อาชญากรรม

ปลัดฯทส. ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง อธิบดีกรมอุทยานฯ

โดย attayuth_b

5 ม.ค. 2566

123 views

ตำรวจกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ยังเดินหน้าสอบปากคำพยาน กรณีอธิบดีกรมอุทยานฯ ถูกดำเนินคดีฐานเรียกรับสินบน โดยข่าว 3 มิติ ได้ข้อมูลว่ามีผู้ขอเข้าเป็นพยานเพิ่มอีก 1 คน เป็นเจ้าหน้าที่ระดับหัวหน้าหน่วย ซึ่งอ้างว่าถูกเรียกเงิน 4 แสนบาท แต่เขาไม่ได้จ่าย จึงถูกย้าย


ขณะที่กระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แถลงผลสอบสวนเบื้องต้นที่ครบ 7 วัน ระบุว่าความผิดมีมูล ซึ่งปลัดกระทรวง ได้ตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง เพื่อให้ได้คำตอบได้ 30 วัน


รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง แถลงความคืบหน้าการสอบกรณีอธิบดีกรมอุทยานฯ ถูกจับฐาน เรียกรับสินบน และปฎิบัติหน้าที่มิชอบ โดยระบุว่าคณะกรรมการได้สอบทั้งฝ่ายผู้ร้องและผู้ถูกร้อง รวมถึงพิจารณาข้อมูลจากตำรวจเห็นว่าความผิดมีมูล ซึ่งนายรัชฎา ปฎิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด และจะยื่นเอกสารชี้แจงต่อคณะกรรมการสอบสวนภายในวันที่ 10 มกราคมนี้


ระหว่างนั้น สื่อมวลชนถามว่าการพบเงินสดเกือบ 5 ล้านในห้องทำงานอธิบดีเป็นเรื่องปกติหรือไม่ ซึ่งรองปลัดกระทรวงฯ ได้แสดงความเห็นส่วนตัว ที่ไม่เกี่ยวกับคณะกรรมการว่า ไม่น่าเป็นเรื่องปกติ แต่ข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับการสอบสวนของคณะกรรมการ


ตอนนี้คณะกรรมการสอบสวน ได้ส่งผลสอบถึงปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแล้ว และปลัดทรวงฯสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงนาย รัชดาให้ได้คำตอบใน 30 วัน หรืออาจขยายออกไปได้ ส่วนนายรัชดา ก็ยื่นอุทธรณ์ได้ใน 90 วัน หลังทราบผลการสอบสวน มีรายงานว่านายเถลิงศักดิ์ เพชรสุวรรณ รองปลัดกระทรวงฯคือผู้ที่ถูกแต่งตั้งเป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงนายรัชดา


ส่วนความคืบหน้าการดำเนินคดี ข่าว 3 มิติ ได้รับการยืนยันว่า นอกจากพยานที่มีประมาณ 32 คนแล้วนั้น วันนี้มีผู้แจ้งความจำนงค์ผ่านนายชัยวัฒน์ จะขอเข้าเป็นพยานด้วย


เจ้าหน้าที่คนนี้แจ้งว่าเดิมเขาทำหน้าที่เป็นหัวหน้าหน่วยงานจัดการและหัวหน้าโครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริ เขาระบุว่าเมื่อต้นเดือนเมษายน มีนายหน้ามาเจรจา ให้เขาจ่าย 4 แสนบาทเพื่อรักษาตำแหน่ง ทั้ง 2 แต่เขาไม่จ่าย ทำให้วันที่ 11 เมษายน มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่


ซึ่งย้ายจากกรมอื่นมาเมื่อ 31 มีนาคม มาทำหน้าที่แทนเขาใน ตำแหน่งหัวหน้าหน่วยจัดการต้นน้ำ และวันที่ 22 เมษายน หรืออีก 11 วันต่อมา ก็ออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่คนเดิม ทำหน้าที่หัวหน้าโครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริ แทนเขาอีก ทั้งสองคำสั่งดังกล่าว มีผลถึงวันที่ 30 กันยายน


แต่เจ้าหน้าที่คนใหม่นี้ ได้รับคำสั่งอีกเมื่อ 28 กันยายน 65 ให้ทำหน้าที่หัวหน้าหน่วยและหัวหน้าโครงการ ต่อไปอีก 1 ห้วงเวลา ซึ่งคำสั่งดังกล่าว เจ้าหน้าที่เรียกกันว่า "เป็นคำสั่งต่อวีซ่า" หมายความว่า ต้องจ่ายเงินเพื่อจะได้อยู่ในตำแหน่งต่อไป


ข่าว 3 มิติยังได้ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ ระดับผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ สาขา แห่งหนึ่ง ในภาคใต้ เขาไม่ได้ถูกเรียกรับเงิน และไม่มีนายหน้าไปเจรจาให้จ่ายเงิน แต่เขาถูกคำสั่งย้ายโดยไม่แจ้งเหตุผล ให้มาทำหน้าที่ประจำส่วนอุทยานฯ ที่ จ.นครสวรรค์ -คำสั่งที่เขาได้รับ


ผิดไปจากระเบียบราชการตรงที่เคยทำหน้าที่ ผอ.สำนักระดับซี 8 เป็นผู้บังคับบัญชา ของผอ.ส่วนในพื้นที่ แต่คำสั่งใหม่ ให้มาทำหน้าที่ "ประจำส่วนอุทยาน" ซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของ ผอ.ส่วนด้วยซ้ำ นี่คือหนึ่งในเหตุผลที่เจ้าหน้าที่ต้องการย้ำให้เห็นความไม่เป็นธรรมในการโยกย้ายในครั้งนี้

คุณอาจสนใจ

Related News