นักร้องสาวโพสต์เตือนภัย หนุ่มใหญ่ทรงเสี่ยลูกค้าประจำร้าน อ้างตัวเป็นหมอทหารและเจ้าร้านทอง หลอกนำทองไปเปลี่ยนลายโดยไม่คิดค่ากำเหน็จ ผ่านไปหลายวันยังไม่คืนของ พอทวงถามก็พูดขู่เรื่องมีปืน สุดท้ายหนีหายเงียบสูญทองมูลค่าหลายหมื่นบาท

คลิปนี้ถูกโพสต์โดย น.ส.อรุณโรจน์ หรือ บี อายุ 33 ปี พนักงานร้านจิ้มจุ่มแห่งหนึ่ง ที่ตำบลหนองกี่ อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ระบุว่า เป็นภาพบุคคลอันตราย หนุ่มใหญ่ทรงเสี่ย ถ้าเจอชายคนนี้ตามร้านเหล้า งานศพ ตลาด แล้วเจอกล่าวอ้างว่าเขาเป็นแพทย์ทหาร ผู้รับเหมา หรือทำงานราชการมียศมีศักดิ์สูง หรือเป็นเจ้าของร้านทอง เจ้าของโรงหล่อทอง อย่าได้หลงเชื่อเด็ดขาด !! เพราะตัวเธอถูกหลอกเอาทองไปสูญเงินหลายหมื่นบาท เชื่อว่า คนร้ายเป็นมืออาชีพ จึงโพสต์เตือนภัยคนอื่น และมีรางวัลนำจับให้ 20,000 บาท สำหรับคนที่แจ้งข้อมูลจนสามารถตามจับตัวคนร้ายได้

เมื่อวานนี้คุณบีไปแจ้งความที่ สภ.กบินทร์บุรี พร้อมเผยว่า รู้จักนายแก้ว ผู้ก่อเหตุ ในฐานะลูกค้าได้ประมาณ 2 ปีกว่า ๆ เขาเป็นลูกค้าประจำ โดยจะมาร้องเพลงด้วย และชอบให้ทิปกับนักร้องนักดนตรี ทุกครั้งที่มาจะพกเงินมาเป็นจำนวนมาก และจะพกปืนมาด้วยตลอด พร้อมบอกว่า ตัวเองเป็นหมอทหาร ทำงานที่จันทบุรี ให้เรียกว่า หมอแก้ว และยังบอกว่าเป็นเจ้าของโรงหล่อทอง และมีร้านทองที่ปราจีนบุรี

นอกจากนี้ยังบอกว่า ตัวเองเป็นมะเร็งอยู่ได้ไม่กี่ปี ทำนองว่าตายไปก็เอาอะไรไปไม่ได้ ถ้าจะมาเปลี่ยนลายทอง หรือทำทอง จะทำให้ไม่เสียค่ากำเหน็จ เธอจึงหลงเชื่อ ไว้ใจนำทองให้ไปเปลี่ยนลาย เมื่อวันที่ 24 มกราคม จากนั้นเวลาถามหาทอง เขาจะบอกว่าประมาณ 10-15 วัน พอเริ่มเอะใจถามหาทองบ่อย ๆ เขาก็จะหงุดหงิดใส่ แถมยังพูดเรื่องปืนใส่ขู่ให้กลัว จนวันที่ 7 กุมภาพันธ์ เขานัดคืนทองให้ สุดท้ายก็เบี้ยว

หลังโพสต์เฟซบุ๊ก ปรากฏว่า มีผู้เสียหายหลายรายคนทักมาหาจากหลายพื้นที่ ทั้งโคราช กบินทร์บุรี ขอนแก่น วังน้ำเขียว สระแก้ว ซึ่งตนเองเสียทองไปน้ำหนัก 2 บาท 50 สตางค์ และพระเลี่ยมทอง 1 องค์ ยังมีนักดนตรีที่ร้านหลงเชื่อ เสียสร้อยคอทองคำไป 1 บาท ระหว่างอยู่ที่โรงพักยังมีผู้เสียหายโทรศัพท์มาหา พร้อมให้ข้อมูลว่า เคยถูกนายแก้วหลอกเมื่อ 4 ปีที่แล้ว โดยสั่งอาหารแล้วไม่จ่ายเงิน เคยถูกจับอยู่ที่ อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา

ล่าสุดทราบว่า นายแก้วนำทองของตนไปขายร้านทองที่บ้านโคก อำเภอกบินทร์บุรี ซึ่งตนเคยเอารูปนายแก้วไปถามที่ร้านทองแห่งนั้น เขาบอกว่า นายแก้วเป็นลูกค้าประจำ นำทองมาขายที่ร้านอยู่เรื่อย ๆ ตนจึงขอชื่อและข้อมูลอื่น ๆ ของนายแก้ว แต่ทางร้านบอกว่า ไม่มีเพราะไม่ได้ถ่ายบัตรประชาชนไว้ ตนอยากวอนขอนายแก้วขอของคืน เพราะมันเป็นน้ำพักน้ำแรงกว่าจะทำงานหาเงินมาซื้อได้ ส่วนพระปิดตาเป็นของมีค่าทางจิตใจที่พี่ชายให้มา

ขณะเดียวกันมีผู้เสียหายอีกราย มาแจ้งความพร้อมกับ น.ส.บีด้วย คือ นายรัชชานนท์ อายุ 33 ปี บอกว่า ถูกนายแก้วหลอก โดยได้มอบสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ให้นายแก้วนำไปเปลี่ยนลายทอง แล้วบ่ายเบี่ยงไม่คืน ก่อนจะนัดคืนทองให้วันที่ 16 กุมภาพันธ์ สุดท้ายกลับติดต่อนายแก้วไม่ได้

ล่าสุดวันนี้ ผู้สื่อข่าวไปที่ร้านทอง เขตพื้นที่ตลาดอุดมสุข อำเภอกบินทร์บุรี ซึ่งเป็นร้านทองที่นายแก้วนำทองมาขายเพื่อสอบถามข้อมูล ปรากฏว่า ร้านปิด ขณะที่ชาวบ้านละแวกดังกล่าวบอกว่า เมื่อวานมีตำรวจเข้าไปตรวจสอบที่ร้านทองดังกล่าว เพื่อหาเบาะแสจอมลวงโลกว่าเป็นใคร พร้อมขอดูภาพขณะนายแก้วนำทองมาขาย ว่าได้บันทึกหลักฐานไว้หรือไม่ ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามไปที่ สภ.กบินทร์บุรี เพื่อขอข้อมูลดังกล่าว แต่ตำรวจไม่ให้ บอกเพียงว่า รู้เบาะแสแล้วว่า จอมลวงโลกคือใคร อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อขออำนาจศาลจังหวัดกบินทร์บุรีอนุมัติหมายจับ

ขณะเดียวกันยังไปเจอเหยื่อของนายแก้วอีกคน เป็นเจ้าของร้านอาหารตามสั่ง ถูกนายแก้วตีสนิทมานั่งสั่งอาหาร ชักปืนขึ้นมาขู่คนในร้าน ทำตัวเหมือนคนมีฐานะ พอนานเข้า อ้างว่า เดือดร้อนเรื่องเงินต้องใช้เงินด่วน เจ้าของร้านหลงเชื่อไปกู้ยืมเงินเพื่อนให้ 30,000 บาท นายแก้วบอกว่า อีก 1 อาทิตย์จะคืน เมื่อครบกำหนดก็บ่ายเบี่ยง และติดต่อไม่ได้อีกตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคมที่ผ่านมา สุดท้ายตนต้องรับใช้หนี้แทน ต้องส่งดอกทุกเดือนๆ 3,000 บาท

ล่าสุด มีคนส่งเบาะแสให้ผู้เสียหาย ว่า เจอนายแก้วไปโผล่ที่ร้านอาหารที่จังหวัดขอนแก่น ซึ่งยังมีพฤติกรรมเหมือนเดิม