อาชญากรรม

‘อัจฉริยะ’ แจ้งความ ‘ทนายเดชา’ หมิ่นประมาท ลั่น ไม่รับคำขอโทษ กราบเท้าอย่างเดียว

โดย attayuth_b

25 มิ.ย. 2565

116 views

วันนี้ (25 มิ.ย.) ที่ สภ.พระประแดง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้เข้าพบกับพ.ต.ท.โทประสงค์ อินเสมียน พนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อกล่าวหาหมิ่นประมาทกับทนายเดชา ในเรื่องที่กล่าวหาว่านายอัจฉริยะไปหลอกลวง คุณแม่พนิดาหรือแม่น้องแตงโม ที่ทางเราได้รับมอบอำนาจโดยชอบ ต้องการชื่อทนายเดชามาพูดลอยๆแล้วกล่าวอ้างหาว่าคุณแม่มาพูด หรือพูดโดยที่ไม่รับผิดชอบ ซึ่งคดีวันนี้เป็นคดีที่ 5 จากการที่เราได้มีการร้องฟ้องศาลเอง รวมถึงมีการแจ้งความตามโรงพักต่างๆซึ่งในสัปดาห์หน้า ซึ่งเราจะต้องไล่ดำเนินคดีทั้งหมดที่เขาพูดมาตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบันซึ่งคาดว่าน่าจะไม่ต่ำกว่า 15 คดี ซึ่งรอรับหมายเรียกได้เลยรับรองว่าทั่วไทย ซึ่งเราก็จะให้มีการแจ้งความทั่วประเทศรองคิดเอาแล้วกัน

นอกจากนี้นายอัจฉริยะ อยากจะเรียนพี่ๆสื่อมวลชนตรงๆว่าเราไม่คู่ขัดแย้งกันแต่เนื่องจากว่าเมื่อคืนนี้มีช่องทีวีพูล ได้มีการไลท์สดให้สัมภาษณ์ โดยมีการพาดพิงถึงครอบครัว ซึ่งคนที่สัมภาษณ์ก็ได้มีการหัวเราะเยาะเย้ย ฉะนั้นแล้วเขาต้องเป็นผู้ต้องหาร่วม การอยากได้เรตติ้งของพี่ๆสื่อมวลชนต้องอยู่ภายในกรอบของกฎหมาย แต่ไม่ใช่มาละเมิดลูกเมียผม จะพูดถึงผมผมไม่ว่า แต่การที่ละเมิดลูกเมียผมถือว่าใช้ไม่ได้ อันนี้ถือว่าคุณเป็นผู้สื่อข่าวที่ไม่มีจรรยาบรรณ เนื่องจากคุณต้องการเรตติ้งอย่างเดียวโดยไม่คำนึงถึง สิทธิส่วนบุคคลของครอบครัวตน ซึ่งลูกตนดูรายการเมื่อคืนก็ไม่สบายใจ

ทั้งนี้ภรรยาตนก็ไม่สบายใจ โดยไม่เคยนี้มีการสัมภาษณ์ไลฟ์สดไปทั่วประเทศและทั่วโลกด้วย ตนถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิ์ เป็นอย่างมากของสื่อมวลชน ฉะนั้นตนไม่อยากฟ้องสื่อมวลชน ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีการฟ้องสื่อมวลชนมาแล้วในคดีที่มีการพาดพิงแบบนี้โดยเรื่องอยู่ระหว่างอัยการ ซึ่งคดีนี้ก็เหมือนกัน ตนก็ต้องขอโทษทีวีพูลด้วย ตนจำเป็นต้องทำเพราะผมเสียหายการที่มากล่าวหาเมียตนกับลูกแบบนี้มันเป็นสิ่งที่เรารับไม่ได้คือถ้ามันมีอะไรก็มาคุยกับตนลงกับตนแต่อย่าไปลงกับครอบครัวตน ซึ่งเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ดังนั้นก็ต้องแจ้งนักข่าวไว้เลยว่า ถ้าทำอีกนักข่าวช่องไหนก็แล้วแต่ ถ้าต้องการเรตติ้งคุณก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่คุณทำด้วย ตนพูดตรงๆตนบังคับใช้กฎหมาย เท่าที่ตนทำได้ตามกฎหมาย

นอกจากนี้นายอัจฉริยะไม่รับคำขอโทษ ต้องกราบตีนอย่างเดียว ในเมื่อเขาบอกว่าเสื้อเขา ตำรวจกลัวเขาทั้งประเทศ อันนี้ก็เป็นการดูถูกเหยียดหยามตำรวจทั้งประเทศ เพราะว่าเขาบอกเองว่าถ้าใครซื้อเสื้อเขาไปใส่ ตำรวจทางโรงพักเกรงใจเขาหมด ตนเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าท่านพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะปล่อยให้โรงพักต่างๆทั่วประเทศ เป็นแบบที่เขาพูดไหม ใส่เสื้อแล้วไปโรงพักต่างๆ ตำรวจจะไม่กล้าดำเนินคดี ซึ่งตนกำลังพยายามดูท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นก็ไม่ต้องพึ่งกฎหมายไทยแล้ว ก็ใช้ศาลเตี้ยกันเลย ในเมื่อถ้าตำรวจเลือกปฏิบัติ ถ้าเราทำผิดก็ให้ศาลลงโทษตัดสิน แต่ต้องขอไว้อย่างหนึ่งว่าผู้ใหญ่อย่าไปบังคับร้อยเวรในการออกหมาย อะไรต่างๆอย่างนี้ ซึ่งที่จริงอยู่ระหว่างสอบสวน ข้อเท็จจริงให้ทราบว่า ตนทำผิดหรือไม่ แต่การที่โทรไป ให้ออกวันนั้นวันนี้ เขาก็ไม่สบายใจ อย่าไปบังคับเด็กหรือร้อยเวรที่เขาไม่รู้เรื่อง ให้ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองคลองธรรม ของกฎหมายดีกว่า

เราเองก็มีบุคคลที่สามมายืนยันว่า ข้อความของเขาที่ว่ามีการไลฟ์สด มันหมิ่นประมาทไหม แล้วก็เป็นข้อความที่ทำให้เราเสียหายหรือไม่ ตนไม่ใช่ตำรวจ แจ้งข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา โดยที่เอามาเปิดเผย มันไม่ใช่เพราะว่า คนที่เปิดคอมพิวเตอร์ไม่ได้พูดถึงตำรวจ เขาไม่ได้พูดอะไรเลย แล้วผมถามว่าเขาผิดได้อย่างไร นั่นคือการยัดข้อหา เหมือนที่ผมเคยโดนเมื่อหลายปีที่แล้ว ซึ่งคนที่เปิดคอมพิวเตอร์ยืนยันว่า 1 จะไม่ไปรับทราบข้อกล่าวหา 2 เขาจะให้ออกหมายจับไม่ประกันตัว


คุณอาจสนใจ

Related News