ศบค.แจงยังรับมือไหว แม้ยอดติดมากขึ้น เตือนคลัสเตอร์ตลาดพุ่ง แนะกลุ่ม 608 ควรฉีดเข็มสาม

สังคม

ศบค.แจงยังรับมือไหว แม้ยอดติดมากขึ้น เตือนคลัสเตอร์ตลาดพุ่ง แนะกลุ่ม 608 ควรฉีดเข็มสาม

โดย thichaphat_d

8 ก.พ. 2565

49 views

วันที่ 7 ก.พ.2565 พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผอ.สำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค เป็นตัวแทน ศบค.แถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันว่า การประชุมศบค.ใหญ่ จะจัดขึ้นในวันที่ 11 ก.พ. ซึ่งก็จะมีมาตรการจัดการโควิดออกมา โดยขณะนี้ผู้ติดเชื้อมีเพิ่มขึ้น แต่เป็นไปตามการคาดการณ์และยังควบคุมได้ แม้จะมีผู้ติดเชื้อหลักหมื่น แต่ผู้ป่วยอาการหนักลดลงอย่างมาก สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ คลัสเตอร์จากตลาดที่เกิดขึ้นหลายจังหวัดทั่วประเทศ


สำหรับคลัสเตอร์ตลาดนั้น มีการแพร่ระบาดเป็นวงละ 1-2 คน แต่กระจายตัวทั่วประเทศ เพราะสถานที่ปิดอับ แผงไม่จัดเป็นระเบียบ คนแน่น ทั้งคนในตลาดและคนมาซื้อของ จึงขอให้ปฏิบัติตามมาตรการโดยเคร่งครัด ทั้งการใส่หน้ากาก คัดกรองอุณหภูมิ ทั้งนี้การติดเชื้อจากร้านอาหาร มีการระบาดน้อยลงมากกว่าเดิม


ทั้งนี้การฉีดวัคซีนสะสมในไทย มีทั้งหมด 117 ล้านโดสแล้ว โดยผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป เข้ารับการฉีดวัคซีนน้อยกว่ากลุ่มอื่น โดยเฉพาะเข็มกระตุ้น คนกลุ่มนี้ไปฉีดเพียง 19% เท่านั้น ซึ่งผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ก็ยังเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ จึงขอให้เร่งเข้ารับการฉีด หากรับเข็มสองนานเกิน 3 เดือนก็ให้มารับเข็มกระตุ้นโดยเร็วที่สุดด้ว


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์โควิด 19 ที่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มถึงหลักหมื่นรายว่า โอมิครอนเป็นสายพันธุ์ที่ติดเชื้อง่าย แต่ไม่รุนแรงเท่าสายพันธุ์ที่ผ่านมา สิ่งที่จำเป็นที่สุดคือมารับวัคซีน ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่รับไปมากแล้ว


ตอนนี้กำลังเริ่มฉีดบูสเตอร์ให้ ต้องขอทุกคนที่ยังไม่ได้ฉีด เมื่อถึงเวลาให้มารับวัคซีนโดยถ้วนหน้า และระมัดระวังตัวเองด้วย เพราะเท่าที่ทราบการติดเชื้อที่เยอะขึ้นส่วนใหญ่มาจากสังสรรค์ การรวมตัวในคนหมู่มาก ซึ่งก็เข้าใจเพราะเราเป็นประเทศที่มีสังคม แต่ขอให้ระมัดระวังตัวให้มากที่สุด หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกันเป็นเวลานานเกินไป ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ถ้าไปสถานที่เสี่ยงสูง มีคนจำนวนมากก็ใส่สองชั้น เช่น รพ. สถานที่ไม่มีระบบถ่ายเทอากาศที่ดี เป็นต้น ก็ควรเพิ่มความระมัดระวัง


ผู้ป่วยและเสียชีวิตที่ สธ.ได้รับรายงานเข้ามาจากทั่วประเทศ เราติดตามสาเหตุการเสียชีวิตพบว่า มากกว่า 80% ไม่ได้รับวัคซีนและอยู่ในกลุ่ม 608 แสดงชัดว่า จริงๆ แล้ว หนทางที่ทำให้ทุกคนปลอดภัยยังมีอยู่ เชื่อว่าทุกวันนี้หากติดตามสถานการณ์ประเทศอื่นทั่วโลก จะเห็นชัดว่าจำนวนผู้ติดเชื้อเขามีมากกว่าไทยมาก ไม่ว่าเทียบอัตราส่วนประชากรให้ฐานเหมือนกันแล้ว ประเทศไทยก็ยังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้มากกว่าประเทศอื่น เพราะคนไทยให้ความร่วมมือ แต่อยากได้ความร่วมมือเต็มที่มากกว่านี้


ด้าน นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โควิด 19 ว่า ปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่ทำให้อาการรุนแรง คือ กลุ่มเสี่ยง 608 ซึ่งผู้เสียชีวิต 12 รายวันนี้ เป็นกลุ่มสูงอายุและมีโรคเรื้อรังทั้งหมด พบว่าไม่ได้ฉีดบูสเตอร์โดสแม้แต่คนเดียว


ด้าน นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดสธ. กล่าวว่า  สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย ขณะนี้ยังอยู่ในการควบคุม และตามที่มีการประมาณการไว้ โดยระลอกโอมิครอนอยู่ที่ 0.2% ถือว่าค่อนข้างต่ำ  ดังนั้น การฉีดวัคซีนเข็ม 3 มีความจำเป็น 


ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้ทั่วโลกก็ผ่อนคลายมากขึ้น หากไทยจะเข้มขึ้นก็อาจดูแปลกๆ แต่ถ้าผ่อนมาก ก็อาจจะไม่สอดรับกับตัวเลขที่กำลังเพิ่มขึ้น ดังนั้น เมื่อมีหลายประเด็นขึ้นอยู่ว่าจะเอาประเด็นใดมาอธิบาย


ด้าน นพ.ทวีทรัพย์ ศิรประภาศิริ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการศึกษาประสิทธิผลการใช้จริงวัคซีนโควิด 19 ระดับประเทศ โดยศึกษาในผู้สัมผัสเสี่ยงสูงช่วง ก.ค.-ธ.ค. 2564 โดยเปรียบเทียบผู้ติดเชื้อกับผู้ไม่ติดเชื้อ ทั้งประวัติการฉีดวัคซีนและอาการรุนแรง พบว่าผู้ที่รับวัคซีน 2 เข็ม ป้องกันการติดเชื้อ 65% ป้องกันป่วยรุนแรงและเสียชีวิต 88%


ส่วนคนรับ 3 เข็ม ประสิทธิผลสูงขึ้นป้องกันการติดเชื้อสูง 94% และป้องกันการรุนแรงและเสียชีวิตสูงขึ้นเป็น 98% ทั้งนี้ ติดตามประเมินประสิทธิผลวัคซีนทุกเดือน โดยผู้รับวัคซีน 2 เข็มช่วง ก.ค.ป้องกันการติดเชื้อเคยสูง 81% แต่ระยะเวลาผ่านไปภูมิจะลดลงจนธ.ค. ประสิทธิผลป้องกันการติดเชื้อเหลือ 50%


ส่วนป้องกันป่วยรุนแรงและเสียชีวิต เดิม ก.ค. 89% ธ.ค.ลดลงเล็กน้อยเหลือ 79% วัคซีน 2 เข็มอาจป้องกันช่วงแรก แต่เมื่อเวลาผ่านไปการป้องกันติดเชื้อลดลงตามระยะเวลา ส่วนเจ็บป่วยรุนแรงเสียชีวิตยังมีประสิทธิผลสูงต่อเนื่อง ส่วนเข็ม 3 ป้องกันติดเชื้อสูงต่อเนื่องเกือบ 90% โดยตลอด ส่วนเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิตยังสูง 94-98%


สำหรับการฉีด 3 เข็ม ช่วง ต.ค.-ธ.ค. ป้องกันการติดเชื้อ 93% ช่วง ม.ค.ลดเหลือ 68% ส่วนป้องกันเสียชีวิตสูงจาก 99% ลดเหลือ 96% ซึ่งการฉีดเข็ม 3 แต่ละสูตรนั้นพบว่าไม่แตกต่างกันมาก โดยฉีดสูตร Sv+Sv+AZ ป้องกันติดเชื้อ 78% สูตร Sv+Sv+Pf ป้องกันการติดเชื้อ 63% สูตร Sp+Sp+Pf ป้องกันการติดเชื้อ 68% สูตร Sv+AZ+AZ ป้องกันการติดเชื้อ 68% และสูตร AZ+AZ+Pf ป้องกันการติดเชื้อ 62%



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/X7-ryB52HBU

คุณอาจสนใจ

Related News