'กระติก-แซน-จ๊อบ-ปอ' แจงทุกประเด็น เกิดอะไรขึ้นบนเรือกับ 'แตงโม'

สังคม

'กระติก-แซน-จ๊อบ-ปอ' แจงทุกประเด็น เกิดอะไรขึ้นบนเรือกับ 'แตงโม'

โดย thichaphat_d

1 มี.ค. 2565

1.1K views

จากกรณีที่ แตงโม นิดา นักแสดงชื่อดัง เสียชีวิตหลังจากพลัดตกลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 65 ที่ผ่านมา ซึ่งในโลกออนไลน์ ได้มีการกล่าวว่า เสื้อของชายรายหนึ่งในเรือลำดังกล่าว มีรอยขาด ทำให้เกิดกระแสข่าวหลากหลาย บางส่วนสงสัยว่า มีการทำร้ายร่างกายแตงโมหรือไม่


ทั้งนี้นายนิทัศน์  กีรติสุทธิสาธร หรือ จ๊อบ หนึ่งในกลุ่มคนที่อยู่บนเรือสปีดโบ๊ตด้วย ออกมาชี้แจงกรณีดังกล่าว ในรายการโหนกระแสว่า ในขณะนั้นได้ขึ้นไปบนโป๊ะ เพื่อให้ข้อมูล เขาถามว่าตกตรงไหน ผมก็บอกว่าประมาณตรงนี้ คุยกันไปมา ก็หยิบไฟฉายให้ผมส่อง จุดที่ผมพยายามชี้ กับเจ้าหน้าที่ บางทียังเข้าใจไม่ตรงกัน เราก็วนๆ ประมาณตรงนี้ๆ เขาแจ้งว่ายังไม่ชัดเจน


ส่วนภาพที่เป็นภาพที่ก้มลงไปท้ายเรือ และทำให้คนมองว่าเป็นการทำร้ายแตงโมนั้น จ๊อบชี้แจงว่า ภาพนี้เป็นภาพที่เจ้าตัวกำลังก้มไปติดทุ่นเรือ เพราะติดทุ่นเรือผิด เลยไปติดใหม่ ซึ่งเป็นภาพที่กำลังนำเรือเทียบท่าในตอนนั้น ในคืนวันเกิดเหตุมีการเทียบเรือ 2 ครั้ง ตนจึงทำหน้าที่ช่วยเหลือพี่ปอ นำทุ่นไปติดเพื่อป้องกันการกระแทก ให้เรือไม่เกิดความเสียหาย ตรงเรือจะมีคล้ายๆ กับรู ติดทุ่นบนเรือ ผมเป็นน้องก็พยายามช่วยคนอื่น


นอกจากนี้ในรายการก็ได้มีการนำเสื้อที่เจ้าตัวยืนยันว่า เป็นตัวเดียวกันกับที่ใส่ในวันเกิดเหตุ มาโชว์ในรายการ ทางด้านของ หนุ่ม กรรชัย ก็ได้มีการตรวจเช็กเสื้อ พบว่าไม่ได้มีรอยฉีกขาดเหมือนที่เห็นในกันในโซเชียล จ๊อบ ยังยืนยันว่าเป็นตัวเดียวกัน แถมยังไม่ได้ซักเพราะตั้งแต่เกิดเหตุมา ตัวเองอยู่บ้านน้อยมาก ซึ่งทางด้าน ‘หนุ่ม กรรชัย’ บอกว่ามันพิสูจน์ได้นะ จ๊อบก็ยังยืนยันคำตอบเดิม “ยืนยันไม่มีรอยขาด”


หลังจากจบรายการโหนกระแส ทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ ได้พูดคุยกับ ‘จ๊อบ’ ถึงประเด็นดังกล่าวอีกครั้งหน้าสตูดิโอข่าวชั้น 9 ของช่อง 3 โดยก่อนสัมภาษณ์ จ๊อบได้เปลี่ยนใส่เสื้อยึดตัวที่ใส่ในวันเกิดเหตุ จังหวะที่ถอดเสื้อ นักข่าวสังเกตเห็นรอยแผลฟกช้ำบริเวณด้านหลังใกล้รักแร้ขวา จึงสอบถามว่าเป็นแผลอะไร โดยจ๊อบ พยายามหันมองดูแล้วบอกว่า “ผมก็เพิ่งเห็น” นักข่าวถามย้ำอีกครั้งว่าแผลอะไร จ๊อบตอบอ้างว่า “ล้มบนเรือ” ตอนที่วนเรือตามหาแตงโม หลังจากที่แตงโม ตกน้ำจมหายไปแล้ว


นักข่าวยังสังเกตเห็นรอยแผลขีดข่วนตกสะเก็ดแล้ว บริเวณใกล้กับข้อศอกซ้าย และมีแผลคล้ายถูกข่วนเป็นรอยแดงบริเวณลำคอ  จึงสอบว่าแผลอะไร ซึ่งจ๊อบ ก็ตอบว่าเป็นแผลจากการล้มบนเรือเช่นกัน เมื่อถามว่าล้มตรงไหนของเรือ และล้มไปโดนอะไรทำไมถึงเป็นแผลขนาดนี้ จ๊อบไม่ตอบมีอารมณ์ฉุนเฉียวใส่นักข่าว แล้วพูดว่า “ถามอย่างนี้ผมไม่โอเคเลย” ก่อนจะจบการสัมภาษณ์ไป


จากนั้น จ๊อบเดินไปบอกนายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือ ไฮโซปอ ซึ่งยืนอยู่หน้าประตูทางเข้าสตูดิโอ ว่า “พี่เขาถามผมเรื่องแผล ผมไม่สบายใจ  จากนั้น ‘ไฮโซปอ’ เดินมาคุยกับนักข่าวบอกขอให้ลบและฟอร์แมตภาพและเสียงการสัมภาษณ์ในการ์ด จ๊อบไม่สบายใจ พี่ขอหล่ะ โดยนักข่าวพยายามอธิบายว่า “ถ้าเป็นข้อเท็จจริงก็ไม่มีอะไรต้องกังวล ทำไมต้องให้ลบ”


‘ไฮโซปอ’ ก็ขอให้ลบและฟอร์แมตการ์ด บอกไม่อยากมีประเด็นอีก โดยมายืนดูให้ช่างภาพลบและฟอร์แมตการ์ดทันที ช่างภาพพยายามอธิบายเหตุผลแต แต่ ‘ไฮโซปอ’ บอกว่าถ้าไม่ลบจะเอาการ์ดไป ช่างภาพบอกเอาไปไม่ได้เป็นของบริษัท จึงตัดสินใจลบภาพให้เพราะไม่อยากมีปัญหา ทั้งนี้มีคนนั่งหน้าสตูดิโอหลายคนเห็นเหตุการณ์


นักข่าวจึงขอสัมภาษณ์ ‘จ๊อบ’ ใหม่อีกครั้ง เพื่อสอบถามถึงบาดแผลดังกล่าว แต่จ๊อบไม่ขอให้สัมภาษณ์   นักข่าวจึงขอสัมภาษณ์ ‘ไฮโซปอ’ เจ้าตัวบอกพูดไปหมดแล้ว ไม่ไหวแล้วขอเถอะนะ ให้สัมภาษณ์ไปเดี๋ยวก็เป็นประเด็นอีก “พี่เอาเงินให้ยังง่ายกว่าอีก”เสียดายไม่มีภาพแผลฟกช้ำที่ตัวของจ๊อบ มาให้ดู เพราะโดน ‘ไฮโซปอ’ สั่งลบ

จากนั้นนักข่าวขอสัมภาษณ์นอกรอบกระติก กับแซน ทั้งสองปฏิเสธให้สัมภาษณ์ ก่อนที่ไฮโซปอ กระติก แซน จ๊อบ จะพากันรีบเดินเข้าลิฟต์ลงจากตึกขึ้นรถกลับทันที โดยเลี่ยงเจอสื่อที่มารอทำข่าวอยู่หน้าตึกช่อง 3 ซึ่งสื่อหลายสำนักพยายามขอสัมภาษณ์ แต่ทั้ง 4 คน ก็ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใด ๆ


จากรายการโหนกระแส นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือปอ ได้กล่าวว่า เป็นเพื่อนกับแตงโม ตั้งแต่อายุ 16 ปี โดยไม่เคยจีบแตงโม เหตุการณ์ครั้งนี้เริ่มจากตนและกระติกเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊ก จึงทักกระติกไปและชวนมาเจอกัน ก่อนกระติกบอกขอไปชวนคนอื่นก่อน จากนั้นได้ไปชวนแตงโมและเพื่อนคนอื่น แต่ตอนนั้นเพื่อนชื่อ แข ที่ทำร้านอาหารมาไม่ได้ กระติกจึงชวนแซนมาแทน โดยมีหลักฐานมายืนยัน เป็นการคุยระหว่างปอกับกระติก และแชตที่กระติกชวนแตงโม โดยกระติก ได้เปิดแชทไลน์โชว์


โดยวันที่16 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 06.37 น. กระติกตอบข้อความที่ปอ เจ้าของเรือสปีดโบ๊ท ที่ทักมาถามตั้งแต่เมื่อคืนว่า สวัสดี เป็นไงบ้าง (Hello. How are u) กระติกก็ตอบว่า สวัสดี สบายดีจ้า (Hello I’m good ja)


จากนั้น 07.50 น. ปอทักกลับว่า วันไหนว่างนัดเพื่อนเก่ามาโม้กันหน่อย สบายดีนะ? // กระติกตอบว่า สบายดีจ้า เดี๋ยวไปก่อหวอดก่อน จากนั้นคุยกันเรื่องโควิดถึง 8 โมง 32 นาที ปอส่งข้อความบอกว่า "วันไหนว่าง บอกนะ ช่วงนี้คิดถึงเพื่อนเก่า"


เที่ยง 24 นาที กระติกทักปอไปอีกรอบบอกว่า กำลังจะนัดเพื่อน ปอเปิดบาร์ไหม? บาร์ที่พระรามเก้า แต่สุดท้ายปอบอกว่า ไปนั่งเรือก็ได้ 3-4 คน เรือเจ้าพระยาชิวมาก ไปนั่งจิบไลน์บนเรือกัน ต่อมาเป็นแชทที่กระติกคุยกับแตงโม


ตอน 1 ทุ่ม 5 นาที ของวันเดียวกัน คือ 16 กุมภาพันธ์กระติกแชทไปถามชวนโมว่า "อาทิตย์หน้าลงเรือจิบไวน์แซ่บๆ กันไหม ปอเค้าชวน เค้ามีเรือเป็นของตัวเอง ว่าจะชวนอีโหน่องด้วย" แตงโมตอบกลับมาว่า "ไม่" "เหลือ" และถามว่าจะไปวันไหน แตงโมสรุปวันมาว่า ให้ไปวันที่ 24 กุมภาพันธ์กับวันที่กองไม่เอา


ทางกระติกแชทตอบกลับไปว่า เดี๋ยวไปชวนเพื่อนอีกคน และเช็คคิวพี่เลี้ยงด้วย เพราะต้องฝากลูก และยังบอกด้วยว่า "มันมีให้เลือก 2 ที่บาร์มันที่โชว์รูมกับเรือ" ซึ่งมันในที่นี้หมายถึง "ปอ" เธอบอกว่าเลือกเรือ เครื่องเสียงขั้นเทพ เห็นโพสต์โชว์อยู่


จากนั้น 1 ทุ่ม 55 นาที กระติกกลับมาคุยไลน์ คอนเฟิร์มกับปออีกครั้ง บอกว่า ตอนนี้มีแนวร่วม 4 คน คือ กระติก โม แข และจะชวนเพื่อนไปอีกคนชื่อน้อยโหน่ง // ปอตอบกลับว่า โอเค ตอน 3 ทุ่ม 26 นาที และขอเบอร์โทร


จากนั้น 4 ทุ่ม 10 นาที กระติกบอกให้ส่งรูปเรือมาหน่อย สาวๆ จะได้แต่งตัวถูก แล้วปอก็ส่งรูปเรือให้ แล้วกระติกก็ส่งภาพเรือให้แตงโมทันที ตอน 4 ทุ่ม 10 นาที แตงโมบอกว่าเจอกัน 4 โมง เพราะร้อน พร้อมบอกว่า เรือที่แตงโมพูดถึงออกทะเล นี่ล่องเจ้าพระยา ไว้ไปกับพี่คนหนึ่งจัดชุดใหญ่ แตงโมก็ตอบว่า "ไปค่ะ"


และได้มีภาพที่พวกกระติก แซน และแตงโมถ่ายรูปร่วมกันบนเรือช่วงเย็นของวันที่ 24 กุมภาพันธ์


กระทั่ง 2 ทุ่มครึ่ง หลังจากกินข้าวที่ร้ายครัวตานิดเสร็จก็ล่องเรือไปที่สะพานพระราม 8 ระหว่างนั้น แตงโม ได้อัดคลิปร้องเพลง และนี่คือคลิปสุดท้ายของเธอ


ซึ่งภายในคลิปแตงโมนั่งร้องเพลงจากนี้ไปจนนิรันดร์ ของเอ๊ะ จิรากร ซึ่งเป็นเพลงที่เธอได้ร้องไว้เอง เอามาเปิดให้เพื่อนๆ ฟังบนเรือ ซึ่งเรือกำลังแล่นอย่างช้าๆ


สำหรับไทม์ไลน์ ของแตงโม กับเพื่อน พบว่าก่อนจะตกน้ำ แตงโมได้มีการถ่ายรูปให้กระติกบนเรือ // ขณะที่แซน เล่าวินาทีที่แตงโมพลัดตกน้ำ ยันแตงโมไปปัสสาวะท้ายเรือจริง


ทั้งนี้ คุณกระติก ได้แสดงหลักฐานเป็นรูปถ่าย ที่อยู่บนเรือในวันเกิดเหตุ กับแตงโม ทั้งรูปที่ถ่ายคู่กับแตงโม และ รูปเดี่ยวของตน ที่แตงโมถ่ายให้


โดยเริ่มตั้งแต่ตอน 5 โมงเย็น เป็นรูปที่ตนถ่ายคู่กับแตงโมตอน 5 โมงเย็น ที่บริเวณเมืองนนทบุรี

รูปต่อมา ถ่ายตอน 5 โมง 43 นาที อยู่ที่บริเวณปากเกร็ด โดยรูปนี้แตงโม เป็นคนถ่ายให้ และเป็นคนจัดท่าให้ถ่ายรูปด้วย

รูปต่อมา เวลา 6 โมง 51 นาที เป็นรูปอาหาร ที่ถ่ายที่ร้านอาหารที่สามโคก ปทุมธานี

รูปต่อมา คือตอน 2 ทุ่ม 9 นาที เป็นรูปท้องฟ้าที่มีดาวที่สามโคกปทุมธานี

รูปนี้ กระติกเป็นคนถ่ายตอน 2 ทุ่ม 26 นาที ที่อำเภอเมืองปทุมธานี ซึ่งถ่ายขณะที่อยู่บนเรือ

รูปต่อมา คือ รูปที่กระติก ถ่ายคู่กับ แตงโม ตอน 3 ทุ่ม 56 นาที ที่สะพานพระราม 7 โดยรูปนี้แซนเป็นคนถ่ายให้

รูปต่อมา คือรูปกระติกหันหน้าออกทางหัวเรือ ในเวลา 4 ทุ่ม 6 นาที โดยรูปนี้แตงโม เป็นคนถ่ายให้

และรูปที่กระติกนั่งโพสต์ คือ รูปสุดท้าย ที่แตงโมเป็นคนถ่ายให้ตอน 4 ทุ่ม 13 นาที ซึ่งหลังจากถ่ายรูปนี้เสร็จไม่นาน แตงโมก็ตกน้ำ


ขณะที่ แซน ได้เล่าวินาทีสุดท้าย ก็เจอกับแตงโม โดยบอกว่าระหว่างที่ตนนั่งอยู่ที่ด้านหลังเรือโดยหันหลังไปทางหัวเรือ ส่วนเท้าไปอยู่ที่ทางท้ายเรือ จังหวะนั้นแตงโม ได้เดินมาทางท้ายเรือ และบอกว่าขอกูฉี่แปปนึง แล้วก็นั่งเลย โดยที่ไม่ได้บอกคนบนเรือ หรือ บอกให้หยุดเรือ


ส่วนตนตอนนั้นก็ไม่ได้สนใจ เล่นโทรศัพท์มือถือตามปกติ โดยระหว่างที่แตงโมนั่งทำธุระได้เอามือจับขาตนไว้ จนกระทั่งแตงโมฉี่เสร็จ ก็จะลุกขึ้นโดยดึงขาตน ทำให้ตนบอกแตงโมว่าขอตั้งหลักก่อน อย่าพึ่งดึงขา แตงโมก็พยักหน้า แต่จังหวะนั้นแตงโมน่าจะเสียหลักเซไปทางด้านซ้ายแล้วก็ตกน้ำไป ต่อหน้าของตน


ซึ่งตนพยายามจะดึงแตงโมไว้ แต่ดึงไม่ถึง โดยเหตุการณ์นี้ คุณหนุ่มกรรชัย ได้ให้คุณแซน จำลองเหตุการณ์ ตอนที่โบว์นั่งฉี่ท้ายเรือจนถึงวินาทีที่พลัดตกลงไปในน้ำด้วย


ซึ่งเรื่องการทำธุระของแตงโม ก็ได้มีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบด้วย โดยวานนี้ (28 ก.พ. 65)  ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จังหวัดนนทบุรี //ตำรวจสืบสวนตำรวจภูธรภาค1  เข้าตรวจหลักฐานเรือลำทึ่เกิดเหตุ อย่างละเอียดอีกครั้ง บริเวณอู่จอดเรือ บริษัท เอ็นบีซี โบ๊ท คลับ จังหวัดนนทบุรี


โดยเจ้าหน้าที่เน้นตรวจบริเวณ ท้ายเรือจุดที่ แซน เพื่อนของแตงโม ให้การว่า แตงโม นั่งอยู่บริเวณ ท้ายเรือฝั่งซ้าย เรียกว่า สวิมแฟลตฟอร์ม (สีแดงท้ายเรือ) ก่อนจะพลัดตกลงไป

โดยพล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 พร้อมคณะทำงาน นำเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) พร้อมช่างฝ่ายเทคนิคจากบริษัท SEAL พัทยา ตรวจสอบเรือทั้งลำ ตั้งแต่จุดที่พลัดตก โดยเน้นที่จุดสวิมแฟลตฟอร์ม จุดที่แตงโมนั่งปัสสาวะ และมีการจับขาของ แซน ที่นั่งโซฟาท้ายเรือ พร้อมทั้ง จำลองท่านั่ง และตรวจรอยนิ้วมือจุดนี้


ซึ่งพบว่าระยะห่างจากโซฟา มาถึงตรงที่แตงโมนั่งปัสสาวะ ระยะห่างประมาณ 50 ซม. เมื่อเทียบกับระยะแขนของผู้หญิงลักษณะสูงโปร่ง ก็สามารถจับได้ การวัดครั้งนี้ เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับข้อเท็จจริงตามคำให้การของเพื่อนทั้ง 5 คนว่าสอดคล้องกันหรือไม่


ทั้งนี้ ในรายการโหนกระแส ตอนที่แตงโมตกน้ำ แซนตะโกนบอกทุกคน แล้วจ๊อบก็บอกต่ออีกทีนึง แล้วก็วนเรือตามหาแตงโม วนเรือเป็นวงกลม ขับแบบซิกแซก


และกระติกยังยืนยันว่า หลังเกิดเหตุแตงโมพลัดตกเรือ ได้ทั้งไลน์ และโทรศัพท์หาคนที่รู้จัก เพื่อแจ้งข่าวว่าแตงโมตกน้ำ พร้อมนำหลักฐานข้อความ ที่คุยกับรุ่นพี่ 3 คน ตั้งแต่ช่วงหลัง 5 ทุ่มครึ่่ง เพื่อขอความช่วยเหลือ


โดยมีทั้งรุ่นพี่ชื่อบิ๊ก และรุ่นพี่ผู้หญิง โดยเฉพาะที่แชทคุยรุ่นพี่ผู้หญิง ตนยืนยันไปในแชทเลยว่า แตงโมแอบไปฉี่ที่ท้ายเรือ และแตงโม บอกว่าไม่ให้บอกกับใครว่าไปฉี่ ซึ่งการไปแอบนั่งฉี่แบบนั้นมันประมาทมาก


โดยตนยังถามรุ่นพี่คนนี้เลยว่เวลาให้ข้อมูลกับตำรวจ ให้บอกไปตามตรงเลยใช่ไหมว่าแตงโมแอบไปฉี่ท้ายเรือแล้วพลักตกลงไป ซึ่งรุ่นพี่ยังบอกว่าไม่ให้ข้อมูลตรงนี้กับใคร แค่ให้บอกว่าเดินไปท้ายเรือแล้วพลัดตกน้ำก็พอ ไม่ต้องบอกว่าแอบไปฉี่


แต่ถูกปอ ทักท้วงไว้ว่าให้พูดความจริงว่าไปฉี่ก็คือไปฉี่ ขณะที่ปอย้ำว่า ควรต้องพูดความจริงว่าเกิดอะไรขึ้น และสิ่งที่เกิดขึ้นยืนยันว่าไม่ได้สร้างเรื่อง เพราะในเมื่อแซนยืนยันว่า โมเดินไปฉี่ ก็ต้องพูดไปตามนั้น


โดยกระติกบอกว่า ในตอนแรกที่ไม่ได้บอกความจริงเรื่องแตงโมไปฉี่ เพราะว่าปกปิดแตงโมไปปัสสาวะท้ายเรือเพื่อรักษาภาพลักษณ์ เพราะถ้าแตงโมไม่ตาย จะส่งผลเสียต่อภาพพจน์ จนสุดท้ายเรื่องนี้ก็ได้เปิดเผยออกมา โดยปอเล่าเรื่องนี้ให้ฟังในโรงพัก เมื่อคืนวันที่สอง ของเหตุการณ์แตงโมตกเรือ


หลังจากการสาธิตของ แซน ในโหนกระแส ก็มีการแสดงความเห็นในโลกออนไลน์ อย่าง หมออั้ม อิราวัต ได้นำภาพที่แซน และ พี่หนุ่มกรรชัย จำลองเหตุการณ์ในโหนกระแส มาตัดต่อกับภาพเรือลำที่เกิดเหตุ ในตำแหน่งเดียวกันกับที่ถูกระบุว่าเป็นจุดปัสสาวะ


โดยระบุข้อความว่า โมต้องเก่งมากๆ ใส่บอดี้สูทด้วย และต้องอั้นฉี่ไม่ไหว ด่วนแค่ไหน? เรือแล่นอยู่ด้วย? ห้องน้ำในเรือก็มี แค่เอาของที่ขวางออก หรือแวะจอดที่ท่าใกล้ๆ ขอเข้าห้องน้ำก็แป๊ปเดียว ง่ายกว่าที่ทำแบบในภาพตั้งเยอะ


และจากเหตุการณ์ในช่วงวินาทีที่แตงโมตกน้ำ ได้มีหลายคนตั้งคำถามว่า คนบนเรือได้หยุดเรือทันที แล้วช่วยกันตามหาเลยหรือไม่ ในเรื่องนี้ ได้มีข้อมูลสำคัญจากพยานคนหนึ่ง ซึ่งตกปลาอยู่กับกลุ่มบริเวณชุมชนวัดปากน้ำ เปิดเผยนาทีที่เห็นเรือสปีดโบ้ทคันที่ ‘แตงโม’ นิดา พัชรวีระพงษ์ ประสบอุบัติเหตุพลัดตกเรือก่อนจะจมน้ำเสียชีวิต


คืนวันที่เกิดเหตุนั้น หลังเลิกงานได้ชวนกลุ่มเพื่อนไปนั่งตกปลาอยู่ที่ริมฝั่งในชุมชน ช่วงเวลาประมาณ 4 ทุ่มนิดๆ ตนกับเพื่อนเห็นเรือสปีดโบ๊ทลำดังกล่าวขับมาด้วยความเร็วมากเลาะริมฝั่งมา มีเสียงหัวเราะครื้นเครงของคนในเรือดังออกมาให้ได้ยิน


หลังจากนั้นอีกประมาณ 10 นาที เรือลำดังกล่าวได้ขับย้อนกลับมาที่กลางแม่น้ำอีกครั้ง เหมือนจอดหาอะไรสักอย่าง ซึ่งระหว่างทางจากฝั่งที่ตนนั่งกันอยู่ไปถึงกลางแม่น้ำที่เรือจอดนั้นไกลและมืดมาก ทำให้ตนมองไม่เห็นว่าเรือมาจอดหาอะไรที่กลางแม่น้ำ


กระทั่งมาทราบในตอนหลังว่า มีคนตกน้ำสูญหาย ซึ่งก็คือ แตงโม นิดา ทำให้ตนเชื่อว่าสาเหตุการพลัดตกเรือของแตงโม น่าจะมาจากความประมาทของคนขับเรือ ที่ขับมาด้วยความเร็วแล้ววกกลับเรือกระทันหัน จนทำให้ดาราสาวร่วงตกน้ำลงไป โดยที่คนขับกับคนในเรือไม่รู้ตัว หลังผ่านไปเกือบ 10 นาที จึงมีการขับเรือกลับมาวนหาในจุดดังกล่าว


และในรายการโหนกระแส ได้มีการเล่าถึงอีกว่า เมื่อหนุ่มกรรชัยได้ถามว่าคืนเกิดเหตุ มีการนำเรือเข้าฝั่งกี่ครั้ง โดยการเทียบท่าครั้งที่ 2 เพราะกระติกอยากขึ้นท่าไปขอเข้าห้องน้ำจากชาวบ้าน โดยมีเบิร์ตไปด้วย


ซึ่งเหตุการณ์หลังการเทียบท่าครั้งที่ 2 นี้เอง มีภาพจากกล้องวงจรปิดที่จอดรถ ของอู่เรือ พบว่า คืนวันที่ 25 ก.พ. 65 ตั้งแต่เวลา 01.11 น. ตามเวลาวิดีโอที่บันทึกไว้ หลังจากเกิดเหตุ กลุ่มเพื่อนของแตงโมกลับมาที่อู่เรือ โดยมีนายปอกำลังโทรศัพท์หาใครบางคนอยู่ ซึ่งไม่มีบุคคลอื่น หรือเจ้าหน้าที่ มาที่อู่จอดเรือ มีเพียงเพื่อนๆ ที่อยู่บนเรือคือ แซน ปอ เบิร์ต จ๊อบ และกระติก ได้มีการรวมตัวกันที่อู่เรือ


โดยไล่เรียงลำดับเวลาได้ ดังนี้

01.10 น. เริ่มคุยกันของคน ในเรือ มีกระติก แซน เบริต์ ปอ จ๊อบ อยู่ในลักษณะพูดคุยและแต่ละคนมีการโทรศัพท์ติดต่อกัน

01.20 น. ฮิปโป และ เพื่อนสนิทแตงโมเดินทางมาถึง แต่ไม่ได้มีการทักทาย แซน และเบริต์ที่ยืนอยู่บริเวณข้างๆ และเดินเข้าไปที่ท่าเรืออย่างรวดเร็ว

01.30 น. โบ TK และ แฟน เดินทางมาถึงและสอบถามกับแซน และ ปอ เรื่องราวที่เกิดขึ้น และเดินเข้าไปที่ท่าเรือ

01.33 -01.35 น. เบิร์ต แซน ปอ จ๊อบ เดินกลับออกมา และ พูดคุยกันบริเวณลานจอดรถ และ โบTK ก็เดินออกมาพูดคุยด้วย และ กลับเข้าไปท่าเรืออีกครั้ง

02.20-02.53 น. ทุกคนทยอยเดินทางกลับ คนกลับคนแรก คือแซน และคนสุดท้าย คือกระติก

02.53 น. ไฟที่อู่ดับลง


โดยเรื่องที่กระติกทำไมไม่อยู่รอเพื่อน ทำไมถึงกลับบ้านก่อน ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่ สภ.เมืองนนทบุรี น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือกระติก นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือแซน เดินทางมาเพื่อเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี


กระติกได้ให้ปากคำกับเรื่องนี้ว่า เพราะหวังว่าแตงโมอาจจะรอดชีวิตไปขอความช่วยเหลือคนอื่นแล้วเดินทางกลับไปที่บ้าน ตนจึงกลับไปรอแต่ก็ไม่พบ ส่วนเรื่องที่สื่อถามว่าทำไม่ไม่ติดต่อกับคุณแม่ของแตงโมตั้งแต่วันที่เกิดเหตุทันที กลับไปปรึกษากับทนายความแทนก่อนมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนขอบอกว่าวันเกิดเหตุไม่ทันได้คิดอะไร เพราะปกติจะสนิทกับคุณพ่อของแตงโมมากกว่าคุณแม่ และคุณแม่ก็ไม่ได้มีอุปกรณ์ในการช่วยตามหาแตงโมแต่อย่างใด จึงไม่ได้โทรบอก


ส่วนในรายการโหนกระแส กระติกได้ตอบเรื่องกลับบ้านก่อน กับหนุ่ม กรรชัยว่า อยู่ที่ท่าเรือจนถึงตี 3 กระติกก็กลับไปบ้านแตงโม เพื่อไปดูว่าแตงโมกลับมาบ้านหรือเปล่า คิดว่าแตงโมอาจมีคนมาช่วยและกลับไปที่บ้านแล้ว ตอนนั้นสติแตกไปแล้ว ช่วงนั้นเห็นข่าวว่า แม่ของโมมาแล้ว และมีประเด็นเกิดขึ้นว่าทำไมกระติกไม่มาหาแม่ จึงไม่กล้าสู้หน้าแม่ ไม่กล้าเผชิญหน้า ต้องขอโทษแม่ที่ใช้คำพูดไม่ดี โดยเฉพาะเรื่องที่บอกว่า แม่ไม่ได้ใส่ชุดประดาน้ำ ไม่รู้ว่าทำไมถึงสื่อสารออกไปแบบนั้น ต้องขอโทษที่หนีในสถานการณ์นั้น ที่ไม่กล้าเผชิญหน้ากับแม่


พอไปถึงบ้านแตงโม ก็เอาโทรศัพท์แตงโมคืนให้แม่บ้านของแตงโม หลังจากนั้นก็กลับบ้านตัวเอง และก็นั่งคิดถึงโม (ร้องไห้) มันหนัก หนูรู้สึกผิดแต่หนูไม่ได้แสดงออกมา เราเป็นคนเก็บเยอะ เราเลือกมาเสียใจกับตัวเองไม่แสดงออกไป


ส่วนเรื่องที่แซนว่ากู้ภัยมาช้า ในรายการโหนกระแส แซนบอกว่า ที่ก่อนหน้านี้ได้มีคลิปพูดจาและมีปากเสียงกับทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยบนเรือ ยอมรับวันนั้นยังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงที่ให้สัมภาษณ์ว่ากู้ภัยมาช้า ตอนนี้รู้สึกผิด เพราะตนเป็นฝ่ายเข้าใจผิดว่ากู้ภัยมาช้า ทั้งที่กู้ภัยมาตั้งแต่ได้รับแจ้งเหตุ แต่ตนไม่คิดคนที่ยืนอยู่บนฝั่งจะเป็นกู้ภัย คิดว่าเป็นประชาชนทั่วไป คิดว่ากู้ภัยจะมาทางน้ำ ไม่ได้มาทางบก


ด้านหนุ่ม กรรชัย มีการถามถึงวันที่เกิดเหตุว่า ทำไมถึงไม่อยู่ช่วยตามหาแตงโม แต่ไปรวมตัวกันที่อู่ต่อเรือ ด้าน ‘กระติก’ บอกว่า อยู่ที่อู่เรือจนถึงตี 3 เพราะช่วยอธิษฐานอยู่ที่อู่ ซึ่งอยู่ตรงท่าน้ำเหมือนกัน โดยมี ‘โบ TK’ นำสวดอธิษฐาน


จนมีกู้ภัยคนหนึ่งได้โพสต์หลังจากได้ฟังคำสัมภาษณ์ของแซนในรายการโหนกระแส ที่ช่วงหนึ่งมีการระบุเกี่ยวกับกู้ภัยที่มาช่วยว่า "แซนไม่คิดว่าเป็นกู้ภัยค่ะ แซนแจ้งกู้ภัยทางน้ำ เลยไม่คิดว่า เค้าจะอยู่บนบก

จากนั้น มีกู้ภัยท่านหนึ่งได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “คุณคิดว่าพวกผมเป็นปลา เป็นนางเงือกหรือไง กู้ภัยไม่ใช่ปลา จะได้ลอยน้ำอยู่ตลอด” ชาวทวิตเตอร์แห่รีทวิตเป็นจำนวนมาก


ในวันที่ 27 ก.พ. 65  กระติก อิจศรินทร์ ผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม และ แซน วิศาพัช หนึ่งในคนที่นั่งบนเรือคืนวันเกิดเหตุ ร่วมกันแถลงเปิดใจเป็นครั้งแรก ถึงเหตุการณ์ที่แตงโมพลัดตกเรือสปีดโบ้ตจมน้ำเสียชีวิต


ช่วงหนึ่ง แซน กล่าวถึงเรื่องการโทรแจ้งกู้ภัยว่า “หลังเกิดเหตุตนโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ที่สามารถช่วยได้ ทั้ง 191 และโทรให้เพื่อนที่อยู่บนบกช่วยแจ้ง มีหลักฐานการโทรออกทุกอย่าง ทำทุกวิถีทางให้ดีที่สุดในเวลานั้น ซึ่งตนก็ยังงงทำไมกู้ภัยไม่มีข้อมูลเพราะ พวกเขาโทรมาถามข้อมูลกัน 3 รอบ ตนมีหลักฐานไม่ใช่แค่พูดลอยๆ ตนก็งงว่ากู้ภัยไปไหนกว่าจะมาถึงใช้เวลานานมาก พอกู้ภัยมาถึงตนเป็นเขียนชื่อผู้สูญหายว่า “แตงโม” เฉยๆ เพราะไม่ได้ติดตามว่าแตงโมเปลี่ยนชื่ออะไร ตอนนั้นรู้อะไรก็เลยเขียนไปเท่านั้น”


นักแสดงสาว ต่าย สายธาร นิยมการณ์ หนึ่งในจิตอาสาของมูลนิธิร่วมกตัญญู ออกมาโต้กลับ “แซน” หลังจากที่โทษกู้ภัยมาช่วยแตงโมช้า รวมถึงฟาดกลับด้วยบทสนทนาสั้นๆ ว่า “กู้ภัยไปถึงก็สอบถามข้อมูลตามขั้นตอน แต่อีกฝ่ายไม่บอกรายละเอียดอะไร แถมยังถามด้วยคำ(สุภาพ)ว่า “มาทำเฮียอะไร??!!” พร้อมถามกลับพี่ขอพูดได้ไหม


ในวันที่ 28 ก.พ. 65 จูน กษมา ภรรยาของ ‘เปิ้ล นาคร’ โดยสามีหนุ่ม ‘เปิ้ล’ เป็นอีกหนึ่งคนในวงการบันเทิงที่ร่วมขี่เจ็ตสกีช่วยค้นหานักแสดงสาว ‘แตงโม’ หลังพลัดตกเรือจมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่ช่วงกลางดึกคืนวันที่ 24 ก.พ. 2565 ซึ่งเป็นวันที่เกิดเหตุเป็นต้นไป


จูน โพสต์ข้อความขอพูดอีกเสียงถึงปมที่ คุณแซน โทษกู้ภัยมาช้าและปมที่กู้ภัยโดนด่าว่า “ขอพูดอีกเสียงค่ะ ตอนจูน กับ พี่เปิ้ล นาคร ไปถึงวันพฤหัสตอน5ทุ่มกว่าๆได้เจอพี่กู้ภัยชุดแรก พี่เค้าก็เล่าให้ฟังค่ะว่า พี่ๆบนเรือด่าพวกผมใหญ่เลย ผมบอกให้ชี้จุดเกิดเหตุพี่ๆบนเรือก็ไม่อยากให้ข้อมูล ต่างคนต่างรีบขึ้นฝั่งแล้วหายกันไปเลย”


ในช่วงท้ายๆ รายการโหนกระแส หนุ่มกรรชัยได้พูดว่า ระหว่างที่พูดๆ กันเนี่ย ทำไมเดี๋ยวกระติกก็ร้อง เดี๋ยวก็ไม่ร้อง มันยิ่งทำให้คนรู้สึกว่าคุณไม่จริงใจนะ


ขณะที่กระติก ชี้แจงว่า ทำตัวไม่ถูก มันไม่เป็นธรรมชาติของหนู พอหนูเป็นธรรมชาติ คนก็มาคาดหวัง เค้าต้องการอะไร นี่ไม่ใช่เวย์ของหนูเลย


ทั้งนี้ จ๊อบ หนึ่งในกลุ่มคนที่อยู่บนเรือสปีดโบ้ตด้วย ออกมาชี้แจงกรณีดังกล่าว ในรายการโหนกระแส เรื่องเสื้อมีรอยขาด และภาพที่คล้ายว่ากำลังทำร้ายแตงโม โดยบอกว่า ส่วนภาพที่เป็นภาพที่ก้มลงไปท้ายเรือ และทำให้คนมองว่าเป็นการทำร้ายแตงโมนั้น ขอชี้แจงว่า ภาพนี้เป็นภาพที่เจ้าตัวกำลังก้มไปติดทุ่นเรือ เพราะติดทุ่นเรือผิด เลยไปติดใหม่ ซึ่งเป็นภาพที่กำลังนำเรือเทียบท่าในตอนนั้น ในคืนวันเกิดเหตุมีการเทียบเรือ 2 ครั้ง ตนจึงทำหน้าที่ช่วยเหลือพี่ปอ นำทุ่นไปติดเพื่อป้องกันการกระแทก ให้เรือไม่เกิดความเสียหาย  ตรงเรือจะมีคล้าย ๆ กับรู ติดทุ่น บนเรือผมเป็นน้อง ก็พยายามช่วยคนอื่น


นอกจากนี้ในรายการก็ได้มีการนำเสื้อที่เจ้าตัวยืนยันว่า เป็นตัวเดียวกันกับที่ใส่ในวันเกิดเหตุ มาโชว์ในรายการ ทางด้านของ หนุ่ม กรรชัย ก็ได้มีการตรวจเช็กเสื้อ พบว่าไม่ได้มีรอยฉีกขาดเหมือนที่เห็นในกันในโซเชียล จ๊อบ ยังยืนยันว่าเป็นตัวเดียวกัน แถมยังไม่ได้ซักเพราะตั้งแต่เกิดเหตุมา ตัวเองอยู่บ้านน้อยมาก ซึ่งทางด้าน ‘หนุ่ม กรรชัย’ บอกว่ามันพิสูจน์ได้นะ จ๊อบก็ยังยืนยันคำตอบเดิม “ยืนยันไม่มีรอยขาด”


หลังจากจบรายการโหนกระแส ทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ ได้พูดคุยกับ ‘จ๊อบ’ ถึงประเด็นดังกล่าวอีกครั้งหน้าสตูดิโอข่าวชั้น 9 ของช่อง 3 โดยก่อนสัมภาษณ์ จ๊อบได้เปลี่ยนใส่เสื้อยึดตัวที่ใส่ในวันเกิดเหตุ จังหวะที่ถอดเสื้อ นักข่าวสังเกตเห็นรอยแผลฟกช้ำบริเวณด้านหลังใกล้รักแร้ขวา จึงสอบถามว่าเป็นแผลอะไร โดยจ๊อบ พยายามหันมองดูแล้วบอกว่า “ผมก็เพิ่งเห็น” นักข่าวถามย้ำอีกครั้งว่าแผลอะไร จ๊อบตอบอ้างว่า “ล้มบนเรือ” ตอนที่วนเรือตามหาแตงโม หลังจากที่แตงโม ตกน้ำจมหายไปแล้ว


นักข่าวยังสังเกตเห็นรอยแผลขีดข่วนตกสะเก็ดแล้ว บริเวณใกล้กับข้อศอกซ้าย และมีแผลคล้ายถูกข่วนเป็นรอยแดงบริเวณลำคอ  จึงสอบว่าแผลอะไร ซึ่งจ๊อบ ก็ตอบว่าเป็นแผลจากการล้มบนเรือเช่นกัน เมื่อถามว่าล้มตรงไหนของเรือ และล้มไปโดนอะไรทำไมถึงเป็นแผลขนาดนี้ จ๊อบไม่ตอบมีอารมณ์ฉุนเฉียวใส่นักข่าว แล้วพูดว่า “ถามอย่างนี้ผมไม่โอเคเลย” ก่อนจะจบการสัมภาษณ์ไป


จากนั้น จ๊อบเดินไปบอกนายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือ ไฮโซปอ ซึ่งยืนอยู่หน้าประตูทางเข้าสตูดิโอ ว่า “พี่เขาถามผมเรื่องแผล ผมไม่สบายใจ  จากนั้น ‘ไฮโซปอ’ เดินมาคุยกับนักข่าวบอกขอให้ลบและฟอร์แมตภาพและเสียงการสัมภาษณ์ในการ์ด จ๊อบไม่สบายใจ พี่ขอหล่ะ โดยนักข่าวพยายามอธิบายว่า “ถ้าเป็นข้อเท็จจริงก็ไม่มีอะไรต้องกังวล ทำไมต้องให้ลบ”


‘ไฮโซปอ’ ก็ขอให้ลบและฟอร์แมตการ์ด บอกไม่อยากมีประเด็นอีก โดยมายืนดูให้ช่างภาพลบและฟอร์แมตการ์ดทันที ช่างภาพพยายามอธิบายเหตุผลแต แต่ ‘ไฮโซปอ’ บอกว่าถ้าไม่ลบจะเอาการ์ดไป ช่างภาพบอกเอาไปไม่ได้เป็นของบริษัท จึงตัดสินใจลบภาพให้เพราะไม่อยากมีปัญหา ทั้งนี้มีคนนั่งหน้าสตูดิโอหลายคนเห็นเหตุการณ์


นักข่าวจึงขอสัมภาษณ์ ‘จ๊อบ’ ใหม่อีกครั้ง เพื่อสอบถามถึงบาดแผลดังกล่าว แต่จ๊อบไม่ขอให้สัมภาษณ์   นักข่าวจึงขอสัมภาษณ์ ‘ไฮโซปอ’ เจ้าตัวบอกพูดไปหมดแล้ว ไม่ไหวแล้วขอเถอะนะ ให้สัมภาษณ์ไปเดี๋ยวก็เป็นประเด็นอีก “พี่เอาเงินให้ยังง่ายกว่าอีก”เสียดายไม่มีภาพแผลฟกช้ำที่ตัวของจ๊อบ มาให้ดู เพราะโดน ‘ไฮโซปอ’ สั่งลบ


จากนั้นนักข่าวขอสัมภาษณ์นอกรอบกระติก กับแซน ทั้งสองปฏิเสธให้สัมภาษณ์ ก่อนที่ไฮโซปอ กระติก แซน จ๊อบ จะพากันรีบเดินเข้าลิฟต์ลงจากตึกขึ้นรถกลับทันที โดยเลี่ยงเจอสื่อที่มารอทำข่าวอยู่หน้าตึกช่อง 3 ซึ่งสื่อหลายสำนักพยายามขอสัมภาษณ์ แต่ทั้ง 4 คน ก็ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใด ๆ


ขณะที่ปอ เปิดใจช่วงท้ายรายการว่า ก่อนหน้านี้พยายามติดต่อแม่ของแตงโม อยากไปพบ โดยก่อนหน้านี้โทรไปขอโทษและแสดงความเสียใจแล้ว แต่คุณแม่ต้องไปพบตำรวจ แต่หลังจากนี้จะขอไปแสดงความเสียใจและขอโทษกับคุณแม่ด้วยตัวเอง ในฐานะเจ้าของเรือและเป็นกลุ่มเพื่อนคนสุดท้ายที่อยู่กับแตงโม // เขามีลูกและเข้าใจความรู้สึก เข้าใจคุณแม่และน้อมรับความเสียใจตรงนี้ ขอให้คำมั่นกับแม่แตงโมว่า เขาและเพื่อนจะดูแลงานศพ จะดูแลคุณแม่ เสมือนเป็นลูกคนหนึ่ง จะดูแลไม่ให้น้อยกว่าที่แตงโมดูแล ขอให้คำมั่นกับทุกคนที่ดูรายการอยู่ // และสิ่งที่ตนจะทำหลังเสร็จงานของแตงโม คือตนจะบวชให้แตงโม


เช่นเดียวกับแซนที่ยกมือไหว้ขอโทษคุณแม่และบอกว่า ขอโทษที่ไม่ได้ดูแลแตงโมให้ดีกว่านี้


ซึ่งในรายการโหนกระแสนั้น หนุ่มกรรชัย ได้บอกว่า “พี่เชื่อว่าถ้าคนอย่างแตงโม ถ้าเพื่อนเขาตกน้ำ เขาจะอยู่รอ จนกว่าจะเจอ หรือเขาเองอาจจะโดดลงไปเดี๋ยวนั้นด้วย เพื่อตามหาเพื่อนของเขา เขาไม่มีวันทิ้งคุณ นี่คือสิ่งที่พี่เชื่อว่าพี่เคยสัมผัสแตงโม” และเป็นประโยคที่ถูกแชร์ต่อมากที่สุดอีกประโยคหนึ่งของรายการ


ด้านตำรวจ เมื่อวานนี้ (28 ก.พ.) พลตำรวจโทประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยหลังการประชุมชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีการเสียชีวิตของนางสาวนิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม ที่พลัดตกเรือเสียชีวิต



ด้านพลตำรวจโทจิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ที่สอบปากคำบุคคลที่อยู่บนเรือก็ยังให้การสอดคล้องกัน และได้บันทึกคำให้การไว้ทั้งหมดแล้ว และขณะนี้ได้ให้พนักงานสอบสวนทำไทม์ไลน์โดยละเอียดตั้งแต่ก่อน ในขณะก่อนและหลังเกิดเหตุทั้งหมดเพื่อนำไปประกอบการสอบสวน และจะจำลองเหตุการณ์ในเวลาจริงในคืนที่ผ่านมา (28 ก.พ.) ด้วย เพื่อตรวจสอบตามคำให้การของพยาน


โดยได้นำข้อมูลและพยานหลักฐานที่ได้ไปตรวจสอบเพิ่มเติม ทั้งการให้ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบเรือสปีดโบ๊ทโดยละเอียด ส่วนผลการชันสูตรศพต้องรอจากสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจก่อน พร้อมยืนยันว่ายังไม่มีการยืนยันว่าผู้เสียชีวิตเกิดจากสาเหตุใด


นอกจากนั้นจะสอบสวนทั้งหมดโดยผ่านเครื่องจับเท็จอีกครั้ง เพื่อที่จะนำมาสอดคล้องกับพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์


ส่วนมารดาของผู้เสียชีวิตที่ได้นำเอกสารบทความมาให้พนักงานสอบสวน ก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบ หากมีประโยชน์ทางรูปคดีก็จะเชิญมาให้ปากคำอีกครั้ง โดยขณะนี้ก็พร้อมรับหลักฐานที่คาดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมาตรวจสอบทั้งหมด และยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง รวมทั้งจะตรวจสอบการพูดคุยสนทนาทางโทรศัพท์ สื่อสังคมออนไลน์ และเส้นทางการเงินของทุกคนว่ามีส่วนใดเชื่อมโยงกันหรือไม่


ด้านแม่แตงโม เชื่อว่ามีการลวนลามและทำร้ายร่างกายกันบนเรือก่อนจะเกิดเหตุดังกล่าว ซึ่งอ้างอิงจากหลักฐานการแชทไลน์ที่เขาคุยกันในกลุ่ม หากลองอ่านแชทดูดีๆ จะรู้เรื่องราวทั้งหมดเลยว่าเป็นยังไงมายังไง


ส่วนคุณกระติก ผู้จัดการ ตอนนี้ก็ยังไม่ได้ติดต่อแม่มา และหากต้องการจะขอโทษ จะขอโทษอย่างไร จะเขียนมาก็ได้ แต่แม่ไม่ยกโทษให้ โดยในส่วนของกระติกคุณแม่เชื่อว่า คนเราสามารถพูดโกหกกันได้ คนที่พูดเก่งๆ ก็โกหกเก่ง โกหกตำรวจ โกหกสื่อ

คุณอาจสนใจ

Related News