อาชญากรรม

ลูกผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เผากุฏิเจ้าอาวาส วอดทั้งหลัง เผย มีประวัติเอี่ยวยา-ป่วยจิต

โดย attayuth_b

19 เม.ย. 2565

85 views

มีกรณีเพจเฟซบุ๊กชื่อ “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part3”โพสต์คลิปชายวัยกลางคนเผาขยะอยู่บริเวณข้างกุฏิกลางดึก โดยมีชาวบ้านที่เป็นพลเมืองดีเข้าไปถามว่าเข้ามาทำอะไรแต่ก็อ้างว่ามาทำความสะอาดวัดเพราะขยะและหญ้าบริเวณดังกล่าวมันรก จากนั้นก็ได้มีการคุยเล่นกันตามปกติก่อนจะเดินออกมาจากบริเวณดังกล่าว จนกระทั่งกลางดึกวันที่ 19 เมษายน 2565 ก็ได้มีอีกคลิปซึ่งเป็นภาพที่กุฏิเจ้าอาวาสได้ถูกเพลิงไหม้วอดทั้งหลัง พร้อมข้อความระบุว่า “พิษภัยของยาเสพติด..ภัยร้ายแก่ชุมชนและสังคม #ขอนแก่น เหตุเกิดตี3ที่วัดบ้านหนองโจดหนองสำโรง เผาวัดเรียบร้อย คับรอบนี้ผู้นำทั้ง2บ้านชาวบ้านพระ สามารถดำเนินคดีได้เต็มที่ บ่มีขออ้างเด้อบาดนี้เต็มตีนปานนี้ ฤทธิ์ของยาบ้าแตกซวดๆ Aระดับหัวแถวขออำเภอ บ่เคยถืกจับมาเป็น10กว่าปีแล้วAบ้านนี้ หมู่5หมู่10 หนองโจด-หนองสำโรง จงเจริญยาบ้าเสรี5555”

ล่าสุดวันนี้ (19 เม.ย.) เมื่อเวลา 17.00 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบที่วัดจันทรังษี บ้านหนองสำโรงหมู่ 10 ต.ลอมคอม อ.พล จ.ขอนแก่น โดยได้พบกับพระครูจันทร์ บุญหล่อ อายุ 89 ปี เจ้าอาวาสวัด ซึ่งนอนอยู่ด้วยอาการปวดเอว เพราะหนีไฟไหม้ออกมาทางหน้าต่างจนก้นกระแทกพื้น และญาติโยมพากันนั่งคุยกันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ภายในศาลาวัด ซึ่งจากการสอบถามทราบว่าเหตุการณ์ไฟไหม้นั้นเกิดจากฝีมือลูกชายผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งมีอาการทางจิตและเคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดจนถูกตำรวจจับตัวดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้ และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำตัวไปบำบัดรักษา

พระครูจันทร์ บุญหล่อ อายุ 89 ปี เจ้าอาวาสวัด เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงตี 2 เกือบตี 3ขณะนั้นเจ้าอาวาสกำลังจำวัดตามปกติ จู่ๆชายดังกล่าวก็พูดขึ้นมาว่าจุดแล้วเด้อหลวงปู่ ไฟไหม้แล้วเด้อ ไฟไหม้กุฏิหลวงปู่แล้วเด้อ ก่อนจะมีไฟไหม้ขึ้นมาบนกุฏิ เจ้าอาวาสตั้งสติได้ รีบปีนออกทางหน้าต่าง โดยการงัดหน้าต่าง และโชคดีที่หน้าต่างพังอยู่แล้ว สามารถงัดออกได้ง่ายทำให้หนีรอดออกมาได้ แต่ก็ได้รับบาดเจ็บปวดเอวเนื่องจากก้นกระแทกพื้น ก่อนจะไปตามชาวบ้านมาช่วยดับไฟและแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงทันที

ขณะที่นางหล่ำ นามเดช อายุ 68ปี ชาวบ้านที่อยู่ใกล้วัดเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตอนเกิดเหตุเห็นคนที่วางเพลิงวิ่งออกมาจากจุดเกิดเหตุและตีกลอง พร้อมกับตะโกนประกาศว่า “เผากุฏิแล้วเด้อ เผากุฏิแล้วเด้อ” ซึ่งก่อนหน้านี้ชายคนดังกล่าวเคยเข้ามาเผาบริเวณข้างกุฏิแล้ว 1 ครั้ง เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2565 แต่เป็นช่วงกลางวันชาวบ้านก็เลยห้ามปรามไว้ทันและนำตัวส่งโรงพยาบาลจิตเวช ภายหลังจากที่ออกมาจากโรงพยาบาลจิตเวชชายคนดังกล่าวก็ได้กลับเข้ามาเผยขยะบริเวณข้างกุฏิอีกครั้งและมีคนมาพบเห็นอีก ก่อนจะมาในครั้งนี้ก็มาเผากุฏิเจ้าอาวาสจนวอด และโชคดีที่เจ้าอาวาสไม่ถึงแก่ชีวิต และเคราะห์ดีอีกมากๆที่หน้าต่างที่เจ้าอาวาสออกมาลูกกรงพังและเป็นบานเดียวที่พัง งัดออกแล้วกระโดดหนีเปลวไฟได้ทัน ส่วนผู้ก่อเหตุนั้นตำรวจบอกว่าหลักฐานไม่เพียงพอเอาผิดไม่ได้ แม้ชาวบ้านจะรู้ว่าใครทำแต่ไม่มีหลักฐานก็ทำอะไรไม่ได้ ตอนนี้อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเอาตัวไปบำบัดรักษาให้หายด้วย

ด้าน พ.ต.อ.ถนอมสิทธิ์ วงษ์วิจารณ์ ผู้กำกับการ สภ.พล บอกกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อคืนเวลาประมาณ 03.00 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ วัดจันทรังษี บ้านหนองสำโรงหมู่ 10 ตำบลรอมคอม อำเภอพล จังหวัดขอนแก่น คาดว่าลูกชายผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 เป็นคนไปลงมือเผา เนื่องจากอยู่ในที่เกิดเหตุเวลาดังกล่าว และมีพยานเห็นในที่เกิดเหตุ ทางตำรวจจึงเข้าควบคุมตัวชายดังกล่าวมาสอบปากคำ เบื้องต้นให้การปฏิเสธ แต่ด้วยพยานหลักฐานที่ทางตำรวจมีสามารถส่งฟ้องศาลฝากขังดำเนินคดีในข้อหาวางเพลิงเผาทรัพย์ โดยก่อนหน้านี้ผู้ต้องสงสัยเคยมีประวัติมียาเสพติดไว้ในครอบครองเมื่อปีที่แล้ว และเคยนำตัวส่งโรงพยาบาลเพราะมีอาการทางจิต และจากการตรวจปัสสาวะของผู้ต้องสงสัยไม่พบสารเสพติดแต่อย่างใด

คุณอาจสนใจ

Related News