อาชญากรรม

ผอ.นิติเวชฯ รับ คลิปชันสูตร “แตงโม” ของจริง แจง “อัลปราโซแลม” ไม่ใช่ยาเสียสาว

โดย attayuth_b

10 พ.ค. 2565

171 views

พล.ต.ต.สุพิไชย ลิ่มศิวะวงศ์ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ยอมรับ คลิปวีดีโอ ที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำไปเผยแพร่ อ้างว่า เป็นภาพการนำศพของน.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม มาเปรียบเทียบกับใบพัดเรือ เป็นเหตุการณ์จริง ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 มี.ค.65 ขณะที่ ทีมแพทย์นิติเวช นำร่างของแตงโม จากห้องเย็น ไปผ่าพิสูจน์ ตามที่พนักงานสอบสวนร้องขอ ให้มีการเปรียบเทียบร่องรอยบาดแผลของศพ กับใบพัดเรือของกลาง ว่าเข้ากันได้หรือไม่ โดยใช้สถานที่ 1 ใน 3 ห้องผ่าศพ ที่อยู่ในบริเวณสถาบันนิติเวช ซึ่งห้องดังกล่าว เป็นห้องสำรอง ไว้สำหรับฉีดยา ซึ่งบุคคลภายนอกไม่สามารถเข้าไปได้ และมีการดำเนินการในวันเวลาราชการ ซึ่งขณะผ่าชันสูตร มีการบันทึกทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ จากทีมชันสูตร 4 คน ประกอบด้วย แพทย์เจ้าของคดี 1 คน ผู้ช่วยแพทย์ 1 คน และ ช่างภาพ 2 คน ไว้เป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดี

สำหรับขั้นตอน ตั้งแต่สถาบันนิติเวชฯ รับศพแตงโม วันที่ 26 ก.พ. มีการแกะห่อศพ แล้วบันทึกภาพไปกว่า 200 ภาพ โดยพบว่า บนร่างของแตงโม มีบาดแผล 26 บาดแผล ก่อนนำไปผ่าชันสูตรอีกครั้ง ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม พบว่า มีบาดแผลเพียง 22 บาดแผล ซึ่งคาดเคลื่อนดังกล่าว เป็นที่ยอมรับได้ในทางการแพทย์ เพราะระยะเวลาผ่าชันสูตรห่างกันถึง 19 วัน

ส่วนกรณีที่มีการนำคลิปไปเผยแพร่ต่อสาธารณชน ยืนยันว่า ข้อมูลดังกล่าว ไม่ได้มีการปกปิด เพราะเป็นข้อมูลที่นำไปใช้ประกอบสำนวนคดี แต่ยืนยันว่า ไม่ได้ออกจากสถาบันนิติเวชฯ โดยข้อมูลนี้ จะส่งต่อให้เฉพาะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการรับผิดชอบสำนวนคดีเท่านั้น ส่วนจะเข้าข่ายความผิดหรือไม่ ต้องดูที่เจตนา แต่ขณะนี้ ยอมรับว่า เกิดความเสียหายกับองค์กร ซึ่งหากพบว่า เป็นการดิสเครดิตเจ้าหน้าที่ ก็ต้องพิจารณาข้อกฎหมายอีกครั้ง แต่ยอมรับว่า เสียกำลังใจ เพราะทุกคนทำงานตามมาตรฐาน และไม่ได้ปกปิดข้อมูล โดยที่ผ่านมา องค์กรไม่มีความขัดแย้ง โดยมีแนวทางและเจตนาเดียวกัน ที่จะทำให้คดีคลี่คลาย

ส่วนกรณีพบสารอัลปราโซแลม หนึ่งในพยานเพศชาย ที่อยู่บนเรือกับแตงโม ยืนยันว่า ยากลุ่มดังกล่าว มีฤทธิ์ต่อจิตประสาท โดยมีฤทธิ์คลายกังวล หรือคลายเครียด ใช้ในการรักษา โรคเครียด ลมชัก นอนไม่หลับ ไม่มีคุณสมบัติกระตุ้นทางเพศ แต่หากใช้ในปริมาณมาก อาจทำให้ผู้ใช้ง่วงนอน ส่วนที่เรียกว่า ยาเสียสาว เชื่อว่า เป็นการสื่อสารที่ผิดพลาด

คุณอาจสนใจ