การสู้รบในยูเครน ระอุต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 บรรดาชาติพันธมิตรตะวันตก เร่งระดมส่งอาวุธช่วยยูเครน เพื่อต้านทานกองทัพรัสเซีย ที่กำลังรุกคืบปิดล้อมกรุงเคียฟของยูเครนอยู่ในขณะนี้

ทางด้าน กระทรวงต่างประเทศสหรัฐอเมริกาแถลงว่า จะส่งอาวุธยุทโธปกรณ์มูลค่ากว่า 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 11,350 ล้านบาท แก่ยูเครน เพื่อรับมือกับการรุกรานของกองกำลังรัสเซีย ครอบคลุมถึงขีปนาวุธ 'เจฟลิน' ขีปนาวุธต่อต้านรถถัง ระบบป้องกันภัยทางอากาศต่อต้านเครื่องบินรบ และเสื้อเกราะ

ส่วน ทางด้านรัฐบาลเยอรมนีระบุว่า จะเร่งส่งเครื่องยิงระเบิดต่อต้านรถถัง 1,000 เครื่อง และขีปนาวุธแบบภาคพื้นสู่อากาศสติงเจอร์อีก 500 ลูก รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ประกาศเสริมอาวุธป้องกันตัวให้แก่ยูเครน ประกอบด้วยเครื่องยิงระเบิดต่อต้านรถถัง แพนเซอร์ฟอสต์-3 50 เครื่อง และจรวด 400 ลูก

นอกจากนั้น ทางด้านสวีเดนได้ประกาศว่า จะส่งเครื่องมือทางทหาร พร้อมกับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ไปยังยูเครนโดยด่วน

โดยนายกรัฐมนตรี แมกดาเลนา แอนเดอร์สัน กล่าวว่า ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1939 ทีเดียว ที่สวีเดน ร่วมส่งอาวุธไปยังประเทศที่เกิดเหตุการสู้รบ นับตั้งแต่สหภาพโซเวียตบุกฟินแลนด์ เมื่อปี 1939

ผู้นำสวีเดนกล่าวว่า จะส่งเครื่องยิงต่อต้านรถถึง 5,000 ชุด พร้อมกับเสื้อเกราะและหมวกกันกระสุนอย่างละ 5,000 ชุด และกระสุนปืนอีกราว 135,000 นัด ให้กับยูเครน

ขณะเดียวกัน ทางด้านองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) แถลงว่าจะส่งกองกำลังตอบสนองรวดเร็ว 40,000 นาย ไปยังชาติพันธมิตรยุโรปตะวันออก เพื่อตรึงกำลังเฝ้าระวัง แต่ย้ำว่า จะไม่ส่งกำลังเข้าไปในยูเครน

ส่วน นายกรัฐมนตรีสกอต มอร์ริสัน แห่งออสเตรเลีย แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในยุโรป แต่ก็เป็นประเทศพันธมิตรสำคัญของสหรัฐ กล่าวว่า ออสเตรเลียจะช่วยเหลือทางการเงิน เพื่อจัดหาอาวุธให้กับยูเครนในการต่อสู้ป้องกันตัวจากกองกำลังรัสเซีย โดยออสเตรเลียจะเดินหน้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง และจะพยายามหาทางสนับสนุนทุกอย่าง ที่สามารถทำได้ผ่านพันธมิตรนาโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร

นอกจากความช่วยเหลือระหว่างรัฐและองค์กรระหว่างประเทศแล้ว นายฮิโรชิ มิกิตานิ มหาเศรษฐีชาวญี่ปุ่น ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ 'รากูเต็น' อีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของประเทศ กล่าวว่าจะบริจาคเงิน 8.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 280 ล้านบาทแก่รัฐบาลยูเครน พร้อมทั้งประณามการรุกรานของรัสเซียว่าเป็นความท้าทายของประชาธิปไตย

นายมิกิตานิ ซึ่งเคยพบปะพูดคุยกับนายเซเลนสกี ขณะเดินทางเยือนกรุงเคียฟเมื่อปี 2562 ระบุเชื่อว่า การเหยียบย่ำยูเครน ประเทศที่สงบสุขแ ละเป็นประชาธิปไตย ด้วยกำลังที่ไม่ยุติธรรมนั้น เป็นความท้าทายต่อระบอบประชาธิปไตย ตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารัสเซีย และยูเครนสามารถแก้ปัญหานี้ได้อย่างสันติ และประชาชนชาวยูเครนจะมีสันติภาพอีกครั้ง