'พล.ต.ต.ปวีณ' เปิดใจ หลัง 'รังสิมันต์ โรม' อภิปราย แฉขบวนการค้ามนุษย์

เลือกตั้งและการเมือง

'พล.ต.ต.ปวีณ' เปิดใจ หลัง 'รังสิมันต์ โรม' อภิปราย แฉขบวนการค้ามนุษย์

โดย passamon_a

20 ก.พ. 2565

33 views

พล.ต.ต.ปวีณ เผยความในใจ กลางไลฟ์ก้าวไกล หลัง รังสิมันต์ โรม อภิปรายซัดคนในรัฐบาล มีเอี่ยวขบวนการค้ามนุษย์


นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล แถลงข่าว เปิดเบื้องหลังตั๋วช้างภาค 2 โดยมี น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ร่วมพูดคุย หลังจากเสร็จสิ้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 ในการอภิปรายของนายรังสิมันต์ ได้ไล่เรียงเหตุการณ์ที่ประเทศไทยถูกปรับอยู่ในบัญชีเฝ้าระวังการค้ามนุษย์ (Tip Report) ของสหรัฐฯ


นายรังสิมันต์ เปิดเผยว่า ขบวนการค้ามนุษย์มีจุดเริ่มต้นจากคดีค้าโรฮิงญาเมื่อปี 2558 ขณะนั้นมีการค้นพบการขนชาวโรฮิงญา สถานกักกัน ไปจนถึงหลุมศพของชาวโรฮิงญาอยู่บริเวณพื้นที่การดูแลของตำรวจภาค 8 โดยมี พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ได้รับมอบหมายเป็นผู้ดูแลคดี ก่อนจะค้นพบความสัมพันธ์ที่โยงใยขบวนการค้ามนุษย์ไปยังระดับข้าราชการทหาร นักการเมืองท้องถิ่นอีกหลายราย จนนำไปสู่การจับกุม พล.ท.มนัส คงแป้น ในเวลาต่อมา แต่การทำคดีในครั้งนั้นส่งผลให้ พล.ต.ต.ปวีณ ต้องลี้ภัยไปยังประเทศออสเตรเลีย


นายรังสิมันต์ ได้เปิดเผยเบื้องหลังการอภิปรายที่ดุเดือดที่สุดครั้งหนึ่งของเขา ว่า เป็นการอภิปรายตั๋วช้างภาค 2 ที่เป็นการตีแผ่ด้านกลับของตำรวจที่ได้ดีเพราะอาศัยตั๋วช้าง เส้นสายและการเข้าวัง ว่าเมื่อมีผู้ปฏิเสธการเข้าวัง ก็จะกลายเป็นตำรวจดีที่ต้องลี้ภัย นายรังสิมันต์ได้เปิดเผยว่า การอภิปรายครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนข้อมูลจาก พล.ต.ต.ปวีณ ซึ่งได้ปรากฏตัวผ่านระบบการประชุมออนไลน์ในงานแถลงข่าวด้วย


พล.ต.ต.ปวีณ กล่าวว่า ไม่มีสิ่งใดจะต้องฝากถึงรัฐบาล แต่เขาตั้งใจฝากถึงพี่น้องข้าราชการที่ต้องทำงานและเจอกับเรื่องร้าย ๆ อย่างเขา ว่าขอให้ซื่อตรงต่อหน้าที่ของตนเอง กล้าหาญ ตระหนักถึงประโยชน์ของประเทศชาติมาเป็นอันดับแรก พร้อมย้ำว่า "ประเทศชาติหมายถึงประชาชน ไม่ใช่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง"


ระหว่างการแถลง พล.ต.ต.ปวีณ ยังเผยความในใจว่าอยากจะมีโอกาสเดินทางกลับมายังประเทศไทย เพราะคนที่รัก ครอบครัวยังอยู่ที่นี่ พร้อมกับตอบคำถามสื่อมวลชนถึงการเปิดเผยข้อมูลในครั้งนี้


"ไม่ใช่ว่าที่ผ่านมาผมไม่อยากเปิดเผย ผมพูดเปรยกับพี่น้องสื่อมวลชนหลายสำนัก แต่กลับไม่มีใครนำไปเปิดเผย เมื่อไม่มีการตอบรับ การพูดไปนั้นเปล่าประโยชน์ ผมรอเวลามานาน ใครที่จะรับข้อมูลของผมไปเปิดเผย หากเปิดเผยไปแล้วไม่มีใครขยายต่อ เผยแพร่ต่อ มันก็ไม่มีความหมาย ส่วนคำถามที่ว่าผมลี้ภัยเพราะอะไร ใบสมัครแผ่นนั้นเป็นคำตอบทั้งหมดที่ทำให้ผมตัดสินใจง่าย"


"การทำหน้าที่แต่ละฝ่ายไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือสื่อมวลชน สิ่งที่ต้องมีก็คือจริยธรรม ผมมองว่า สิ่งหนึ่งที่ไม่สามารถขัดขวางได้คือความกล้าหาญ ถ้าเรากลัว มันก็ทำหน้าที่ไม่ได้ ถ้าพี่น้องสื่อมวลชน ตำรวจ ประชาชน กล้าหาญ ยึดถือในความถูกต้อง หน้าที่อย่างพร้อมเพรียง การสู้กับผู้มีอำนาจก็เป็นไปได้ เช่น ไม้ไผ่หลายก้านรวมกัน งอเท่าไหร่ก็ไม่หัก" พล.ต.ต.ปวีณ กล่าว พร้อมย้ำว่าตนเชื่อว่าการทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา จะช่วยให้ประเทศดีกว่าที่เป็นอยู่


ด้าน นายรังสิมันต์ ปิดท้ายการแถลงข่าว "การอภิปรายรอบนี้เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบไม่ลงคะแนน การอภิปรายนี้ก็เพื่อเปิดเผยและต้องการให้สังคมทบทวนประเด็นต่าง ๆ ที่ไม่ถูกต้อง และหวังใช้สภาเป็นพื้นที่สะท้อนปัญหา" พร้อมยืนยันว่า พรรคก้าวไกลพร้อมเดินหน้าแก้ไขสิ่งที่ผิดให้ถูกต้อง แม้จะเชื่อว่า ตราบใดที่ขบวนการค้ามนุษย์ที่ยังเป็นบ่อเงินบ่อทองของผู้มีอำนาจ อาจจะยังแก้ไขปัญหาไม่ได้ แต่ในมุมของก้าวไกล ก็จะยังทำงานเปิดโปงและตั้งคำถามต่ออันตรายในสังคมให้ได้


คุณอาจสนใจ

Related News