อาชญากรรม

‘เต้ มงคลกิตติ์’ รับไม้ต่อ ‘คดีแตงโม’ จ่อเรียก 200 ล้าน เผย ‘แม่’ สบายใจดีแม้ทัวร์ลง

โดย JitrarutP

26 พ.ค. 2565

301 views

“เต้ มงคลกิตติ์” รับไม้ต่อทำ “คดีแตงโม” ขอเวลา 15 - 30 วันส่งฟ้องศาล จ่อฟ้องเรียกค่าเสียหาย 200 ล้าน เผยแม่สบายใจดี แม้ถูกโซเชียลถล่ม เชื่อมีเหตุผล ส่งโทรศัพท์ให้ “บังแจ็ค” ซัดสื่อปั่นกระแส ทำถูกทัวร์ลง 



นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไล ยอมรับว่านางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดาของแตงโม ดาราสาวที่เสียชีวิต กลางแม่น้ำเจ้าพระยา ได้ประสานขอให้พรรคไทยศรีวิไลย์ และชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ช่วยทำคดี ซึ่งถือเป็นทีมเดียวกันหมดเพราะนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ในฐานะประธานชมรมฯ ก็เป็นที่ปรึกษาพรรคอยู่แล้ว เพราะแม่เชื่อว่า ลูกสาวถูกฆาตกรรม



โดยการทำงานจะมีการแบ่งงานกัน มีทีมทนายความ ที่มีใบอนุญาตทำงานร่วมกันประมาณ 10 คน และมีทีมที่ปรึกษาเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย มีอดีตอัยการอาวุโส อดีตผู้พิพากษาศาลสูงมาช่วยเขียนร่างคำฟ้องดำเนินคดี ตามกฎหมายอาญามาตรา 289 วงเล็บ 7 ต่อไป โดยทำเป็น 2 ชุดคือคดีอาญา และคดีแพ่งเรียกร้องค่าเสียหายประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งหลักฐานบางส่วนที่ได้มายังได้มาไม่ครบถ้วน หลักฐานบางส่วน สามารถยื่นเพิ่มเติมไปในชั้นอัยการได้เลย ซึ่งเป็นอีกคดีหนึ่งที่จะดำเนินการคล้ายๆ กับกรณีของแพทย์หญิงผัสพร บุญเกษมสันติ ที่บิดาดำเนินคดีฟ้องร้องเอง



ทั้งนี้แม้ทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย จะเป็นที่ปรึกษาของพรรคแต่จะไม่ได้ร่วมทำคดีนี้โดยจะมอบให้ทนายของพรรคและทีมทนายอัจฉริยะร่วมทำคดี



ทั้งนี้ช่วงเย็นวันนี้ (26 พ.ค.) จะไปรับประทานอาหารและพูดคุย กับแม่แตงโมถึงขึ้นตอนวิธีการดำเนินการ และ ในวันพรุ่งนี้(27 พ.ค.) จะมาแถลงความคืบหน้าที่สภาอีกครั้งโดยแม่และทนายอัจฉริยะ จะเดินทางมาด้วย เพื่อร่วมกันวางแผนการดำเนินคดีต่อไป ทั้งนี้เชื่อว่าภายใน15-30 วัน น่าจะยื่นร้องต่อศาลได้ เพราะรับคดีมา ถือว่ามาไกลพอสมควร ถ้าทุกอย่างสว่าง ข้อมูลจะมาเรื่อยๆ จะทำให้ดีที่สุด



และไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายใดๆ กับแม่พรรคออกให้ทั้งหมด และหากแม่ฟ้องทางแพ่งและได้รับเงินมาก็เป็นเรื่องของแม่ ว่าจะเอาไปทำอะไร



กรณีที่มีกลุ่ม 16 จะมาร่วมไขคดีนั้นนาย มงคลกิตติ์ ต้องขอขอบคุณ ถือเป็นเรื่องส่วนรวม และทางกลุ่ม 16 ยังได้ร่วมลงชื่อ ในร่างพระราชบัญญัติสืบสวนคดีอาญาพ.ศ.... และ ร่างพ.ร.บ.สำนักงานทนายรัฐ



เมื่อถามว่าใครเป็นคนติดต่อ ทำคดีแม่หรือนายมงคลกิตต์นั้น นายมงคลกิตต์กล่าวว่าเดิมทีคุยกันอยู่แล้วตั้งแต่ต้นและคุยมาเรื่อยๆ แต่ตอนนั้นมีงานเยอะ ไม่ไหวแต่คุณแม่ก็มองว่าตนช่วยไขคดีแตงโมมานานแล้ว ก็คิดว่า แนวทางความคิดตรงกันเรื่องของคดีฆาตกรรม



ส่วนมือถือที่ให้บังแจ็คถือเป็นสิทธิ์ของคุณแม่เพราะเป็นเจ้าของทรัพย์สินและให้ไปเลยแต่ให้ไปกู้ข้อมูลที่ถูกลบไป ช่วงเวลาของวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 20.15น.-24.00น



สำหรับ บังแจ็คถือว่า เจตนาดี และ มีประโยชน์ และไว้เนื้อเชื้อใจกัน เพราะช่วยกู้ข้อมูลจากมือถือออกมาได้ซึ่งกำลังตรวจสอบว่า ข้อมูลนี้ถูกลบเมื่อไหร่ และเห็นว่าทุกคนที่มาร่วมไขคดีก็เพื่อให้เกิดความยุติธรรมถือเป็นพลเมืองดีทั้งสิ้น และหลังจากนี้ใครมีคลิปหรือข้อมูล ขอให้แจ้งมาที่ตนโดยตรงไม่ต้องกลัวความไม่ปลอดภัยไม่ต้องกลัวความไม่ปลอดภัย เพราะพรรคไทยศรีวิไลย์มีอดีตทหาร จำนวนมาก และนักรบก็มากทั้งในและนอกระบบ



นายมงคลกิตติ์ บอกว่าแม่สบายใจดี แม้จะถูกสังคมโจมตีอย่างหนัก หลังส่งมือถือให้บังแจ๊ค แต่ส่วนตัวเชื่อว่า แม่ไม่มีพฤติกรรมบกพร่องตามที่สังคมวิจารณ์ เชื่อแม่ทุกคนรักลูก เพราะตั้งครรภ์มา 9 เดือน แต่แม่อาจตกเป็นเครื่องมือของสื่อบางสื่อ และอินฟลูเอนเซอร์ หรือ ผู้มีอิทธิพลบนสื่อโซเชียล



ส่วนที่ทนายเดชาไม่ทำคดีให้กับแม่แตงโมแล้วนั้นนายมงคลกิตติ์กล่าวว่า อาจเป็นเรื่องความเห็นที่ไม่ตรงกันที่แม่มองว่าน่าจะเป็นฆาตกรรมแต่ทนายเดชามองว่าเป็นเรื่องของอุบัติเหตุ และไม่ขอให้ความเห็นว่าเหตุใดทนายเดชาถึงโพสต์ว่าหมดเวรหมดกรรมหลังถอนตัวจากคดีนี้



นายมงคลกิตติ์ ยังระบุถึงกรณีที่ทนายตั้ม ศิทรา เบี้ยบังเกิด วิจารณ์แม่ส่งมือถือให้บังแจ็ค ว่า การพูดหรือแสดงความคิดเห็นอะไรจะต้องรับผิดชอบด้วย



นายมงคลกิตติ์ ยังยืนยันว่าการทำคดีแตงโม คือภารกิจของ ส.ส. ไม่กระทบต่อการเตรียมการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ..) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ไม่กระทบ เพราะเตรียมตัวอยู่แล้ว ซึ่งใช้เวลาในการอภิปรายในสภาฯ แค่ 25 นาที คิดว่าไม่มีปัญหา ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนั้น อยู่ในสายเลือดอยู่แล้ว แค่มองตาก็รู้แล้วว่ารัฐมนตรีคนนี้ทำผิดอะไรบ้าง

คุณอาจสนใจ

Related News