ตั้งข้อสงสัย จากคดีข่มขืนหญิงชราที่สุพรรณบุรี โยงคดีข่มขืนต่อเนื่องพื้นที่ใกล้เคียงในอดีต

คดีข่มขืนหญิงชราอายุ 72 ปี ที่อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ตำรวจใช้เวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็จับตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้

การสอบสวนพบว่าผู้ต้องหาเข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่ก่อนหน้านี้ไม่นาน และเลือกเหยื่อเป็นผู้สูงอายุที่อยู่บ้านเพียงลำพัง คล้ายกับคดีข่มขืนผู้สูงต่อเนื่องที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งยังจับตัวผู้ก่อเหตุมารับโทษไม่ได้ ตำรวจจึงตั้งข้อสงสัยว่าคดีทั้งหมดนี้อาจมีผู้ก่อเหตุเป็นคนเดียวกัน ซึ่งผลตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอจะสามารถตอบคำถามที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด ติดตามจากรายงาน คุณสายชล วัชนุชา ครับ

นี่คือเบาะแสจากพยานที่เห็นเหตการณ์หญิงชราอายุ 72 ปี ถูกข่มขืนบริเวณบ้านพักในอำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อช่วงค่ำวันที่ 26 กรกฎาคมที่ผ่านมา

คำให้การของพยานที่บอกรายละเอียดได้ชัดเจนเพราะรู้จักผู้ก่อเหตุ รวมทั้งหลักฐานคือกางเกงขาสั้นที่ถอดทิ้งไว้ กลายเป็นข้อมูลสำคัญให้ตำรวจแกะรอยจนตามจับตัวได้ช่วงบ่ายของวันรุ่งขึ้น

ผู้ต้องหาเป็นชายอายุ 66 ปี ยอมรับว่าทำร้ายร่างกายผู้เสียชีวิตจริง แต่ปฏิเสธไม่ได้ข่มขืน คดีนี้ตำรวจตั้งข้อหาข่มขืนโดยใช้กำลังประทุษร้ายให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และตั้งข้อสงสัยว่าอาจเกี่ยวข้องกับคดีลักษณะเดียวกันที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน จึงส่งดีเอ็นเอของผู้ต้องหาไปตรวจพิสูจน์อย่างละเอียด

ย้อนกลับไป 26 กันยายน 2553 คดีแรกเกิดขึ้นที่อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร ผู้เสียหายเป็นหญิงชราอายุ 70 ปี

คดีที่สอง เดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน พื้นที่อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ผู้เสียหายอายุ 71 ปี

คดีที่สามเกิดในอำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม วันที่ 8 มกราคม 2555 เป็นหญิงวัย 61 ปี คดีนี้ผู้เสียหายเสียชีวิต

คดีที่สี่เกิดในพื้นที่เดียวกันใกล้คดีที่สาม เวลาห่างกันประมาณ 2 ชั่วโมง ผู้เสียหายอายุ 70 ปี

คดีที่ห้าถึงคดีที่สิบเกิดในพื้นที่เดิมคือสมุทรสงครามและนครปฐม ลักษณะคล้ายกันเหยื่อถูกข่มขืนเป็นหญิงสูงอายุ อาศัยอยู่บ้านคนเดียว