อาชญากรรม

‘คุณแม่’ ลั่น! ไม่รักแล้ว ‘ทนายเดชา’ ฟ้าเปิดได้เจอ ‘ส.ส.เต้’ จ่อยื่น DSI รับ ‘คดีแตงโม’

โดย JitrarutP

30 พ.ค. 2565

86 views

“คุณแม่” ประกาศลั่นไม่รัก “ทนายเดชา” แล้ว จ่อยื่น DSI รับ “คดีแตงโม” เป็นคดีพิเศษ ขณะที่ “เต้ มงคลกิตติ์”  ไม่หวั่นหลุดเก้าอี้ส.ส. เชื่อตำแหน่งอยู่ได้ไม่นาน แต่ตำนานอยู่ได้ตลอดไป



หลังพบกับกรรมาธิการนายมงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ และนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติม โดยคุณแม่ รู้สึกสบายใจและมีความหวังมากขึ้น แต่ต้องทำตามระเบียบของกรรมาธิการ และดีใจที่แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ เข้ามาช่วยเหลือ และได้ขอโทษคุณหญิงหมอไปตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว กับเรื่องก่อนหน้านี้ที่มีปัญหากัน ตั้งแต่มีนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เป็นทนายความ ซึ่งตอนนั้นตนไม่ค่อยได้พูดและไม่กล้าขัดใจนายเดชา ส่วนกรณีที่มีการส่งพัสดุมายังกมธ. แต่ไม่ได้จ่าหน้าซองพัสดุเป็นชื่อบังแจ็คนั้น ตนก็ไม่ทราบเรื่องนี้



คุณแม่ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาที่ตนไม่ได้คิดว่าเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากไม่มีใครแนะนำ และนายเดชาก็ไม่ได้แนะนำ โดยบอกตนแค่ว่าอย่าทำ เดี๋ยวหาทางลงไม่ได้ และย้ำอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งฟ้าเปิดและได้มาเจอนายมงคงกิตติ์ จึงได้ทำอะไรทุกอย่างที่จะเป็นความจริง และเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ซึ่งตนได้บอกกับแตงโมทุกวันว่า จะหาความยุติธรรมให้กับแตงโมให้ได้ ถึงจะเหนื่อยแต่ก็ยินดีทำให้ลูก



เมื่อถามว่าคุณแม่อยากฝากอะไรถึงนายเดชาหรือไม่ คุณแม่ หัวเราะ ก่อนกล่าวว่า เลิกคิดถึงคุณแม่ได้แล้ว คุณแม่จ่ายค่าข้าวไปแล้ว ทำไมต้องปล่อยให้เป็นข่าวหลายวัน โดยคุณแม่คิดว่านายเดชาเป็นคนปล่อย ซึ่งหากนายเดชาคิดถึงคุณแม่ก็ขอให้เงียบๆ คิดถึงในใจ ซึ่งตอนนี้คุณแม่ไม่รักนายเดชาแล้ว แต่ยังคิดถึงอยู่ สามารถคิดถึงกันได้



ด้านนายมงคลกิตติ์ กล่าวว่าตอนนี้ฟ้าเปิด ขณะนี้รอให้นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ในฐานะคณะทำงานร่างหนังสือเสร็จ เพื่อที่จะพาคุณแม่จะไปยื่นเรื่องกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้เป็นคดีพิเศษ นายมงคลกิตติ์ ยังฝากไปถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีสำคัญและส่งผลต่อกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย ซึ่งสามารถเรียกคดีนี้ว่า แตงโมโมเดล หากคดีนี้ประสบความสำเร็จก็ถือว่าประชาชนช่วยกัน และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบกฎหมาย เพื่ออำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน



และเชื่อว่านายกรัฐมนตรีคงจะใส่ใจ เห็นใจประชาชนที่สนใจและต้องการให้คดีนี้เป็นคดีพิเศษ หากนายกรัฐมนตรีกำชับกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม และบอร์ดคณะกรรมการคดีพิเศษอย่างเต็มที่ ก็เชื่อว่าความศรัทธาจะเกิดขึ้นกับรัฐบาลและตัวนายกรับมนตรีเอง โดยมองว่าตำรวจได้ทำหน้าที่เต็มที่แล้ว แต่ด้วยข้อจำกัดหลายอย่าง จึงไม่อยากไปตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ



เมื่อถามว่าการทำคดีนี้อาจทำให้ถูกฟ้องดำเนินคดี นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า การเป็นผู้แทนประชาชน หากปล่อยให้ประชาชนไปเจ็บปวดด้วยตัวเอง และไม่รู้จักเสียสละเอาตัวเข้ามาฝ่ากระสุนแทน จะเป็นส.ส.ไปทำไม หากเรื่องแค่นี้ยังทำไม่ได้ เรื่องปากท้องประชาชนจะทำได้อย่างไร ส่วนกรณีที่นายเดชาออกมาระบุว่าอาจจะส่อผิดจริยธรรมส.ส.นั้น นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า หลุดเก้าอี้ส.ส.ก็หลุดไป เพราะ “ตำแหน่งอยู่ได้ไม่นาน แต่ตำนานอยู่ได้ตลอดไป”

คุณอาจสนใจ

Related News