อาชญากรรม

ที่แท้เป็นฝีมือหลาน แทงน้าสะใภ้ดับคาบ้านพัก แค้นไม่แบ่งทรัพย์สินให้ญาติหลังเลิกรา

โดย chutikan_o

30 มิ.ย. 2565

101 views

ตำรวจรวบตัวผู้ก่อเหตุกระหน่ำแทงหญิงวัย 55 ปีเสียชีวิตคาบ้านพัก ที่แท้เป็นหลานของอดีตสามีผู้เสียชีวิต สารภาพปมแค้นแทนน้าชายที่หย่าร้างกับผู้เสียชีวิตแต่ไม่ได้ทรัพย์สมบัติติดตัวไปเลยแม้แต่อย่างเดียว

ความคืบหน้า กรณีคนร้ายใช้อาวุธกระหน่ำแทงนางน้อย ชาวเมียนมา อายุ 55 ปี เสียชีวิตอยู่ภายในบ้านพักกลางสวนอินทผาลัม ในพื้นที่ตำบลหนองขาว อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 02.30 น. วันที่ 19 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา

ลูกชายของผู้เสียชีวิต ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เห็นคนร้ายเป็นชายสวมหมวกมีปีกปิดบังใบหน้า เข้ามาก่อเหตุแห่งผู้เสียชีวิตถึงภายในบ้านพักก่อนจะวิ่งออกมาจากบ้านพักและพยายามไล่แทงลูกชายของผู้เสียชีวิตที่ตื่นมาเห็นเหตุการณ์กลางดึก แต่ลูกชายของผู้เสียชีวิตสามารถวิ่งหนีหาชีวิตรอดมาได้กระทั่งแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบในที่เกิดเหตุดังกล่าว

หลังจากเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรหนองขาวได้ลงพื้นที่สอบปากคำคนงานชาวเมียนมาร์ในสวนอินทผาลัมมาสอบปากคำอย่างละเอียด รวมถึงส่งศพผู้เสียชีวิตไปตรวจหาร่องรอยการถูกล่วงละเมิดทางเพศ และนำตัวของคนงานชาวเมียนมาในสวนอินทผาลัมจำนวน 15 คนมาเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอเพื่อสืบหาตัวคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้นั้น

ล่าสุด วันนี้ (30 มิถุนายน 2565) พลตำรวจโทธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้เดินทางลงพื้นที่สถานีตำรวจภูธรหนองขาว เพื่อแถลงข่าวผลการจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุในคดีดังกล่าว ซึ่งคนร้ายร้ายดังกล่าวก็คือ นายซาง ไม่มีนามสกุล ชาวเมียนมา อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นหลานชายของนายวิน อดีตสามีของผู้เสียชีวิตที่เพิ่งเลิกรากันไปได้ไม่นาน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวของนายซางได้ ขณะนี้ไปหลบซ่อนตัวทำงานเป็นคนงานก่อสร้างอยู่ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร

หลังจากถูกจับกุมตัวนำมาสอบปากคำอย่างละเอียด นายซางให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือสังหารนางน้อยจริง โดยมีมูลเหตุมาจากความแค้นแทนนายวิน น้าชายของผู้ก่อเหตุ ที่อยู่กินกับผู้เสียชีวิตมาเป็นเวลานานกว่า 5 ปี แต่เมื่อเลิกรากันไป ผู้เสียชีวิตกลับไม่ยอมแบ่งทรัพย์สินใดๆ ให้กับอดีตสามีเลย ทำให้นายซางซึ่งทราบข่าวเกิดความแค้นใจแทนน้าชาย และตัดสินใจวางแผนลงมือก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยม

พันตำรวจเอกมนตรี แตงโต ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหนองขาว กล่าวถึงพฤติการณ์ของผู้ก่อเหตุว่า เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2565 ผู้ก่อเหตุได้ไปยืมรถจักรยานยนต์จากนายวิน อดีตสามีของผู้เสียชีวิต จากนั้นได้ขับรถมาซ่อนตัวอยู่บริเวณไร่อ้อยใกล้เคียงกับสวนอินทผาลัมที่เกิดเหตุ กระทั่งถึงช่วงกลางดึก จึงได้แอบเข้าไปด้านข้างสวนอินทผาลัมและเดินไปยังบ้านพักของผู้เสียชีวิต เฝ้าคอยจนผู้เสียชีวิตเข้าไปนอนในบ้านพัก จึงแอบย่องเข้าไป ที่พกติดตัวมาด้วย จ้วงแพงไปยังร่างของผู้เสียชีวิตที่กำลังนอนหลับอยู่เข้าที่บริเวณลำคอ ลำตัวข้างซ้าย และเหนือราวนมข้างซ้ายรวมทั้งสิ้น 5 แผล จนเป็นเหตุให้นางน้อยเสียชีวิต

หลังจากนางน้อยเสียชีวิต ลูกชายของนางน้อยซึ่งพักอยู่ใกล้กันได้เดินมาเห็นเหตุการณ์ ทางผู้ก่อเหตุ จึงใช้อาวุธที่เตรียมมาไล่แทงใส่ลูกชายของผู้เสียชีวิตที่วิ่งหลบหนีออกไปจากจุดเกิดเหตุ จากนั้น ผู้ก่อเหตุจึงได้เข้าไปนำทรัพย์สินของผู้เสียชีวิต เป็นกระเป๋าสะพายสีชมพู พร้อมด้วยสร้อยคอสามกษัตริย์ จำนวน 1 เส้น เครื่องประดับต่อเงินต่อทองจำนวน 2 ตัว และเงินสดอีกจำนวนหนึ่งหลบหนีออกไปจากจุดเกิดเหตุ ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ พร้อมของกลางเป็นอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุ เสื้อผ้าและรถจักรยานยนต์ที่ใช้ในวันก่อเหตุ รวมถึงกระเป๋าและทรัพย์สินมีค่าของผู้เสียชีวิต

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวว่า เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุใน ความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน รวมถึงจะได้ทำการสอบปากคำผู้ก่อเหตุเพิ่มเติม เพื่อดูว่ามีผู้ร่วมลงมือวางแผน หรือให้การช่วยเหลือในระหว่างที่ผู้ก่อเหตุหลบหนีหรือไม่ หากพบว่ามีผู้ใดเกี่ยวข้องก็จะได้ขยายผลนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คุณอาจสนใจ