กรมสมเด็จพระเทพฯ ติดตามโครงการตามพระราชดำริ คุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชน จ.กาญจนบุรี

พระราชสำนัก

กรมสมเด็จพระเทพฯ ติดตามโครงการตามพระราชดำริ คุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชน จ.กาญจนบุรี

โดย kodchaporn_j

21 ก.พ. 2565

80 views

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงติดตามโครงการตามพระราชดำริ ด้านการพัฒนาการศึกษา และคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชน ที่จังหวัดกาญจนบุรี



- วันนี้เวลา 09.45 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินโดยเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง ซึ่งกองบินตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดถวาย ไปยังโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านต้นมะม่วง บ้านพุหว้า อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ทรงติดตามการดำเนินงาน โครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริ ซึ่งกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 13 กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ดำเนินงานสนองพระราชดำริ ด้านวิชาการมีมหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี ตลอดจนมหาวิทยาลัยราชภัฏในจังหวัดใกล้เคียง ให้การสนับสนุนการจัดอบรมครูผู้สอน ให้มีทักษะเพิ่มขึ้น โดยได้รับงบประมาณ และทุนการศึกษา จากกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ในการพัฒนาศักยภาพของครูผู้สอน ช่วยให้นักเรียนเกิดความคิดสร้างสรรค์ อาทิ การออกแบบกล่องผลิตภัณฑ์กล้วยตาก ที่ใช้รูปแบบสะเต็มศึกษา ด้วยการบูรณาการวิชาคณิตศาสตร์ ศิลปะ และวิทยาศาสตร์ ในการออกแบบ ขณะที่วิทยาลัยการอาชีพแม่น้ำแคว ให้ความรู้ทักษะช่างไฟฟ้าเบื้องต้น รวมถึงการแปรรูปกล้วยน้ำว้า เป็นน้ำพริกกล้วยกรอบ กล้วยกรอบเค็ม และกล้วยตากช็อกโกแลต เพื่อต่อยอดการทำกล้วยตาก ซึ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานเครื่องอบกล้วย เมื่อปี 2562 และได้นำผลผลิต จากต้นมะขามทรงปลูกเมื่อปี 2545 มาแปรรูปเป็นมะขามแช่อิ่ม สร้างรายได้เสริมให้กับนักเรียน



- นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนจากศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เข้ามาสอนการทอผ้าไหม โดยเป็น 1 ใน 4 โรงเรียนตชด. ในจังหวัดกาญจนบุรี ที่ดำเนินงานโครงการทายาทหม่อนไหมในโรงเรียน มาตั้งแต่ปี 2559 เพื่อสืบทอดหัตถกรรมท้องถิ่น และนำผลงานของนักเรียน ไปผลิตเป็นกระเป๋า กับผ้าพันคอ จำหน่ายผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งผลงานทอผ้าไหมของนักเรียน ได้รับการรับรองมาตรฐานตรานกยูงพระราชทานสีน้ำเงิน



- ด้านสุขอนามัย นักเรียนมีภาวะโภชนาการที่ดี เนื่องจากโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี และยังเป็นแบบอย่างในการแก้ไขปัญหาพื้นที่เพาะปลูกลาดเอียง ให้กับเกษตรกรที่สนใจ โดยการก่ออิฐบล็อกเพื่อป้องกันน้ำฝนเซาะพังทลาย และควบคุมน้ำให้อยู่ในแปลงผัก รวมทั้งยังเป็นศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ที่แจกจ่ายพันธุ์เป็ดไก่ และเมล็ดพันธุ์พืช ให้คนในชุมชน ทั้งนี้กรมชลประทาน และสำนักงาน กปร. ได้สนับสนุนแหล่งน้ำสำหรับพื้นที่การเกษตร และสนองพระราชดำริ ในการปรับปรุงแหล่งน้ำ ให้กับโรงเรียน และพื้นที่การเกษตรของประชาชน จำนวน 430 ไร่



- เวลา 14.22 น. เสด็จพระราชดำเนิน ไปทรงติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงาน โครงการตามพระราชดำริ ที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนสุนทรเวช หมู่ 1 บ้านสะเนพ่อง ตำบลไล่โว่ อำเภอสังขละบุรี เปิดสอนระดับอนุบาล ถึงประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียน 223 คน โดยนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา (O-NET) สูงขึ้นทุกวิชา



- โอกาสนี้ ทอดพระเนตรกิจกรรมแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร โดยนำวัตถุดิบที่มีมากในท้องถิ่น มาสอนให้นักเรียนทำอาหาร และขนมต่าง ๆ ได้แก่ การทำหน่อไม้ดอง , การทำเค้กกล้วยหอมนึ่ง จำหน่ายผ่านสหกรณ์โรงเรียน ขณะที่ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร จังหวัดกาญจนบุรี ร่วมกับสำนักงานเกษตร เข้าไปส่งเสริมให้ความรู้ เรื่องการปลูกและการผลิตเมล็ดกาแฟ พร้อมกับ นำเมล็ดกาแฟโรบัสต้าสายพันธุ์ใหม่ มาให้ปลูกเพิ่ม โดยพื้นที่แห่งนี้ปลูกกาแฟมานานกว่า 80 ปี นอกจากนี้ ทางโรงเรียนยังได้เก็บเมล็ดพันธุ์พืช 3 กลุ่ม คือ เมล็ดแห้ง , เมล็ดเปียก และเมล็ดที่มีเมือก เพื่อนำไปเป็นเมล็ดพันธุ์ ในโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน และแจกจ่ายให้แก่ชุมชน



- ด้านการฝึกอาชีพ ได้สนองพระราชกระแสเรื่อง การฝึกให้นักเรียนทอผ้ากะเหรี่ยงในลวดลายที่ยากขึ้น และฝึกการเย็บผ้า ปัจจุบันมีสมาชิก 10 คน สามารถทอผ้าลายข้าวโพดได้สวยงามมากขึ้น กิจกรรมการจักสานไม้ไผ่ มีปราชญ์ชาวบ้านเข้ามาสอน ทำผลิตภัณฑ์ ส่วนวิทยาลัยการอาชีพกาญจนบุรี เข้ามาสอนการบำรุงรักษา และติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ ใช้ในโรงเรียนและหมู่บ้าน เนื่องจากยังไม่มีไฟฟ้าใช้ สำหรับห้องสมุด มีหนังสือพระราชทานแบบเรียน , หนังสือพระราชทานระดับมัธยมศึกษา , หนังสือพระราชทานสื่อ 60 พรรษา มีการสาธิตการเล่านิทานให้น้องฟัง โดยพี่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และกิจกรรมเกมส์คำศัพท์ในหนังสือ



- ในการนี้ทอดพระเนตรการแสดง "เมืองมนต์ขลัง ดินแดนสังขละบุรี" เป็นการรำตงประยุกต์ เนื้อหาของเพลง บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสถานที่สำคัญ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในอำเภอสังขละบุรี เช่น พระแก้วขาว หรือ พระพุทธรัตนสังขละบุรีศรีสุวรรณ พระคู่บ้านคู่เมืองของอำเภอสังขละบุรี ปัจจุบันประดิษฐานที่วัดสเนพ่อง สำหรับโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน มีการสอนทำการเกษตรแบบครบวงจร ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี นักเรียนมีพืชผัก ไข่ไก่และเนื้อสัตว์บริโภคอย่างเพียงพอ ทั้งนี้โรงเรียนยังเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการเกษตรให้แก่ชุมชน เช่น การเพาะเห็ด เลี้ยงไก่ไข่ ปัจจุบันมีชาวบ้านเข้าร่วมกิจกรรม 80 ครัวเรือน