มีรายงานข่าวว่า เมืองคาร์คีฟ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับที่สองของยูเครน ได้ถูกรัสเซียยึดครองแล้ว พร้อมกันนี้รัฐบาลยูเครนยืนยันว่า กองกำลังรัสเซียสามารถบุกยึดเมืองโนวา คาคอฟกา ทางภาคใต้ของยูเครน ได้อีกเมือง เป็นเมืองเล็กๆ แต่ถือเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์เพราะอยู่บนริมฝั่งแม่น้ำนีเปอร์ ซึ่งทำให้รัสเซียสามารถส่งยุทธภัณฑ์มาจากแหลมไครเมียโดยตรงผ่านทางแม่น้ำสายนี้

เซเลนสกี้ ประกาศตั้งหน่วยรบอาสา ให้ชาวต่างชาติที่รักประชาธิปไตย ให้เข้ามายูเครน หยิบอาวุธและปกป้องยูเครน 

ขณะเดียวกัน สหราชอาณาจักร , โปแลนด์ , บัลแกเรีย , ลัตเวีย และ สาธาณรัฐเช็ก ได้สั่งปิดน่านฟ้า ห้ามสายการบินของรัสเซียบินผ่าน เพื่อลงโทษรัสเซีย ส่งผลให้ รัสเซีย ไม่พอใจ ตอบโต้กลับด้วยมาตรการเดียวกัน สั่งปิดน่านฟ้า ไม่ให้เครื่องบินของสายการบินของบัลแกเรีย , โปแลนด์ และ สาธารณรัฐเช็ก บินผ่านน่านฟ้ารัสเซียเช่นกัน

ส่วนแผนการยึดกรุงเคียฟนั้น สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทหารของรัสเซียได้รุกคืบเข้าไปจ่อกรุงเคียฟเข้าไปทุกทีๆ 

ส่วนปูตินได้เปิดประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพรัสเซีย และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล และได้ออกคำสั่งไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และประธานคณะเสนาธิการทหาร ให้เตรียมความพร้อมของกองกำลังป้องปรามทางนิวเคลียร์ ให้อยู่ในสถานะ ‘เตรียมความพร้อมเป็นพิเศษเพื่อการสู้รบ’ แล้ว

นาย ฮานส์ คริสเตนเซน นักวิเคราะห์นิวเคลียร์จากสหพันธ์นักวิทยาศาสตร์อเมริกัน เตือนว่า หากรัสเซียเพิ่มความพร้อมการต่อสู้ ด้วยนิวเคลียร์ของเครื่องบินทิ้งระเบิดของเขา หรือหากเขาสั่งการให้เรือดำน้ำที่มีขีดความสามารถติดตั้งขีปนาวุธไปประจำการในทะเลมากขึ้น สหรัฐฯ ก็อาจจะมีการตอบสนองอย่างเดียวกัน ซึ่งจะกลายเป็นสถานการณ์ที่น่ากังวลมาก

คำสั่งของปูตินหมายความว่า กองทัพจะเพิ่มความพร้อมสำหรับการใช้อาวุธนิวเคลียร์มากขึ้น ซึ่งไม่ได้หมายความว่าจะใช้อาวุธนิวเคลียร์โจมตีทันที  แต่ทว่าก็ถือว่าเป็นการเพิ่มความเสี่ยงที่สถานการณ์ความตึงเครียดในยูเครนจะบานปลายกลายเป็นสงครามนิวเคลียร์ขึ้นอย่างมาก

และได้กล่าวว่า “ชาติตะวันตกไม่เพียงมีพฤติกรรมไม่เป็นมิตรต่อชาติของรัสเซียในทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากชาติสมาชิกผู้นำนาโต ยังมีแถลงการณ์ก้าวร้าวเกี่ยวกับประเทศของเราอีกด้วย”  ซึ่งปูตินย้ำด้วยว่า การคว่ำบาตรของชาติตะวันตก ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ก่อนหน้านี้ ชาติตะวันตก ได้คว่ำบาตรรัสเซียออกจากระบบ “สวิฟต์” ซึ่งตัดรัสเซียออกจากการทำธุรกรรมทางการเงินนานาชาติแล้ว

ด้านนายอเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก ผู้นำเบลารุสโทรคุยกับผู้นำยูเครนโดยตรง สรุปว่า ประธานาธิบดีเซเลนสกี เห็นชอบที่จะส่งตัวแทนของยูเครนไปหารือกับตัวแทนของรัสเซียบริเวณชายแดนเบลารุสดังกล่าว พร้อมทั้งยอกว่า ชาติตะวันตกกำลังกดดันให้รัสเซียทำสงครามโลกครั้งที่ 3 ด้วยการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ รวมถึงการคว่ำบาตรหลายด้านๆ และจะทำให้

นายมิกาอิโล เฟโดรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลยูเครน ซึ่งทวีตข้อความข้อให้อีลอน มัสก์ ให้ความช่วยเหลือด้านระบบสื่อสารแก่ยูเครน โดยระบุว่า “ในขณะที่คุณพยายามตั้งอาณานิคมบนดาวอังคาร — รัสเซียพยายามยึดครองยูเครน ! ในขณะที่จรวดของคุณประสบความสำเร็จในการลงจอดจากอวกาศ — จรวดของรัสเซียโจมตีพลเรือนชาวยูเครน ! เราขอให้คุณจัดหาสถานี Starlink ให้กับยูเครนและยืนหยัดต่อกรต่อรัสเซีย”