ตร.ยันคดี "หลงจู๊สมชาย" ขึ้นสู่ศาลแล้ว แต่ยังหลบหนีอีก 8 คน

สังคม

ตร.ยันคดี "หลงจู๊สมชาย" ขึ้นสู่ศาลแล้ว แต่ยังหลบหนีอีก 8 คน

โดย pattraporn_a

11 ก.พ. 2565

140 views

คดีบ่อนการพนันในจังหวัดระยองของ นายสมชาย จุติกิติ์เดชา หรือ หลงจู้สมชาย ซึ่งทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้รับผิดชอบคดี นำกำลังบุกเข้าจับกุมหลงจู้สมชาย พร้อมลูกและภรรยาในบ้านพัก ล่าสุดตำรวจ ยืนยันว่าขณะนี้ผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ โดยศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว และขึ้นสู่การพิจารณาในชั้นศาลแล้ว


ปฏิบัติการทลายเครือข่ายได้อย่างราบคาบคดีหนึ่ง เป็นการกวาดล้างผู้มีอิทธิพลในภาคตะวันออก เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปีที่ผ่านมา ซึ่งช่วงนั้นมีการระบาดของเชื้อโควิด-19 คลัสเตอร์บ่อนการพนัน โดยนายสมชาย จุติกิติ์เดชา หรือหลวงจู้สมชาย กลับเปิดบ่อนการพนัน ใจกลางเมืองระยอง อย่างไม่เกรงกลัว อีกทั้งก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้จับกุมบ่อนอาร์เจย่านมาบตาพุด


จับกุมได้นักพนันจำนวนมาก แต่ไม่มีใครกล้าพาดพิงถึงเจ้าของตัวจริง อีกทั้งยังมีการตายอย่างปริศนาของวินจักรยานยนต์รับจ้าง เมืองพัทยา ที่ถ่ายภาพบ่อนการพนันมาเผยแพร่ จนบ่อนการพนันปิด การดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดจึงต้องอาศัยพยานหลักฐานที่ชัดเจน


ในที่สุดทีมกองกำกับการ 2 และกองกำกับการ 3 กองปราบ ของกองบัญชาการสอบสวนกลาง ได้ออกหมายจับนายสมชาย หรือหลงจู้สมชาย บุตรชาย และภรรยา รวมไปถึงเครือญาติที่ลูกน้องคนสนิท รวม 19 คน ถูกดำเนินคดีทั้งหมด 5 คดี ทั้งจ้างวานฆ่า จัดให้มีการเล่นการพนันในบ่อน 3 แห่ง และขยายผลดำเนินคดีฟอกเงิน


ยึดทรัพย์ทั้งบ้าน ที่ดิน บ้านจัดสรร รถ มูลค่ากว่า 800 ล้านบาท และผลการตรวจสอบบัญชีลูกชายของหลงจู้สมชาย ยังพัวพันไปถึงนายเสี่ยโป้ โป้อานนทร์ ด้วย โดยทุกสถานที่ซึ่งเคยเป็นบ่อน ไม่สามารถกลับมาเปิดได้อีก


พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ระบุว่า การดำเนินดคีกับหลงจู้สมชาย นับเป็นการตัดวงจรผู้มีอิทธิพลได้ทั้งเครือข่าย สำนวนครบถ้วนสมบูรณ์ จนศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหาที่จับได้ทั้งหมด 11 คน


โดยคดีนี้ได้ขึ้นสู่การพิจารณาในชั้นศาลแล้ว แม้ผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธ แต่หลักฐานรัดกุม โดยมีเครือญาติที่ถูกออกหมายจับในคดีฟอกเงิน หลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน 8 คน แต่ยึดทรัพย์ได้ทั้งหมด



ขณะที่การดำเนินคดีกับกลุ่มตำรวจที่เกี่ยวข้องพบมีตำรวจหลายระดับตั้งแต่ผู้บัญชาการไปจนถึงชั้นประทวนเกี่ยวข้อง 253 นาย โดยมี พล.ต.ท.วีระ จิรวีระ อดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค2 และอดีตตำรวจระดับผู้บังคับการในภาคตะวันออก ถูกสอบสวนทางวินัยร้ายแรง แต่ยังอยู่ระหว่างรอผลสรุป โดย พล.ต.ท.วีระ กลับไปดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการ พิสูจน์หลักฐาน 

คุณอาจสนใจ