ก.ยุติธรรม ตั้งทีมสอบคดีสาวฆ่าตัวตาย พ้อถูกพี่เขยข่มขืน แต่ศาลฎีกายกฟ้อง

สังคม

ก.ยุติธรรม ตั้งทีมสอบคดีสาวฆ่าตัวตาย พ้อถูกพี่เขยข่มขืน แต่ศาลฎีกายกฟ้อง

โดย pattraporn_a

9 ก.พ. 2565

110 views

ความคืบหน้ากรณีหญิงวัย 29 ปี ชาวสุพรรณบุรี กินยาฆ่าตัวตาย พร้อมข้อความตัดพ้อว่าขอเอาชีวิตเข้าแลกความยุติธรรม จากการที่เธอกล่าวหาว่า พี่เขยของฝ่ายสามี ข่มขืนเธอเมื่อปี 2562 ซึ่งศาลชั้นต้นและอุทธรณ์ตัดสินจำคุกจำเลย แต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ศาลฎีกาพิพากษายกฟ้อง ทำให้เครียดและก่อเหตุดังกล่าว


วันนี้สามี และมารดาของเธอมาร้องขอให้กระทรวงยุติธรรมตรวจสอบ ว่ามีขั้นตอนใดผิดพลาดหรือไม่ ที่ทำให้ผลออกมาเช่นนี้ ขณะกระทรวงยุติธรรม ระบุว่าคดีสิ้นสุดแล้วจากการพิพากษาของศาลฏีกา แต่จะตั้งคณะทำงานหาข้อเท็จจริง ย้อนหลังนับจากเริ่มต้นคดีว่ามีประเด็นใดที่ผิดพลาด บกพร่องหรือไม่ คุณมนตรี อุดมพงษ์ มีรายละเอียด


มารดาและสามีของหญิงวัย 29 ปี ยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ผ่านเลขานุการรัฐมนตรี เพื่อให้ช่วยหาความเป็นธรรมกรณีภรรยากินยาเสียชีวิต เพราะผิดหวังที่ศาลฏีกาพิพากษายกฟ้องจำเลย ที่เธอกล่าวหาว่าข่มขืนเธอ ทั้งที่ศาลชั้นตกและอุทธรณ์ตัดสินจำคุกจำเลย 3 ปี และให้ชดใช้ด้วยเงิน 2 แสนบาท ซึ่งผู้ที่เธอกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อเหตุเธอ ก็คือพี่เขยฝ่ายสามี


นายจีรศักดิ์ เล่าวว่า คืนวันที่ 16 เมษายน ปี2562 ครอบครัวจัดเลี้ยงและดื่มสุราช่วงสงกรานต์ ที่บ้านในอำเภอสองพี่นองสุพรรณบุรี ซึ่งอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ มีพี่สาว และสามีของพี่สาวอยู่ด้วย ซึ่งคืนวันนั้น ภรรยานายจีรศักดิ์ ที่มีอาการเมาสุราและกลับขึ้นบ้านก่อน ได้แจ้งนายจีรศักดิ์ ว่าถูกคนข่มขืน โดยมีคราบอสุจิหลงเหลือในกางเกงที่ใส่นอน


นายจีรศักดิ์ บอกว่าตอนนั้นเขาโกรธและถือปืนออกตามหาคนที่ก่อเหตุ ภรรยาจึงไม่กล้าบอกว่าเป็นพี่เขย เพราะกลัวนายจีรศักดิ์จะก่อคดี แต่วันรุ่งขึ้น ก็แจ้งตำรวจและนำกางเกงไปให้ตำรวจตรวจ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาว่าพี่เขยของฝ่ายสามี คือคนที่ข่มขืนเธอ เพราะแม้เธอจะเมาสุราแต่จำหน้าได้ชัดเจน


เอกสารคำพิพากษาศาลชั้นต้น พบข้อความสรุปได้ว่า ในกางเกงที่เป็นหลักฐานไม่พบคราบอสุจิ แต่มีสารพันธุกรรม หรือดีเอนเอของเพศชาย ซึ่งตรงกับดีเอนเอของพี่เขย ที่ขณะนั้นตกเป็นจำเลย ส่วนทั้งผลตรวจช่องคลอดที่ตรวจโดยแพทย์ และพิเคราะห์สภาพแวดลอม วินิจฉัยว่ายังมีข้อสงสัยว่ามีการสอดใส่อวัยวะเพศหรือไม่ จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย แต่พิเคราะห์ว่าเป็นการกระทำอนาจาร อันเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งให้มีดีเอ็นเอจำเลย อยู่ในกางเกงของผู้เสียหาย จึงพิพากษาฐานอนาจาร จำคุก 3 ปี ส่วนคดีแพ่งที่ขอใหศาลบังคับชำระ 5 แสน นั้น ศาลพิพากษาใหชำระ 2 แสนบาท พรอมดอกเบีย้ระยละ 7 ต่อปี นับจาก 16 เมษายน 2562 เป็นต้นมา


นายจีรศักดิ์ ระบุว่า ศาลอุทธรณ์ก็พิพากษาเช่นนั้น จนเมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา ศาลฏีกายกฟ้อง ซึ่งเขาระบุว่าจำรายละเอียดคำพิพากษาไม่ได้ และอยู่ระหว่างขอคัดคำพิพากษา แต่นั่นก็ทำให้ภรรยาของเขาผิดหวัง เพราะมั่นใจว่าพี่เขย คือผู้ก่อเหตุ เขาระบุว่าครอบครัวพยายามปลอบใจทุกอย่างแต่ภรรยา ก็เครียด จนพบว่าแอบมาที่บ้านของพี่เขย ซึ่งย้ายมาอยู่ที่ปทุมธานี แล้วก่อเหตุกินยาหวังฆ่าตัวตายในบ้านดังกล่าวเพื่อให้เกิดประเด็น


นายจีรศักดิ์ ระบุว่า เคารพคำตัดสินของศาลฏีกา แต่เห็นว่าไม่มีเหตุผลที่ภรรยาจะทำเช่นนี้ หากเรื่องที่ถูกข่มขืนไม่ใช่เรื่องจริง



ทั้งนี้ ข่าว 3 มิติ พยายามติดต่อไปหาชายคนที่เคยตกเป็นจำเลยในคดีนี้ เขาบอกว่าไม่อาจพูดอะไรได้มาก แต่ยินดีให้เปิดเผยว่า ข้อเท็จจริงเป็นตามคำตัดสินของศาลฎีกา


ทางด้าน ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ระบุว่า คดีถือว่าสิ้นสุดในชั้นฏีกาแล้ว แต่จะเสนอรัฐมนตรียุติธรรมตั้งคณะทำงานเพื่อตวรจทานย้อนหลังต้งแต่ตนว่ามีขั้นตอนใดที่จะดำเนินการได้บ้าง


โดยพรุ่งนี้ นายจีรศักดิ์ จะยื่นคำร้องเพื่อไปขอคัดสำเนาคำพิพากษาศาลฎีกา เพื่อให้หน่วยงานที่รับรือง นำไปสู่การวิเคราะห์ว่าจะมีโอกาสให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวอย่างไรได้บ้าง

คุณอาจสนใจ

Related News