กระทรวงกลาโหมรัสเซีย เผยแพร่ภาพการเคลื่อนกำลังทหารและรถถังออกจากไครเมีย หลังเสร็จการซ้อมรบ โดยภาพที่เห็นนั้นเป็นภาพขนะที่ ยานลำเลียงพลหุ้มเกราะและรถถัง ข้ามสะพานจากคาบสมุทรไครเมีย สู่แผ่นดินใหญ่ของรัสเซีย

กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ระบุว่า เป็นการถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ ใกล้ชายแดนยูเครนติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ทั้งรถถัง, ยานยนต์หุ้มเกราะ และปืนใหญ่ ออกจากดินแดนไครเมีย ที่รัสเซียยึดครองจากยูเครนเมื่อปี 2557 เพื่อกลับฐานที่ตั้งในรัสเซีย โดยระบุว่า การฝึกทางยุทธวิธีที่ไครเมียยุติลงแล้ว  และทหารจากมณฑลทหารภาคใต้กำลังเคลื่อนกลับจุดวางกำลังถาวร

ก่อนหน้านี้ รัสเซียก็เผยภาพวิดีโอของการถอนทหารและรถถังบางหน่วย ที่อยู่ใกล้ชายแดนรัสเซีย  โดยอ้างว่าการฝึกเสร็จสิ้นลงแล้วเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้นำโลกตะวันตกยังคงคิดว่า รัสเซียอาจเปิดฉากโจมตียูเครนได้ทุกเวลา จากกำลังพลที่มีอยู่ โดย ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ กล่าวว่า ขณะนี้สหรัฐฯ ยังไม่สามารถพิสูจน์ยืนยันการถอนทหาร และอ้างว่า ทหารรัสเซียมากกว่า 130,000 นาย ยังคงรวมกำลังกันอยู่ใกล้ชายแดนของยูเครน

ขณะที่ นาย เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การนาโต กล่าวระหว่างการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมนาโต ที่กรุงบรัสเซลส์ว่า นาโตยังไม่เห็นว่ารัสเซียถอนกำลังทหารจริง แต่สิ่งที่เราเห็นคือพวกเขาเพิ่มจำนวนทหาร และมีทหารกำลังถูกส่งมาเพิ่มเติม

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้สหรัฐฯ ได้เปิดเผยข้อมูลข่าวกรองว่ารัสเซียจะเปิดฉากบุกยูเครน ในวันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ แต่ก็ไม่ได้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นจริง

ล่าสุด ทางด้านจีน ซึ่งเป็นพันธมิตรกับรัสเซีย และเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ได้ออกมาติเตียนสหรัฐฯ ว่า กำลังแสดงท่าทีคุกคามว่าจะทำสงคราม และทำให้เกิดความตึงเครียด หลังจากที่ผู้นำสหรัฐฯ พยายามตีข่าวว่า รัสเซียยังคงพร้อมที่จะบุกยูเครนต่อไป  แม้ว่ารัสเซียจะประกาศถอนกำลังทหารบางส่วนแล้วก็ตาม

นายหวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน กล่าวว่า การหลอกลวงและบิดเบือนข้อมูลอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ จะสร้างความวุ่นวาย และความไม่แน่นอน ในโลกที่เต็มไปด้วยความท้าทายอยู่แล้ว

ยิ่งทำให้เกิดความทุกข์ยาก และความแตกแยกรุนแรงมากขึ้น และหวังว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะยุติการใช้โฆษณาเผยแพร่ข้อมูลที่บิดเบือน และลงมือทำมากขึ้น เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการสร้างสันติภาพ ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ตลอดจนสร้างความร่วมมือ