เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด บุกกระหน่ำยิงกลางดึก รถพรุนทั้งคัน

เมื่อเวลา 14.30.น ร.ต.อ.กำพล จำปาศรี พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม ได้รับแจ้งว่ามีเหตุกระหน่ำยิงภายในหมู้บ้าน มีรถได้รับความเสียหาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืสวนสภ.นครปฐม พร้อมด้วยชุดสืบสวนจังหวัดนครปฐม ลงพื้นที่ตรวจสอบภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.นครปฐม อ.เมืองจ.นครปฐม จุดเกิดเหตุหน้าบ้านเช่าเลขที่ 126/32 ม.9 ต.นครปฐม พบรถยี่ห้อโตโยต้า รุ่น Camry สีดำ เลขทะเบียน 2 กด 577 กทม. จอดอยู่หน้าบ้านสภาพรถถูกกระหน่ำยิงด้วยปืนขนาด 9 มม. ทั้งด้านหน้าและด้านข้างรถยนต์เก๋งประตูฝั่งคนนั่งด้านซ้าย ทำให้กระจกรถแตกระเอียดและที่ประตู ได้รับความเสียหาย จากการตรวจสอบของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้นำเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุได้ เป็นปลอกกระสุนปืนจำนวน 13 ปลอก

จากการสอบสวนน.ส.สุชาดา เทพบุรี อายุ 25 ปี ที่อยู่ 48 ม.5 ต.โคกพระเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม (เจ้าของรถ)และนายขจรยศ แซ่ลิ้ม 126/3 2 หมู่ 9 ต.นาสร้าง อ.เมืองจ.นครปฐม(แฟนเจ้าของรถ) น.ส.สุชาดาฯ ช่วงเล่าที่เกิดหตุนอนอยู่ในบ้านช่วงเวลานั้นได้ยินเสียงคล้ายประทัดไม่ได้สนใจ พอช่วงเช้าก็ออกจากบ้านไปเชงเม็งที่วัด และกลับมาก็เจอสภาพรถจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่าเมื่อ2-3 วันที่ผ่านมาได้เคยมีปัญหาทะเลาะกับเพื่อน ชื่อนายกฤษกร หรือโต เมธสุทธิ์ เรื่องค่าเช่าบ้าน เนื่องจากว่าเคยพักอาศัยเช่าบ้านหลังนี้ร่วมกันแต่ นายกฤษกร หรือโต ไม่ยอมจ่ายเงินค่าเช่าให้ และได้ย้ายออกไป ทางนายกฤษกร หรือโตน่าจะเข้าใจผิดคิดว่าตนเองเป็นคนเอาเรื่องค้างค่าเช่าไปนินทาในกลุ่มเพื่อนๆ เรื่องนี้อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ทางนายกฤษกร หรือโต โกรธแค้นจึงมากระหน่ำยิงหมายเอาชีวิตได้ขนาดนี้

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบสวนเพื่อนบ้านใกล้เคียง(สงวนหน้า)เผยว่าเมื่อคืนช่วงเวลา02.10 น.ได้มีชายรูปร่างลักษณะผิวขาวขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า PCX สี เทาดำไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียน ขี่เข้ามา 1 คน มากระหน่ำยิงที่รถด้านข้าง หลังจากนั้นก็ขี่รถจักรยานยนต์ออกไป พอเวลา ประมาณ 03.20 น.ได้ขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมาอีกครั้ง มากระหน่ำยิงด้านหน้ากระจกรถยนต์เก๋งคันดังกล่าว และขี่รถจักรยานยนต์กลับไปและไม่มาอีกแต่คาดว่าน่าจะเป็นคนที่เคยอยู่บ้านหลังเดียวกันกับผู้เสียหาย เพราะเคยเห็นนั่งกินเหล้าบ้านเดียวกัน

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.นครปฐม ชุดสืบสวนจังหวัดได้ลงพื้นที่ตามตัวผู้ก่อเหตุที่ ที่บ้านแต่ยังไม่พบตัว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางการหลบหนี และนำตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป