เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Boom Isara โพสต์ภาพไรเดอร์หัวร้อน และข้อความระบุว่า“ตามหาบุคคลในภาพขับรถชนผมบนทางเท้าแล้วยังมากระทืบผมอีก” พิกัดแถววงศกร สายไหม 78 พร้อมระบุชื่อผู้ก่อเหตุ บุคคลอันตราย

นอกจากนี้ ได้โพสต์คลิปกล้องวงจรปิดซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนฟุตปาธ บริเวณปากซอยสายไหม 78 เมื่อชายคนหนึ่งกำลังเดินอยู่บนทางเท้า จู่ๆ มีไรเดอร์หนุ่มขี่รถจักยานยนต์มาบนฟุตปาธ เฉี่ยวชนชายคนดังกล่าว ทำให้เกิดการโต้เถียงกัน และมีผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกจากร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้าง พยายามห้ามปรามบอก 'ใจเย็นๆ'

สุดท้ายหนุ่มไรเดอร์ถอดเสื้อคลุม และได้ลงมือทำร้ายชายที่เดินอยู่บนทางเท้าด้วยการชกต่อยหลายครั้ง เตะขัดขาล้มลง ยกตัวทุ่มหัวฟาดพื้น และเตะซ้ำไปที่ศีรษะอีกหนึ่งครั้ง จนบาดเจ็บ จากนั้นหนุ่มไรเดอร์ที่ก่อเหตุเดินไปที่รถจักรยานยนต์ของตัวเอง แล้วพูดว่า 'มึงเก๋าเหรอไอ้สัตว์'

ต่อมามีผู้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “ขออนุญาตค่ะ ตามหาคนในภาพเป็นไลน์แมน (แต่สวมใส่เสื้อแจ็คเก็ตโรบินฮูด) ขับรถชนแฟนหนูบนทางเท้าแล้วมาต่อยมากระทืบแฟนหนู แล้วก็ขับหนี รถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน  คือแฟนหนูเขาเดินออกมาจากร้าน ที่เขาเข้าไปซื้อค่ะกำลังจะไปทำงานแล้วเดินออกมาไรเดอร์ขี่รถย้อนศรมาบนทางเท้าเฉี่ยวแฟนหนู แล้วก็เป็นตามคลิปเลยค่ะ”

ทั้งนี้หลังเกิดเหตุนายอิศรา ราษฎร์ทองหลาง อายุ 26 ปี หนุ่มที่ถูกไรเดอร์ทำร้าย ได้เดินทางมาแจ้งความกับตำรวจสน.สายไหม เปิดเผยว่า เหตุเกิดเวลาประมาณ 13.00 น. ของวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ตนไปซื้ออุปกรณ์ก่อสร้าง ขณะที่กำลังเดินออกมาจากร้าน มีไรเดอร์ขี่จักรยานยนต์บนฟุตบาทด้วยความเร็ว เฉี่ยวชนตน

จากนั้นไรเดอร์จอดรถถามว่า “มึงเดินไม่ดูห่าอะไรเลย” ตนจึงตอบไปว่า “นี่มันทางเท้า คุณต้องดูผม ผมมองแล้วซ้ายขวา” ต่อมาไรเดอร์ถามว่า “รู้แล้วว่ามันทางเท้า แต่มึงเดินไม่ดูอะไรเลย มึงไม่จบใช่ไหม” ซึ่งตนก็ตอบไปว่า “เดี๋ยวไปแจ้งตำรวจ”  ขณะกำลังจะโทรแจ้งตำรวจ ไรเดอร์ก็ลงมาจากรถ ถอดเสื้อคลุมออก ปรี่เข้ามาทำร้ายร่างกายตามเหตุการณ์ในคลิปและก็หลบหนีไป

นายอิศรา  ผู้บาดเจ็บยังเปิดเผยอีกว่า ถ้าตนลุกขึ้นมาคงโดนกระถืบซ้ำอีกแน่ คนละแวกนั้นมาช่วยนำตนไปนั่งข้างทาง ได้รับบาดเจ็บแขนขวาเป็นแผลถลอก กกหูและใต้ต้าด้านซ้ายฟกช้ำ  ตอนนั้นตนลุกขึ้นไม่ไหวแล้ว ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด “ผมไม่ยอมความอยู่แล้ว ให้เขารับผลที่เขากระทำไป เขามาเฉี่ยวผมถ้าขอโทษสักคำมันก็จบ แต่นี่เขาไม่ขอโทษแถมยังมาว่าตนผิดว่าทำไม่ไม่ดูรถเขา ทั้งที่ผมเดินบนทางเท้า ถ้าเป็นไปได้ฝากหน่วยงานต่าง ๆ ช่วยดูไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก”

ต่อมาเวลา 18.00น. นายบุญฤทธิ์ ทองเอี่ยม หรือ ‘เต่า หน้ายักษ์’  หนุ่มไรเดอร์หัวร้อน อายุ 20 ปี ได้เข้ามอบตัวกับตำรวจ สน. สายไหม  เปิดเผยยอมรับขี่รถย้อนศรมาบนทางเท้า แต่จังหวะนั้นเบรกไม่อยู่ จึงเฉี่ยวชนคู่กรณีที่เดินอยู่ ก่อนคู่กรณีจะใส่อารมณ์และเหตุการณ์เป็นไปตามคลิป

จากนั้นได้เฉี่ยวชนเข้ากับคู่กรณี จึงได้จอดรถจักรยานยนต์และจะลงมาขอโทษ แต่คู่กรณีได้พูดจาด้วยคำพูดที่รุนแรงใส่ บอกว่า “ขี่รถยังไงทำไมไม่ดู เขาตอบไปว่า “ผมดูแล้ว แต่มันเบรกไม่อยู่”  จนเกิดมีปากเสียงกัน ระหว่างนั้นคู่กรณีก็ยังไม่ยอมหยุด  ยืนยันไม่มีเจตนาที่จะทำร้าย ตั้งใจจะไปถามคู่กรณีเพียงว่าพี่ไม่ยอมจบหรือ กระทั่งเกิดเหตุตามที่ปรากฏในคลิป

เขาอ้างอีกว่าผู้เสียหายได้ลงมือต่อสู้และทำร้ายร่างกายเขาเช่นเดียวกัน ยอมรับว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะตัวเองใจร้อนเกินไป พร้อมขอโทษสังคมไม่อยากให้ใครเดือดร้อนเพราะเป็นปัญหาของเค้าเพียงคนเดียว ที่ทำไปโดยไม่คิดและทำให้คนอื่นเดือดร้อนไปด้วย ขอโทษจากใจจริง ต่อจากนี้จะไม่ทำอีกแล้ว และจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก

“อยากขอโทษที่ใจร้อนเกินไปและทำให้เพื่อนไรเดอร์คนอื่นเดือดร้อน อยากขอโทษจากใจแบบลูกผู้ชาย โดยก่อเหตุครั้งนี้เพียงครั้งเดียว ส่วนสาเหตุขี่รถบนทางเท้านั้น เพราะรีบไปรับออเดอร์ในย่านนั้น ก่อนมาเกิดเหตุ โดนตอนนี้โดนต้นสังกัดส่งอาหารแบนไปแล้วด้วย” และยกมือไหว้ขอโทษคู่กรณี แต่ด้านผู้เสียหายยืนยันที่จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด    

หลังจากให้ปากคำกับตำรวจนายบุญฤทธิ์ ผู้ก่อเหตุ ได้เดินออกมาจากห้องสืบสวน เผยว่า กรณีที่มีบุคคลกล่าวหาว่าตนเองเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ และเคยก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้ว ยืนยันว่าตัวเองไม่ได้เป็นผู้มีอิทธิพล และไม่เคยไปกร่างใส่ใครตอนนี้ ยอมรับว่ามีการโทรศัพท์มาเพื่อพยายามไกล่เกลี่ยจริง เพราะตัวเองไม่ค่อยมีเงิน

เบื้องต้น ได้ขอโทษผู้เสียหายแล้วแต่ไม่รู้ว่าคู่กรณีจะยกโทษให้หรือไม่ สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบและรู้สึกผิดหลังจากที่ทำไป ผู้ก่อเหตุบอกอีกว่าสำหรับเฟซบุ๊กที่มีการเผยแพร่ภาพและข้อความของตัวเขา ยืนยันว่าไม่ได้เป็นเฟซบุ๊กของตนเอง น่าจะเป็นเฟซปลอมที่สร้างขึ้นมาเพื่อใส่ความ

เบื้องต้นตำรวจแจ้งเข้าข่ายความผิด 2 ข้อหา 'ทำร้ายร่างกาย' และ 'ขับรถบนทางเท้า'

ขณะที่เพจ Robinhood Delivery โพสต์แถลงการณ์ชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีนายบุญฤทธิ์ ทองเอี่ยม หรือ เต่า หน้ายักษ์ สวมเสื้อไรเดอร์ของบริษัทขณะก่อเหตุ ซึ่งหลังเกิดเหตุ ทางบริษัทได้เร่งตรวจสอบข้อมูล และพบว่า ผู้ก่อเหตุ ไม่ได้เป็นไรเดอร์ในระบบของ Robinhood แต่มีการนำไอดีของเพื่อนที่เป็นไรเดอร์ Robinhood มารับงานในช่วงเวลาเกิดเหตุ ซึ่งบริษัทได้ดำเนินการปิดระบบถาวรกับคนขับผู้ให้ยืมไอดีทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายอีกในอนาคต

รวมทั้ง ทางบริษัท ได้พิจารณาฟ้องร้องและดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ก่อเหตุ รวมถึงไรเดอร์ Robinhood ที่เป็นเจ้าของไอดี เพื่อให้เป็นกรณีตัวอย่าง รวมถึงจะใช้กรณีนี้กำชับอบรมไรเดอร์ทุกคนให้ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด และเน้นถึงมาตรการลงโทษโดยเด็ดขาด

และถึงแม้ว่า ผู้ก่อเหตุจะสวมสิทธิ์ไรเดอร์ของ Robinhood และไม่ได้เป็นไรเดอร์ที่ลงทะเบียน แต่ด้วยภาพที่ปรากฏออกไปในสีเสื้อ Robinhood นั้น สร้างความไม่สบายใจให้กับสาธารณชน ทาง Robinhood จะร่วมรับผิดชอบโดยการเข้าเยี่ยมผู้เสียหายและเสนอมาตรการเยียวยาในวันอังคารนี้ (8 ก.พ.) โดยทันที และใคร่ขออภัยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมา ณ ที่นี้

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/-s7jRSloePk