แก๊งเงินกู้โหด ปาหิน-ทุบบ้านพัง ลูกหนี้สุดผวา โทร.แจ้งตำรวจ ไม่มีใครรับสาย

สังคม

แก๊งเงินกู้โหด ปาหิน-ทุบบ้านพัง ลูกหนี้สุดผวา โทร.แจ้งตำรวจ ไม่มีใครรับสาย

โดย thichaphat_d

15 ก.พ. 2565

17 views

เมื่อเวลา 13.00 น. เมื่อวานนี้ 14 กุมภาพันธ์ 65 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบกับ นางสุภัสสร อาสาสนา อายุ 53 ปี ตำบลหนองกุง อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น


เปิดเผยว่า เมื่อ 2 เดือนก่อน ตนได้ติดต่อขอกู้เงินจากเจ้าหนี้เงินกู้รายหนึ่ง โดยติดต่อผ่านใบปลิวที่มาทิ้งไว้ที่หน้าร้าน โดยขอกู้เงินจำนวน 5,000 บาท ซึ่งจะต้องจ่ายเงินดอกเบี้ยวันละ 100 บาท จนกว่าจะสามารถหาเงินต้นคืนได้


ที่ผ่านมาก็จ่ายทุกวัน แต่มา 3-4 วันที่ผ่านมา ไม่สามารถหาเงินจ่ายได้ จนกระทั่งกลางคืนวันที่ 13 กุมภาพันธ์ เวลาประมาณ 22.00 น. ขณะที่ตนนอนพักผ่อนอยู่กับลูกชายอายุ 20 ปีภายในร้าน ซึ่งเปิดเป็นร้านตัดขนสุนัข มีชายนิรนาม 3 คน ขับรถยี่ห้อโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนเข้ามาเรียกตน เพื่อที่จะทวงหนี้ ด้วยความกลัว ตนจึงให้ลูกชายไปรับหน้า และบอกว่าตนอยู่บ้านสวน จากนั้นลูกชายได้พาชายทั้ง 3 คนไปที่บ้านสวนเพื่อให้ตนปลอดภัย


เมื่อชายทั้ง 3 คน ไปถึงบ้านสวนไม่พบตน จึงโทรศัพท์ติดต่อกลับมา ตนจึงบอกว่าให้กลับมารับเงิน ซึ่งเดี๋ยวจะออกไปกด ATM ให้ ระหว่างไปกด ATM ด้วยความกลัว จึงโทรแจ้งตำรวจให้เข้ามาที่บ้าน หลังจากตำรวจเข้ามาที่บ้านแล้ว แต่ชายนิรนามทั้ง 3 คนก็ยังไม่เข้ามา ตำรวจจึงไม่รอ ทั้งที่ตนร้องขอว่า ให้ช่วยรักษาความปลอดภัย แต่ตำรวจที่มาได้โทรไปแจ้งชายทั้ง 3 คนด้วยว่า ตนอยู่บ้าน แล้วตำรวจก็กลับไป


ต่อมาช่วงเวลาเที่ยงคืนชายกลุ่มดังกล่าวเข้ามาอีก คราวนี้ไม่พูดจาอะไร แต่ใช้ก้อนหินทุบกระจกที่บ้าน ตนและลูกชายก็ไม่กล้าออกดูรอจนกระทั่งกลุ่มชายดังกล่าวกลับไป จึงโทรแจ้งตำรวจ แต่ไม่มีใครรับสาย จึงแจ้งยังกำนันตำบลหนองกุงให้มาช่วยดู เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ตนและครอบครัวรู้สึกตกใจมาก ไม่คิดว่าจะทำกันถึงขนาดนี้ ซึ่งได้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรน้ำพอง อยากให้ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ช่วยจัดการให้เด็ดขาด


ขณะที่ก็มีผู้เสียหายอีกราย ทราบชื่อ นางทองหนุน สีพิลา อาชีพขายส้มตำ ชาวบ้านทรายมูล ตำบลทรายมูล อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น บอกว่า คนภายในหมู่บ้านใช้บริการเงินกู้นอกระบบจำนวนมาก มีหลายบริษัทมาเสนอให้กู้ โดยวิธีแจกใบปลิวตามบ้าน ส่วนใหญ่เป็นคนนอกพื้นที่


สำหรับตนได้กู้เงินกับบริษัทหนี้นอกระบบ 10 แห่ง รวมเป็นเงินหลายหมื่นบาท ต้องส่งเฉพาะดอกเบี้ยวันละ 4,300 บาท กู้มาเป็นเวลา 8 เดือน เงินที่ทำมาหากินได้ก็จะจ่ายดอกเบี้ยเกือบหมด บางวันไม่มีเงินติดกระเป๋า ทราบว่าต้องจ่ายดอกเบี้ยสูง แต่ก็ต้องจำเป็นต้องใช้เงิน อยากให้ตำรวจช่วยจัดการกลุ่มเงินกู้นอกระบบที่พูดจาไม่ดี และขู่กรรโชกลูกหนี้ เพราะขณะนี้ชาวบ้านหลายตำบลใช้บริการกู้หนี้นอกระบบเป็นจำนวนมาก


ล่าสุดเมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ต.อ.ธนาวัชร ดีบุญมี ณ ชุมแพ รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.น้ำพอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น


ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายณัฐวุธ หรือมอส สุขสม อายุ 29 ปี, นายเสกสิทธิ์ หรือหนึ่ง พุทธรักษา อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาในคดี "ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน, ทำให้เสียทรัพย์, ให้ผู้อื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยในอัตราเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด, ทวงถามหนี้โดยใช้ความรุนแรง (พ.ร.บ.ทวงถามหนี้ พ.ศ.2558 มาตรา 11), ประกอบสินเชื่อธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต และทำให้ผู้อื่นตกใจหรือกลัวโดยการขู่เข็ญ"


โดยการลงพื้นที่สืบสวนหาตัวกลุ่มคนก่อเหตุครั้งนี้ ที่เชื่อว่าเป็นกลุ่มนายทุนเงินกู้กิจธนาทรัพย์ มีที่พักอยู่ที่หมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทำการตรวจสอบที่หมู่บ้านดังกล่าว ก็พบว่าตัวนายทุนเงินกู้พร้อมลูกจ้าง รวม 2 คน จึงควบคุมตัวไปสอบสวน จากการสืบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุในคืนดังกล่าว คือ นายณัฐวุธ หรือมอส สุขสม อายุ 29 ปี พร้อมเพื่อนอีก 2 คน ที่อยู่ระหว่างการหลบหนี ส่วนนายเสกสิทธิ์หรือหนึ่ง พุทธรักษา อายุ 41 ปี นั้น เป็นเจ้าของเงินที่นำมาปล่อยกู้นอกระบบ


นายมอส กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุ ได้ขับรถยนต์กระบะมาทวงเงินกับลูกค้าจริง แต่ลูกค้าไม่จ่าย จึงจอดรถและเฝ้าเพื่อจะขอเก็บเงินจนถึงมืดค่ำ จึงพากันเดินทางกลับ โดยไม่ได้ลงมือทุบทำลายทรัพย์สินของลูกค้าแต่อย่างใด อีกทั้งลูกค้าก็ไม่ได้กู้เงินของบริษัทเพียงบริษัทเดียว แต่ยังมีการกู้กับบริษัทอื่นๆ ด้วย จึงไม่แน่ใจว่าคนร้ายที่ทุบทำลายบ้านของลูกค้านั้นคือใคร


ในขณะที่นายเสกสิทธิ์ หรือหนึ่ง พุทธรักษา อายุ 41 ปี กล่าวว่า ตนเองเป็นเจ้าของเงินทุนที่นำมาปล่อยกู้ให้ลูกค้า จำนวน 5,000 บาท แต่ไม่เคยให้ลูกจ้างทำร้ายลูกหนี้ หรือลูกค้ารายใด ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าลูกน้องตนไปทุบกระจกบ้านลูกหนี้ ก็ไม่ทราบเรื่องแต่อย่างใด


พ.ต.อ.ธนาวัชร กล่าวอีกว่า ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ย้ำมาตลอดว่า ต้องทำการกวาดล้างจับกุม กลุ่มนายทุนที่ปล่อยเงินกู้นอกระบบ ที่มีการเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดให้หมดสิ้นไป


ซึ่งในเหตุการณ์ที่ สภ.น้ำพองครั้งนี้ นายทุนเงินกู้ทำการปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด ถึงร้อยละ 60 ต่อปี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะขยายผล เพื่อติดตามจับกุมคนที่ร่วมกันปล่อยเงินกู้นอกระบบ และเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ที่เหลืออีก 2 คน ที่กำลังหลบหนี


ตอนนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนทราบตัวแล้ว และกำลังประกบตัว เพื่อนำตัวมาสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นกัน ส่วนผู้ต้องหา 2 คนที่จับกุมมาได้นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม จากนั้นก็จะได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย และฝากขังที่ศาลจังหวัดขอนแก่น ตามขั้นตอนต่อไป



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/2Bc8v68abfs

คุณอาจสนใจ

Related News