ชายถูกโกง 3.4 ล้าน ตามทวงเงิน ไม่เจอเจ้าของบ้าน เอาลูกซองยิงใส่บ้าน ระบายอารมณ์

ความคืบหน้า คดีชายคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนลูกซองยิงถล่มใส่บ้านพักกลางเมือง เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงสายของวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยขณะเกิดเหตุกล้องวงจรปิดได้บันทึกภาพ ชายคนร้าย อายุประมาณ 40-45 ปี รูปร่างท้วม สวมกางเกงขาสั้น เสื้อยืดสีเขียว ขับรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว้ สีบรอนด์ หมายเลขทะเบียน กฌ 6558 กรุงเทพมหานคร ไปจอดหน้าบ้านเลขที่ 37/5 หมู่บ้านสมบัติธานี 3 ถนนมิตรภาพซอย 4 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ก่อนที่ชายคนร้ายจะใช้อาวุธปืนลูกซองยาวยิงถล่มใส่บริเวณประตูบ้านหลังดังกล่าว 1 นัด ทำให้กระจกหน้าบ้านแตกกระจัดกระจาย สร้างความแตกตื่นให้กับชาวบ้านที่อยู่อาศัยในหมู่บ้านเป็นอย่างมาก

ก่อนที่เมื่อวานนี้ (18 ก.ค.65) เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ได้นำหมายศาลจังหวัดนครราชสีมา ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามเข้าทำการจับกุม นายประพัฒน์ พิริยะกร อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุ ได้ที่บริเวณซอยพุทธมณฑลสาย 2 แขวงศาลาธรรมศพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร พร้อมยึดของกลางเป็นอาวุธปืน 4 กระบอก เสื้อเกราะ 1 ตัว ลูกกระสุนปืนลูกซอง และลูกกระสุนปืนพกสั้น รวมจำนวนกว่า 50 นัด ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหากลับไปสอบสวนที่ สภ.เมืองนครราชสีมา

ล่าสุดบ่ายวันนี้ (19 ก.ค.65) พ.ต.อ.ประสิทธิ์ เปรมกมล ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้นำตัวนายประพัฒน์ พิริยะกร อายุ 55 ปี คนร้ายที่ก่อเหตุ มาที่บ้านเลขที่ 37/5 หมู่บ้านสมบัติธานี 3 ถนนมิตรภาพซอย 3 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา เพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยนายประพัฒน์ฯ มีสีหน้าค่อนข้างเครียด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ให้คนร้ายใช้ท่อพีวีซี แทนปืนลูกซอง มาบริเวณหน้าบ้านและแสดงท่าการยิงปืนเข้าบ้าน หลังจากนั้นได้นำปืนไปเก็บท้ายรถกระบะ และเดินมาเก็บปลอกกระสุนปืน ก่อนที่จะขึ้นรถกระบะขับหนีไป ทั้งนี้หลังจากทำแผนเสร็จ นายประพัฒน์ฯ บอกว่า ตนเองมาที่บ้านหลังนี้เพื่อที่จะทวงหนี้กับเจ้าของบ้านที่โกงเงินของตนเองไป จำนวน 3,400,000 บาท แต่มาส่องดูบ้านแล้วไม่มีใครอยู่ จึงเกิดอารมณ์โมโห หยิบปืนมายิงใส่หน้าบ้านไป 1 นัด เพื่อระบายอารมณ์เท่านั้น ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะมายิงใคร ถ้าวันนั้นเจ้าของบ้านอยู่ก็จะเรียกมาเคลียร์กันดีๆ

พ.ต.อ.ประสิทธิ์ เปรมกมล ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา กล่าวว่า ผู้ต้องหาอ้างว่าถูกเจ้าของบ้านหลังนี้หลอกโกงเงินไป 3 ล้านกว่าบาท โดยมีนางนกต่อใช้บัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของบ้านมาหลอกผู้ต้องหาอีกที แต่ทั้งนี้ก็ต้องเรียกเจ้าของบ้านมาสอบปากคำอีกครั้ง ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ซึ่งเงินที่ถูกโกงนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบมาว่า เป็นเงินฉ้อโกงออนไลน์ ที่มีแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์หลอกนำบัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของบ้าน ไปแอบอ้างก่อเหตุหลอกลวงผู้ต้องหาอีกชั้น เพื่อให้โอนเงินจำนวน 3,400,000 บาท โดยเจ้าของบ้านได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.โพธิ์กลางไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งผู้ต้องหาไม่รู้คิดว่าเจ้าของบ้านหลังนี้เป็นคนโกง จึงได้สืบหาตามที่อยู่ จนกระทั่งมาพบบ้านหลังนี้ แต่ไม่เจอตัวเจ้าของบ้าน เนื่องจากเจ้าของบ้านไปอยู่ต่างจังหวัด ไม่ได้กลับมาบ้านหลังนี้มานานกว่า 4 เดือนแล้ว ทำให้ผู้ต้องหาเกิดอารมณ์โมโห และใช้ปืนลูกซองยิงไปที่ประตูหน้าบ้านจนได้รับความเสียหาย กระจกแตก บานประตูพัง โชคดีที่กระสุนไม่ได้สร้างความเสียหายอะไรในบ้าน ซึ่งผู้ต้องหายืนยันว่าไม่เคยรู้จักกับเจ้าของบ้านเป็นการส่วนตัว และไม่ได้ตั้งใจที่จะมายิงทำร้ายใครแต่อย่างใด ต้องการมาเคลียร์ แต่ไม่เจอตัว จึงก่อเหตุไปด้วยอารมณ์โมโหเท่านั้น เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งกำเนินคดี 4 ข้อหา ประกอบด้วย ข้อหายิงปืนโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือในที่ชุมชน ข้อหาพกพาอาวุธปืนไปในเมืองโดยไม่มีเหตุสมควร ข้อหาทำให้เสียทรัพย์ และข้อหาทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว