จากกรณี 'แตงโม' นิดา พัชรวีระพงษ์ นักแสดงสาว ที่พลัดตกจากเรือสปีดโบ้ตกลางแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณท่าเรือพิบูลสงคราม 1 คืนวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา จนกระทั่งพบร่างหลังระดมทีมค้นหากว่า 39 ชั่วโมง

เมื่อเวลา 13.20 น. วันที่ 27 ก.พ.65 ที่ สภ.เมืองนนทบุรี อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือ กระติก ผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม และ วิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือแซน หนึ่งในคนที่นั่งบนเรือคืนวันเกิดเหตุ เปิดใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และข้อสงสัยในเหตุการณ์บนเรือ

กระติก ไล่เรียงเหตุการณ์วันเกิดว่า นายปอ ตนุภัทร เป็นเพื่อนกับตนเอง โทรมาหาชวนไปข้าวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านปทุมธานีจึงได้ไปเพื่อนที่สนิทคื อแตงโมและ แข น้อยโหน่ง แต่แขติดงานมาได้ เลยชวนแซนมาด้วย คิดว่าถ้ามาน้อยจะไม่สนุกเพราะจะนัดกันใส่ชุดแล้วถ่ายรูป

โดยได้นัดเจอกันตอน 4 โมงเย็น แต่งหน้า แต่งตัวเรียบร้อย ก็ออกมาขึ้นเรือที่อู่เก็บเรือย่านบางศรีเมือง แต่ตนเองไปเลทถึงประมาณ 16.45 น. นายปอ จึงขอเอาเรือไปเติมน้ำมันก่อน และจะวนกลับมารับ โดยปอ ก็ไปชวนเพื่อนชายไปด้วยอีก 2 คน คือ เบิตและจ๊อบ ซึ่งตนเองและแตงโมไม่ได้รู้จักกับสองคนนี้ แต่รู้จักกับนายปอ

จากนั้นทั้งหมดทั้ง 6 คน ก็ลงเรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยา ไปรับประทานอาหารกันตามปกติ ใช้เวลาเดินทางไปร้านอาหาร 2 ชั่วโมง ถึงที่ร้าน 6 โมงเย็น ทานข้าวไม่มีใครเมา ช่วงที่อยู่ในร้านตนเองก็ขอตัวไปปัสสาวะก่อนที่จะนั่งเรือกันออกมาทุกคนไปเข้าห้องน้ำ ยกเว้นแตงโม ก็เลยถามเพื่อน “มึงไม่ไปเข้าห้องน้ำเหรอ” และแตงโมก็ตอบ “ไม่ไป ไม่ปวด”

จากนั้นได้นั่งเรือมาตรงจุดที่สะพานพระราม 8 เพื่อถ่ายรูปเล่นตอน 2 ทุ่ม และวนเรือกลับมาแต่ก็มาเกิดอุบัติเหตุตอนช่วง 4 ทุ่ม ตอนแตงโม ไปปัสสาวะท้ายเรือ ไม่มีใครเห็น เพราะบางส่วนกำลังถ่ายรูปกันที่บริเวณหน้าเรือ แตงโมบอกปวดฉี่ จึงถามว่าชวนเข้าห้องน้ำที่ร้านอาหารทำไมไม่เข้า ตอนนั้นเราก็ไม่สนใจและดื่มด่ำกับบรรยากาศมากกว่า โดยแซนนั่งท้ายเรือเล่นมือถือ คนอื่นอยู่หน้าเรือ ก่อนได้ยินเสียงอีกทีว่า “อีแตงโมตกเรือ” โดยนายปอ ได้พยายามหาทางช่วยเหลือ

กระติก เล่าว่า ลักษณะการปัสสาวะของคนใส่บอดี้สูท ซึ่งแตงโมได้ใส่ด้วย คงถอดออกมายาก แต่ส่วนตัวจะใช้วิธีแหวกข้างออกมาแทน เพื่อถ่ายเบา ส่วนตอนแรกที่แตงโมใช้เสื้อคลุมผูกเองนั้น เป็นการใส่ๆ ถอดๆ ภาพสุดท้ายคือเห็นแตงโมใส่เสื้อคลุม

ตอนนั้นไม่เห็นจังหวะที่แตงโมตกไป โดยคนขับเรือจะสลับกัน ระหว่างปอ กับนายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ หรือโรเบิร์ต เพื่อนของปอ ซึ่งต้องถาม 2 คนนั้น นายปอเป็นเพื่อนกับทุกคน ส่วนจ๊อบกับโรเบิร์ต เพิ่งรู้จักกันวันนั้น โดยเป็นเพื่อนของปอ ซึ่งเราเข้าใจ ไม่อย่างนั้นจะมีผู้ชายคนเดียวบนเรือ ซึ่งตอนเจอหน้าทั้ง 2 คน ปอก็แนะนำกันธรรมดา

กระติก ยังตอบคำถามของสื่อด้วยเสียงสั่นเครือพร้อมจะร้องไห้ บอกว่า “ข้อสงสัยเรื่องจะทำร้ายแตงไม่มีทางเกิดประเด็นนั้นขึ้น รวมถึงในเรื่องของมรดกของลูกกระติก ที่แตงโมรับเป็นลูกบุญธรรม ประเด็นนี้ไม่มีแน่นอน ตนเองเป็นผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม คงไม่อยากทุบหม้อข้าวตัวเอง ใครจะหาความลำบากมาให้ตัวเอง เพราะเมื่อไม่มีแตงโมก็จะไม่มีงาน”

"ผลักตกน้ำ ไม่มีทางที่จะเกิดประเด็นนี้ขึ้น เรารักกัน เขารับลูกเราเป็นลูกบุญธรรม ถ้าโมเสียชีวิตไป พี่ต้องเข้าใจด้วยนะว่า เงินติกก็หายไปเหมือนกันนะ" ไม่ได้ลบรูปในไอจี ไม่ได้ยุ่งกับมือถือแตงโม

เมื่อถามถึงประเด็นที่แม่ระบุมีเพื่อนขอให้ไม่พูดให้ข่าว กระติกตอบว่า ต้องถามคุณแม่และให้แม่ชี้ตัวเลย ยอมรับว่าตั้งแต่เกิดเรื่องเพิ่งคุยกับแม่แตงโมเมื่อวาน (26 กพ.) หลังจากที่พบศพก็ไปเจอแม่ที่นิติเวช เพราะก่อนหน้านี้ไม่ได้คุยกัน

ส่วนที่หลายคนตั้งคำถามว่าทำไมตอนโมตกเรือไม่โทรหาแม่และพี่ชาย ก็ตนเองไม่ได้สนิทกับแม่ “แม่ไม่ใช่นักประดาน้ำ แม่ดำน้ำไม่เป็น ไม่มีอุปกรณ์ไม่รู้จะโทรบอกทำไม” ส่วนใหญ่จะคุยและติดต่อกับพ่อของแตงโมมากกว่า แต่พ่อตายไปแล้วจึงคิดว่าไม่โทรหาแม่เพราะแม่ก็คงจะช่วยอะไรไม่ได้ อีกอย่างก็ไม่อยากรบกวนเวลานอนเพราะดึกแล้ว

กระติกได้เล่าย้ำว่าเรื่องแตงโมปัสสาวะก็มาทราบกันภายหลัง เมื่อได้มาคุยกัน ส่วนตัวไม่รู้บนเรือมีห้องน้ำ จึงเคลียร์ตัวเองก่อนลงเรือ ยืนยันเราไปถ่ายรูป ภาพที่ออกมาจะต้องสวย โดยแตงโมเป็นดาราด้วย จึงต้องมีเรื่องถ่ายรูป เพื่อนำไปใช้  

ประเด็นไม่ใส่เสื้อชูชีพ เพราะคิดว่าถ้าใส่เสื้อชูชีพอาจเป็นอุปสรรคและรูปอาจออกมาไม่ดี คิดว่าเราไม่ได้มาเล่นบานาน่าโบ๊ต และการขับเรือก็ไม่ได้หวาดเสียว จึงไม่ได้ใส่เสื้อชูชีพ

กระติก กล่าวต่อว่า ไม่แน่ใจใครขับเรือปอหรือเบิร์ต หลังเกิดเหตุได้นัดมาเจอกันที่อู่เรือ โดยอยู่จุดนั้นถึงเกือบตี 4 “ตอนนั้นคิดถึงลูกและกลับไปยังบ้านของแตงโม ไปถึงบ้านก็อาบน้ำ ห่วงลูกก็เลยกลับบ้าน คิดเอาว่าเดี๋ยวแตงโมก็กลับบ้านมาเอง เราไม่คิดเรื่องการให้ปากคำ” ส่วนอีกวันตั้งใจมาพบตำรวจ แต่ประเด็นเยอะไปหมด จึงอยากปรึกษาใครสักคน เลยทำให้ช้า เพราะเรื่องหนักมาก เราไม่ได้อ่านอะไรเลย ทำให้ไม่ทราบ

ขณะที่แซน วิศาพัช มโนมัยรัตน์  ชี้แจงเรื่องที่ตอนสายตรวจไปถึงที่เกิดเหตุแต่ทำไมถึงเขียนแค่ชื่อเล่นและชื่อเดิมของ ‘แตงโม’ เพราะตกใจรู้แค่ชื่อเล่นไม่ได้จะจำว่าเพื่อนเปลี่ยนชื่อใหม่แล้ว โดยช่วงแตงโม ไปนั่งปัสสาวะท้ายเรือ ยืนยันว่าแตงโมไปปัสสาวะจริงเพราะปวดมาก ตนเองก็นอนเล่นโทรศัพท์อยู่ท้ายเรือ จังหวะนั้นแตงโมเอามือมาจับขาไว้แต่ก็หลุดตกเรือไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า ชุดของแตงโมมันถอดยากต้องใช้มือ 2 ข้างถอดและจับ ถึงจะปัสสาวะได้นั้น แซนตอบว่า “พี่ไม่เคยหรือ ไม่เคยปัสสาวะแบบเร่งรีบในชุดบอดี้สูทหรือ ถ้าเกิดเคยพี่คงจะทราบว่าทำยังไง ไม่ค่อยอยากอธิบายตรงนี้ มันไม่ค่อยสุภาพเท่าไหร่ ซึ่งไม่เห็นว่าแตงโมใส่ชุดบอดี้สูทแบบไหน”

ผู้สื่อข่าวถามแซน ว่าแตงโมได้ตะโกนขอความช่วยเหลือหรือพยายามจะว่ายน้ำมั้ย แซนตอบว่า ตะโกนแต่หันไปไม่เจอแล้ว เพราะมันมืดมาก แซนยังตอบเรื่องที่ไม่แจ้งข้อมูล ที่ชัดเจนกับกู้ภัยที่มาช่วยค้นหานั้น ยืนยันว่าให้ข้อมูลกับกู้ภัยไปหมดแล้ว มีหลักฐานการแจ้งไม่ได้พูดลอยๆ กู้ภัยมาช้า ติดต่อไปตั้งนานแล้วทำไมไม่มาช่วย

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/McxSNmPLB8M