“ก้าวไกล” ชำแหละค้ามนุษย์ เชื่อมโยงตั๋วช้าง ซัดคนในรัฐบาลมีเอี่ยว ทำตำรวจดีต้องลี้ภัย

เลือกตั้งและการเมือง

“ก้าวไกล” ชำแหละค้ามนุษย์ เชื่อมโยงตั๋วช้าง ซัดคนในรัฐบาลมีเอี่ยว ทำตำรวจดีต้องลี้ภัย

โดย pattraporn_a

19 ก.พ. 2565

64 views

พรรคก้าวไกล เดินหน้าตรวจสอบขบวนการค้ามนุษย์โรฮิงญา ที่เชื่อมโยงไปถึงขบวนการตั๋วช้าง ภาค 2 หลังไม่ได้รับคำชี้แจงจากนายกรัฐมนตรี


พรรคก้าวไกล เดินหน้าตรวจสอบขบวนการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะการค้ามนุษย์โรฮิงญา ที่นำมาอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร โดยนายรังสิมันต์ โรม ที่เชื่อมโยงไปถึงขบวนการตั๋วช้าง ภาค 2 แต่หลังไม่ได้รับคำชี้แจงจากนายกรัฐมนตรี วันนี้พรรคก้าวไกลมีการแถลงข่าว รู้สึกผิดหวัง ที่รัฐบาลไม่ตอบเรื่องนี้ทั้งที่มีความสำคัญต่อความเชื่อมั่นของประเทศไทย และกลายเป็นเหตุผลให้ ตำรวจที่ดีคนหนึ่งต้องขอลี้ภัยไปต่างประเทศ


นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล เปิดเผยว่ารู้สึกผิดหวังที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ชี้แจงคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา ที่เป็นส่วนหนึ่งของ ตั๋วช้างภาค 2 ที่นายรังสิมันต์ ได้อภิปรายความล้มเหลวในการจัดการปัญหาค้ามนุษย์ของรัฐบาล ตั้งแต่ยุค คสช. จนทำให้ไทยยังอยู่ใน เทียร์ 2 บัญชีเฝ้าระวังการค้ามนุษย์ หรือ Tip Reporter ของสหรัฐฯ และจากคดีค้ามนุษย์ชาวโรงฮิงญาในปี 2558 ที่พบหลุมศพชาวโรฮิงญาในพื้นที่จังหวัดสงขลา จนนำมาซึ่งการดำเนินคดีกับขบวนการค้านมนุษย์


โดยมี พลตำรวจตรี ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 รับผิดชอบทำคดี ที่นำมาซึ่งการฟ้องผู้เกี่ยวข้องทั้งนักการเมืองท้องถิ่น ข้าราชการทหาร ตำรวจ เป็นจำเลยมากถึง 103 คน แต่พลตำรวจตรี ปวีณ กลับต้องขอลี้ภัยไปยังประเทศออสเตรเลีย ซึ่งพบว่าเหตุผลนอกจากจะให้ย้ายไปจังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว ยังมีผลมาจาก ตั๋วช้าง ที่นายรังสิมันต์เคยอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งที่ผ่านมา


โดยการแถลงข่าววันนี้ พลตำรวจตรี ปวีณ ได้ร่วมรายการผ่านทางวีดีโอคอล มาจากประเทศออสเตรเลีย ยืนยันว่า ข้อมูล หลักฐานเอกสารที่นายรังสิมันต์ ไปเปิดเผยในสภา เป็นเรื่องจริง ซึ่งเคยเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวมาแล้วเมื่อ 6 ปีก่อน แต่ไม่ได้รับการเปิดเผย มาวันนี้จึงเหมือนได้รับความเป็นธรรมมาครึ่งหนึ่งแล้ว นับจากลี้ภัยไป 6 ปี 6 เดือน 3 วัน แต่ไม่มีสิ่งใดจะฝากไปถึงนายกรัฐมนตรี นอกจากฝากถึงเพื่อนข้าราชการตำรวจที่ขอให้ยึดมั่นในจริยธรรม ทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง


นายรังสิมันต์ โรม ยอมรับว่า การอภิปรายรอบนี้เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบไม่ลงคะแนน จึงหวังที่จะให้สังคมทบทวนประเด็นต่างๆ ที่ไม่ถูกต้อง และหวังใช้สภาผู้แทนราษฎร เป็นพื้นที่สะท้อนปัญหาการค้ามนุษย์ที่บ่อนทำลายประเทศไทย และต้องกวาดล้างให้ได้ เพื่อให้มีตำรวจดีต้องลี้ภัย อย่างที่เกิดกับ พลตำรวจตรี ปวีณ พงศ์สิรินทร์

คุณอาจสนใจ

Related News