หนุ่มตีเนียน เข้าไปช่วยกวาดบ้าน ก่อนฉกมือถือหนี ขายซื้อยาเสพ

ความคืบหน้า กรณีคนร้ายเป็นชายรูปร่างผอม ได้ทำทีเข้าไปตีสนิทกับเจ้าของบ้านและอ้างว่าได้รับการว่าจ้างจากลูกของเจ้าของบ้าน ให้มาช่วยกวาดบ้านทำความสะอาด ก่อนจะฉวยโอกาสที่เจ้าของบ้านเผลอเข้าไปขโมยโทรศัพท์มือถือ และยังรับเงินค่าข้าวจากเจ้าของบ้านอีก 50 บาท ก่อนจะหลบหนีออกไปจากบ้านหลังเกิดเหตุ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้า ของวันที่ 17 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ที่บริเวณบ้านเลขที่ 17/2 ซอยท่ามะขาม 16 หมู่ 1 ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเปิดเป็นสถานีวิทยุชุมชน มีนายจำลอง แจ่มจำรัส อายุ 67 ปี เป็นเจ้าของบ้านและเป็นผู้เสียหายที่ถูกขโมยโทรศัพท์มือถือไป ซึ่งหลังเกิดเหตุ นายจำลองได้นำคลิปวีดีโอจากกล้องวงจรปิดภายในบ้าน ที่บันทึกพฤติกรรมของคนร้ายเอาไว้ได้อย่างชัดเจนไปโพสต์เตือนภัยให้ชาวบ้านเฝ้าระวังหนุ่มแสบรายดังกล่าว พร้อมนำภาพวีดีโอจากกล้องวงจรปิดไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี ให้ช่วยติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้นั้น

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี สามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาได้เรียบร้อยแล้ว ทราบชื่อคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้คือ นายสุทนต์ เทือกเถาว์ อายุ 39 ปี โดยจากการสอบปากคำ นายสุทนให้การรับสารภาพว่าเป็นคนร้ายที่เข้าไปลงมือก่อเหตุขโมยโทรศัพท์มือถือดังกล่าวจริง นายสุทนให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ก่อนจะมาก่อเหตุ ตนเองเคยทำงานเป็นพนักงานส่งน้ำดื่ม และได้เคยมาส่งน้ำดื่มที่บ้านหลังดังกล่าว รวมถึงได้รู้จักกับลูกชายของเจ้าของบ้านด้วย ในช่วงวันเกิดเหตุ นายสุทนตั้งใจที่จะเดินทางมาขอยืมเงินจากลูกชายเจ้าของบ้าน แต่ไม่พบลูกชายเจ้าของบ้าน พบเพียงเจ้าของบ้านอยู่บ้านตามลำพัง จึงได้ออกอุบายเข้ามาตีสนิทและไปช่วยทำความสะอาดบ้าน จนเมื่อเจ้าของบ้านเผลอ จึงได้ฉวยโอกาสเข้าไปขโมยโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ iPhone ที่เสียบชาร์จเอาไว้อยู่ภายในห้องส่งสถานีวิทยุ และมานั่งพักอยู่บริเวณหน้าบ้าน

กระทั่งเจ้าของบ้านนำเงินมาให้ไปซื้อข้าวกิน นายสุพลจึงรับเงินและเดินหายออกไปจากบ้านก่อนจะนำโทรศัพท์มือถือไปขายให้กับคนรู้จักในราคา 500 บาท เพื่อนำเงินที่ได้ไปซื้อยาเสพติดมาเสพ หลังผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังบ้านหลังที่เกิดเหตุ พร้อมให้ผู้เสียหายดูตัวผู้ก่อเหตุ ซึ่งผู้เสียหายยืนยันว่านายสุทนเป็นผู้ที่เข้ามาลงมือก่อเหตุในวันดังกล่าวจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวกลับไปยังสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี พร้อมทั้ง ได้นำตัวนายสุทนไปตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด และพบว่ามีสารเสพติดอยู่ในปัสสาวะด้วย จึงได้ทรงตัวนายสุทนให้กับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรีดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ และเสพสารเสพติดให้โทษประเภท1ยาบ้า