อาชญากรรม

บุกจับจอมโจรออนไลน์พันหน้า เปิดเฟซบุ๊กกว่า 10 บัญชี โกงเหยื่อสารพัด เชิดเงินหนี

โดย nicharee_m

28 ธ.ค. 2564

174 views

ตำรวจสอบสวนกลางจับกุมจอมโจรออนไลน์พันหน้า หลอกลวงขายของสารพัดรูปแบบ

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ โฆษก บก.ปอท. กล่าวว่า กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกันจับกุม น.ส.สุญาณี วงศ์สุภา อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐานฉ้อโกง พร้อมตรวจยึดของกลาง 1. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง, 2. สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 13 บัญชี และ 3. บัตรอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 9 ใบ โดยจับกุมได้ที่ อาคารชุดบ้านพระยาภิรมย์-รัชดา 2 ซ.เสือใหญ่อุทิศ ถ.รัชดาภิเษก แขวงลาดพร้าว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2564 เวลาประมาณ 13.00 น.

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อประมาณต้นเดือนมีนาคม 2564 ผู้ต้องหาได้ประกาศขายหน้ากากอนามัยผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก ซึ่งในห้วงเวลาดังกล่าวมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถหาซื้อหน้ากากอนามัยตามท้องตลาดได้ จึงมีผู้เสียหายหลงเชื่อสั่งซื้อหน้ากากอนามัยกับผู้ต้องหา ต่อมาเมื่อถึงกำหนดส่งมอบสินค้า ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถติดต่อกับผู้ต้องหาได้ ทำให้ได้รับความเสียหายจึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนทราบที่อยู่ของผู้ต้องหา จึงได้ดำเนินการเข้าจับกุมผู้ต้องหา พร้อมตรวจยึดของกลางที่ใช้ในการกระทำความผิดนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากการตรวจสอบทราบว่าผู้ต้องหายังมีหมายจับคดี ฉ้อโกง ในพื้นที่สถานีตำรวจอื่นๆ อีก 5 คดี ทั้งข้อหาฉ้อโกง และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ซึ่งตัวผู้ต้องหามีบัญชีเฟซบุ๊กกว่า 10 บัญชี ที่มีไว้เพื่อใช้หลอกลวงผู้อื่น โดยมีวิธีการโกงสารพัดรูปแบบ ทั้ง หลอกเป็นแม่ค้าขายทุเรียน, หลอกขายเครื่องแกง, หลอกขายหน้ากากอนามัย, หลอกให้เล่นแชร์ผ่านกลุ่มเฟซบุ๊ก, หลอกรับจ้างจัดหาพนักงานทำความสะอาด, หลอกจัดส่งพี่เลี้ยงดูแลผู้สูงอายุ, หลอกรับซื้อผักหน้าสวนโดยรับประกันราคาขายในตลาด, หลอกรับจัดส่งผักออแกนิค และหลอกขายพืชผลทางการเกษตรต่างๆ เมื่อผู้เสียหายโอนเงินมาให้ผู้ต้องหาก็จะตัดการติดต่อ ทำให้ผู้เสียหายไม่สามารถติดต่อได้ โดยในแต่ละครั้งจะหลอกเอาเงินผู้เสียหายจำนวนประมาณ 200 - 10,000 บาท เพราะคิดว่าถ้าเงินจำนวนไม่มาก ผู้เสียหายคงไม่เสียเวลาไปแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งผู้ต้องหาได้ฉ้อโกงมาแล้วกว่า 50 ราย รวมความเสียหายกว่า 300,000 บาท




สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

เตือนภัยพี่น้องประชาชน โดยกรณีดังกล่าวจะเห็นได้ภัยบนโลกออนไลน์ ยังคงเกิดขึ้นอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยมักจะอาศัยการล่อลวงโดยการขายสินค้าราคาถูก สินค้าที่ขาดตลาด ตลอดจนการลงทุนที่ได้กำไรเป็นจำนวนมากกว่าปกติ และแม้จะมีความเสียหายต่อบุคคลไม่มากนัก แต่หากนับรวมกับจำนวนผู้เสียหายแล้ว ถือได้ว่าอาชญากรรมในรูปแบบดังกล่าว ยังคงเป็นอาชญากรรมที่สร้างความเสียหายให้กับพี่น้องประชาชนเป็นจำนวนมากที่สุด ดังนั้นการเลือกซื้อสินค้าผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ จำเป็นจะต้องใช้ความระมัดระวัง และต้องตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ขายก่อนทุกครั้ง เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของคนร้ายที่คอยหลอกหากินกับพี่น้องประชาชน

คุณอาจสนใจ