วันนี้ (9 ก.พ.) ยอดผู้ติดเชื้อโควิด ยังคงพุ่งสูงขึ้นเป็นกว่า13,000 คน โดยยอดผู้เสียชีวิตก็เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน ที่น่าจับตาคือยอดผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษากับผู้หายป่วยเริ่มห่างกันมากขึ้น โดยล่าสุดมีผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างรักษาเพิ่มเป็นเกือบแสนคนแล้ว


ศบค. รายงานว่าพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 13,182 คน เป็นการติดเชื้อในประเทศ 13,003 คน เดินทางมาจากต่างประเทศ 139 คน ทำให้ผู้ติดเชื้อสะสมตั้งแต่ปี 2563 เพิ่มเป็น 2,531,051 คน หายป่วยเพิ่มขึ้น 8,571 คน อยู่ระหว่างรักษา​ 98,830 คน แบ่งเป็นอาการหนัก 547 คน ใส่ท่อช่วยหายใจ ​111 คน โดยมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 24​ คน ผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 รวมเป็น 22,344 คน สำหรับจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด ยังคงเป็นกรุงเทพมหานคร


ซึ่ง นพ.สุทัศน์ โชตนะพันธ์ ผู้อำนวยการสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาด ในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีแนวโน้มพบผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น และยังพบการระบาดอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยพบผู้ติดเชื้อวันละ 1,800-2,000 คน โดยพบการระบาดกระจายตัวในทุกกลุ่มอายุ ปัจจัยเสี่ยงมาจากการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยัน ปฏิบัติงานหรือเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง แหล่งชุมชนที่มีความแออัด ตลอดจนการทำกิจกรรมร่วมกัน รวมถึงรวมกลุ่มสังสรรค์ในร้านอาหารกึ่งผับบาร์


ถึงแม้จำนวนผู้ติดเชื้อหรือการระบาดจะมีแนวโน้มสูงขึ้น แต่ความรุนแรงของโรคไม่มาก เห็นได้ชัดจากสัดส่วนของจำนวนผู้เสียชีวิตที่ลดลง ส่วนใหญ่ผู้ที่เสียชีวิตเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ หรือมีโรคประจำตัว อีกทั้งมีประวัติไม่ได้รับวัคซีน ดังนั้นเน้นย้ำเรื่องการปฏิบัติตามมาตรการ ตลอดจนเร่งเข้ารับวัคซีนให้ครบและครอบคลุมมากที่สุด


ส่วนสถานการณ์ในต่างประเทศที่น่าจับตาคือ ที่เกาหลีใต้ กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่าพบผู้ติดเชื้อโควิด 19 รายใหม่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ อยู่ที่ 49,567 คน ยอดผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็นกว่า 1.1 ล้านคน นับเป็นครั้งแรกที่ยอดผู้ติดเชื้อรายวันในเกาหลีใต้ทะลุ 4 หมื่นคน สูงขึ้นเกือบ 4 เท่า ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นเชื้อกลายพันธุ์โอมิครอนมากกว่าร้อยละ 92 ทางการเกาหลีใต้เรียกร้องให้ประชาชนเร่งเข้ารับการฉีดวัคซีน พร้อมเตือนผู้ติดเชื้อรายวันอาจทะลุ 1.7 แสนคน ในช่วงปลายเดือนนี้


เช่นเดียวกันกับที่มาเลเซีย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ทำสถิติสูงสุดในรอบเกือบ 5 เดือน อยู่ที่ 17,134 คน ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อทั่วประเทศเพิ่มเป็นกว่า 2.95 ล้านคน และเสียชีวิตกว่า 3.2 หมื่นคน โดยทางการยืนยันว่าผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้งหมดร้อยละ 99.5 อาการไม่รุนแรง หรือไม่มีอาการ