ชาย 64 ป่วยอัลไซเมอร์ ไม่ออกจากบ้านหลายวัน เพื่อนบ้านได้กลิ่นเหม็น แจ้งตร. ตัดกุญแจเข้าไป เจอนอนเล่น

วันนี้ (16 ก.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ร.ต.อ.บุญเลิศ เหล็กมา พงส.สภ.สาขลา จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่ามีกลิ่นคล้ายซากศพลอยออกมาจากบ้านเลขที่ 359/419 หมู่บ้านไทยสมบูรณ์-บ้านคลองสวน หมู่ที่ 3 ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นทาวเฮ้าส์ขนาด 2 ชั้น บริเวณหน้าบ้านพบประตูรั้วปิดอยู่โดยมีแม่กุญแจขนาดใหญ่คล้องไว้ด้านในและมีประตูกระจกอลูมิเนียมปิดอยู่พร้อมมีกลิ่นคล้ายซากศพลอยคละคลุ้งออกมาด้านนอก ทางเจ้าหน้าตำรวจจึงให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำอุปกรณ์ตัดถ่างตัดกุญแจออกเพื่อตรวจสอบภายในบ้านโดยใช้เวลาประมาณ 5 นาทีจึงสามารถเปิดประตูเข้าไปได้ เมื่อเข้าไปในบ้านทุกคนต้องผงะพบกองข้าวของวางเรียงรายเกลื่อนบ้านและมีกลิ่นเน่าเหม็นลอยโชยตลอดเวลา กระทั่งเดินมาถึงกลางบ้านพบ นายสิทธิ์ชัย สินประจักษ์กุล อายุ 64 ปี เจ้าของบ้าน นอนทำสีหน้างวยงงอยู่บนเก้าอี้ผ้าใบ

เมื่อเจ้าหน้าที่สอบถามว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นหรือไม่ภายในบ้านและตะโกนเรียกแล้วแต่ทำไมไม่ยอมตอบรับ นายสิทธิ์ชัย ได้ตอบกลับแบบวกไปวนมาพอจับใจความได้ว่าไม่ได้ยินเสียงใครเรียกเลยตนก็นอนอยู่ตรงนี้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยจะเดินตรวจสอบทั่วทั้งบ้านจนมาพบที่มาของกลิ่นคือขยะที่อยู่หลังบ้าน พร้อมเชิญตัว นายสิทธิ์ชัย ออกมาตรวจสุขภาพและตรวจ ATK เบื้องต้นพบว่าไม่มีเชื้อและร่างกายเป็นปกติดีแต่ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์มานานหลายปีแล้ว

จากการสอบถามญาติคนสนิททราบว่า นายสิทธิ์ชัย เคยเป็นพนักงานขนส่งสินค้าอยู่ในบริษัทแห่งหนึ่งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ก่อนที่จะมาป่วยเป็นอัลไซเมอร์มานานหลายปี ส่วนครอบครัวได้เลิกลากับภรรยามานานหลายปีแล้วและแยกกันอยู่ นายสิทธิ์ชัย ต้องพักอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้เพียงคนเดียวแต่ยังสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ตลอด

สอบถาม นายมารุต ขำละเอียด อายุ 42 ปี เพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามเล่าให้ฟังว่า ตนไม่เห็นผู้ตายออกมาจากบ้านนานกว่า 3-4 วันแล้วและมีกลิ่นคล้ายซากศพลอยโชยออกมาจากตัวบ้านซึ่งตนคิดว่าน่าจะเกิดเหตุร้ายจึงได้เรียกเพเอนบ้านใกล้เคียงตะโกนเรียกเจ้าของบ้านอยู่นานแต่ไม่มีเสียงตอบรับจึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยให้ช่วยมาตรวจสอบ ซึ่งโดยปกติชายคนดังกล่าวจะเดินออกมาจากบ้านเพื่อซื้ออาหารช่วงเช้าและช่วงเย็นเท่านั้นไม่เคยสุงสิงกับใครบางครั้งออกมายืนเกาะประตูรั้วหน้าบ้านเมื่อมีคนมายืนคุยหรือคนงานมาทำถนนของหมู่บ้าน แต่ครั้งนี้กลับหายหน้าเข้าไปในบ้านนานหลายวันประกอบกับมีกลิ่นเหม็นโชยออกมาจึงคิดว่าน่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้น แต่โชคดีที่ชายคนดังกล่าวไม่เป็นอะไร จึงฝากถึงญาติให้มั่นแวะเวียนมาดูแลกันบ้างหากเกิดเจ็บป่วยหรือมีเหตุการณ์อะไรจะสามารถช่วยเหลือกันได้อย่างทันท่วงทีอีกด้วย