ปิดคดีหลานฆ่ายายยัดถัง อ้างสุดทนถูกยายบ่นด่า เรียกหนุ่มรู้จักผ่านแอปฯ ช่วยสังหาร

อาชญากรรม

ปิดคดีหลานฆ่ายายยัดถัง อ้างสุดทนถูกยายบ่นด่า เรียกหนุ่มรู้จักผ่านแอปฯ ช่วยสังหาร

โดย thichaphat_d

17 ก.พ. 2565

223 views

ปิดคดีหลานสาวร่วมแฟนหนุ่ม ฆ่ายายแท้ๆ ยัดถังขยะทิ้งชายเขาที่สุพรรณบุรี สารภาพอยากได้เงินแสนของยายไปมีชีวิตเป็นของตัวเอง สุดทนถูกยายบ่นด่า และเข้มงวดการใช้เงิน ตำรวจคุมตัวชี้จุดฆ่าในห้องเช่าที่โคราช ถูกชาวบ้านตะโกนสาปแช่ง

เมื่อวานนี้ ตำรวจรวบรวมหลักฐานขอศาลเยาวชนจังหวัดสุพรรณบุรี และศาลจังหวัดสุพรรณบุรี อนุมัติหมายจับ น.ส.อร อายุ 17 ปี และนายพล อายุ 23 ปี แฟนหนุ่ม ที่ร่วมกันฆ่านางสมศรี อายุ 62 ปี ชาวอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ก่อนนำศพยัดถังขยะทิ้งอำพรางที่ชายเขาชะโอย อำเภอเดิมบางนางบวช ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่น ร่วมกันซ่อนเร้น เคลื่อนย้าย ทำลายศพ หรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังสาเหตุการตาย

ตอนแรกทั้งคู่ให้การปฏิเสธ แต่สุดท้ายต้องยอมจำนนต่อหลักฐาน ทั้งภาพจากกล้องวงจรปิดที่พบในพื้นที่สุพรรณบุรี เห็นผู้ต้องหาทั้ง 2 คน นั่งรถกระบะตอนเดียว ยี่ห้ออีซูสุ สีบรอนซ์ ทะเบียน บฉ 7058 ตาก เข้ามาที่สุพรรณบุรี ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ ช่วงประมาณ 4 ทุ่มกว่า ได้จอดแวะในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ท้ายรถยังไม่มีถังขยะสีฟ้า เชื่อว่า ศพถูกห่อด้วยผ้า วางอยู่ด้านหลังเบาะภายในรถกระบะ

กระทั่งช่วง 7 โมงเช้าวันที่ 11 กุมภาพันธ์ กระบะคันนี้ขับเข้าไปจอดพักที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งในอำเภอสามชุก เห็น น.ส.อร ลงจากรถมาที่ห้องพักก่อน เมื่อนายพลเข้าจอดที่หน้าห้อง ได้ลงจากรถแล้วนำเสื้อมาปิดไว้ที่กระจกอีกฝั่ง เหมือนไม่อยากให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมามองเข้ามาในรถ หลังจัดของเสร็จก็ปิดประตูรถ แล้วเหมือนนึกได้ว่าลืมกุญแจรถไว้ ก็พยายามเปิดประตูรถ แต่เปิดไม่ได้

ต่อมาเวลาประมาณ 8 โมง 10 นาที มีช่างกุญแจขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามาแล้วช่วยเปิดประตูรถให้ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที จึงสามารถเปิดรถได้ จากนั้นนายพล ก็ยังง่วนกับการเก็บของในรถ โดยมี น.ส.อร วนเวียนมาดู ก่อนทั้งคู่จะพากันเข้าห้องไป ในเวลาประมาณ 8 โมงครึ่ง

กระทั่ง 11 โมง 20 นาที ทั้งคู่ออกจากห้องกำลังจะขับรถออกจากรีสอร์ท แต่เหมือนนายพลนึกอะไรได้บางอย่าง ก็จอดแล้วเดินกลับมาที่ห้อง ถอดรองเท้า แล้วเดินเข้าห้องไปประมาณ 20 วินาที ก่อนเดินกลับมาขึ้นรถแล้วขับออกไป

ผู้สื่อข่าวไปได้ภาพจากกล้องวงจรปิดอีกมุม ขณะรถกระบะคันนี้วิ่งอยู่บนถนน ซึ่งเลยแยกนางบวชมาแล้ว จุดนี้อยู่ห่างจากจุดทิ้งศพไม่ถึง 1 กิโลเมตร ที่ท้ายรถมีถังขยะสีฟ้า คาดว่าช่วงเวลาที่หายไปหลังออกจากรีสอร์ท ได้พากันตระเวนหาซื้ออุปกรณ์อำพรางศพ ทั้งปุ๋ยอินทรีและขุยมะพร้าว หาถังขยะมาใส่อำพรางศพ

นอกจากนี้ยังมีหลักฐานสำคัญ ที่มัดตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน หลังจากที่ศพนางสมศรีที่ชายเขาชะโอนแล้ว นายพลไปส่ง น.ส.อร ที่โคราช โดย น.ส.อร ไปพักกับเพื่อน ส่วนนายพลกลับบ้านที่แม่สอด จังหวัดตาก กระทั่งมีคนไปพบศพนางสมศรีในวันที่ 13 กุมภาพันธ์

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ นายพล ส่งข้อความไปบอกว่า น้องเรื่องแดงแล้ว / น.ส.อร ถามว่า ยังไงหมายความว่าไง / นายพลบอกว่า มีคนเห็นข่าวออกแล้ว แต่ยังไม่รู้คนทำ / น.ส.อร จึงขอดูข่าว / นายพลก็ส่งลิ้งข่าวให้ / ในแชท น.ส.อร ยังบอกว่า ไม่เครียด แต่กังวล และพักอยู่กับเพื่อน

ก่อนจะพิมพ์บอกไปว่า พี่ตาโทรมาหาหนู หลายสายแล้ว ตารู้ว่ายายตาย แต่ไม่รู้ว่าใครทำ / นายพลพิมพ์บอก ให้โกหกตา ว่ากำลังจะสอบ สอบเสร็จกลับ / แล้วทั้งคู่มีการคุยโทรศัพท์กัน / ก่อนที่ น.ส.อร จะบอกว่า ถึง บขส.แล้ว แล้วพิมพ์ถามนายพล ว่า พี่คิดว่าเราจะรอดไหม

หลักฐานตรงนี้ ทำให้ตำรวจสืบทราบว่า น.ส.อร หนีไปหานายพลที่แม่สอด จึงตามไปจับได้ เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์

ทำให้ทั้งคู่รับสารภาพว่า วางแผนฆ่ายายยัดถัง โดย น.ส.อร บอกว่า ถูกยายเข้มงวดการใช้เงิน ทั้งที่เพิ่งถูกหวยฮานอย ได้เงิน 100,000 บาท ล่าสุดยายเพิ่งให้ไปกดเงินมา รู้ว่ายายมีเงิน จึงคิดว่าฆ่ายาย ส่วนนายพล เพิ่งรู้จักกันผ่านทางเฟซบุ๊ก ไม่เคยเจอตัวจริง ก่อนเกิดเหตุมีปากเสียงกับยาย จึงโทรหานายพลให้มาหาที่ห้องเช่า

เมื่อมาถึง หลานสาวก็ลงมือบีบคอยายก่อน แต่ยายไม่ตาย นายพลก็ช่วยลงมือ โดยใช้สายไฟช่วยกันลงมือจนยายแน่นิ่ง แล้วออกไปหาจุดทิ้งศพ ก่อนนำผ้าห่อร่างยายมัดด้วยเชือกฟาง ยกใส่รถกระบะ ขับไปถึงสุพรรณเห็นถังขยะสีฟ้าจึงนำมาใส่ร่างยายแล้วนำไปทิ้งชายป่า

โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ ตำรวจ สภ.เดิมบางนางบวช พร้อมตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 เข้าเก็บพยานหลักฐานภายในห้องเช่า หลังวัดสมอราย อำเภอเมืองนครราชสีมา จุดที่นางสมศรีถูกฆ่า โดยต้องพังกุญแจเข้าไป ใช้เวลาตรวจสอบอย่างละเอียดนานกว่า 2 ชั่วโมง

จากนั้นจึงนำตัวนายพล ไปทำแผนชี้จุดเกิดเหตุภายในห้องเช่าด้วย ท่ามกลางชาวบ้านหลายสิบคนมามุงดู พร้อมทั้งตะโกนด่าสาปแช่ง แต่ไม่ได้นำ น.ส.อร มาด้วย เพราะเป็นเยาวชน ไปฟังเสียงช่วงนี้

ส่วนความคืบหน้าล่าสุดเช้าวันนี้ ตำรวจ สภ.เดิมบางนางบวช เตรียมความพร้อมในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 จะแถลงข่าวปิดคดีในช่วงบ่าย

ด้านนางมะเดี่ยว แม่ของนายพล ได้มาที่ สภ.เดิมบางนางบวช ตั้งแต่ตี 4 เพื่อมารอพบลูกชาย โดยได้นำยารักษาโรคไตมาให้ตำรวจนำไปให้ลูกชาย พร้อมบอกว่า ลูกชายป่วยเป็นโรคไตมาตั้งแต่เด็ก ต้องมียากินเป็นประจำ ยังยืนยันว่าลูกชายเป็นคนดี แต่ถูกหลอกให้ร่วมก่อเหตุ เพราะตอนที่ลูกชายไปถึง นางสมศรีใกล้จะเสียชีวิตแล้ว

คุณอาจสนใจ

Related News