่สาวที่ป่วยและค่าใช้จ่ายอื่นๆและนำเงินไปลงทุนขายของ รวมถึงจ่ายหนี้รายวันที่เป็นอยู่ก่อนแล้ว เมื่อขายของเสร็จทุนก็หมดต้องหาเพิ่ม ไม่งั้นเจ้าหนี้จะไปบ้าน ไปรุมด่าจนไม่กล้าอยู่บ้าน ต้องพาลูกออกมาเดินตากฝนตามป้ายรถเมล์ พร้อมกับร่ำไห้ว่า "อยู่ไม่ได้จริงๆ ไม่อยากเป็นหนี้เลย" หากไม่มีเงินจ่ายค่าบ้านเจ้าหนี้ก็ไม่ยอม

นางสาวจิราภรณ์ กล่าวด้วยว่า ตนกู้เงินมาทั้งหมด3 เจ้า เจ้าละ8พันบาทเป็นดอกลอย เจ้าอื่นยังพอคุยได้ มีเจ้านี้ที่บอกว่าต้องจ่ายมา ไม่งั้นต้องหาเงินมาให้ได้บางวันส่งคนมากดออดประตูเขย่าหน้าบ้านเพื่อจะเอาเงินให้ได้แม้เงินในบัญชีมีแค่150บาทก็ต้องโอนให้เขา "ถ้าจ่ายไม่ครบนอนไม่ได้เลย มีครั้งนี้ที่หนักสุด และยังขู่ว่าจะเผาบ้าน ทำร้ายร่างกาย อย่าให้เจอนะ อยากลองของก็เอา.."  น.ส.จิราภรณ์ กล่าว

นายเอกภพ กล่าวต่อว่า เซล์ที่ก็มีแต่ไม่ใช่ว่าไม่ผิดกฎหมาย หากปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนดมันผิดอยู่แล้ว ซึ่งการกระทำแบบนี้คือบ้านป่าเมืองเถื่อน และไม่เคยมีในพื้นที่สายไหม คาดว่ามาจากต่างถิ่น ต้องเข้าใจคำว่าหาเช้ากินค่ำ เช้าขายของกลับมาซื้อข้าวมากินเงินก็หมดแล้ว เช้าก็ไปขายของวันไหนฝนตกไม่มีเงินลงทุนก็ต้องหา ตนมองว่าเซลล์ปล่อยเงินกู้ทำนาบนหลังคน เก็บดอกเบี้ยร้อยละ 20-30-60 เพียง3เดือนก็คืนทุน ทั้งนี้จะแจ้งทุกข้อกล่าวหาที่มีทั้งปล่อยเงินกู้ไม่ได้รับอนุญาต และ เก็บดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด, ข่มขู่คุกคามและทำให้เสียทรัพย์

ด้านพ.ต.อ.กาหลง กล่าวว่า เบื้องต้น ทางฝ่ายสืบสวนตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดและทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว2คนขับรถจักรยานยนต์ผ่านเข้ามา และจะติดต่อเรียกมาพูดคุย รวมถึงเงินกู้เจ้าอื่นๆด้วย เนื่องจากผู้เสียหายกู้เงินมาจากหลายเจ้า โดยจะให้พนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำทั้งผู้เสียหายเพิ่มเติมอย่างละเอียดเพื่อรวบรวมข้อมูลหากพบว่ามีความผิดก็จะดำเนินการตามข้อกฎหมาย ซึ่งจะต้องแก้ปัญหานี้ต่อไป







คุณอาจสนใจ