ความพยายามแก้ปัญหาการกักตุนเนื้อสุกร ที่เป็นส่วนหนึ่งทำให้เนื้อสุกรขาดตลาดและส่งผลให้ราคาแพงขึ้นมาก ล่าสุดเจ้าหน้าที่หลายหน่วยระดมกำลังเข้าตรวจสอบห้องแช่เย็นแห่งหนึ่ง ที่อำเภอเมืองนครปฐม หลังการแกะรอยตามเนื้อสุกรที่เคลื่อนย้ายโดยไม่มีใบอนุญาต พบว่านำมาเก็บไว้ที่นี่ และเมื่อตรวจสอบเบื้องต้นพบเนื้อและซากสุกรประมาณ 1 ล้านกิโลกรัม ขณะผู้ประกอบการยืนยันว่าการไม่ใช่กักตุน แต่เป็นเพราะได้รับผลกระทบจากโรคระบาด ทำให้ขายไม่หมด จึงต้องแช่เย็นไว้ก่อน



ชุดปฎิบัติการของกรมการปกครอง, กรมปศุสัตว์, ตำรวจคุ้มครองผู้บริโภค และตำรวจท้องที่ เข้าตรวจสอบห้องแช่เย็นของผู้ประกอบการรายหนึ่ง ในอำเภอเมืองนครปฐม หลังพบว่าเนื้อและซากสุกร เก็บไว้ทีนี่จำนวนมาก โดยมีผู้ประกอบการนำตรวจและชี้แจง



ภายโกดังห้องแช่เย็นดังกล่าว พบสุกรที่ชำแหละ เช่นสะโพก ซี่โครง หนัง และสามชั้น ผู้ประกอบการอธิบายเจ้าหน้าที่ ว่า ผลิตภัณฑ์เหล่านี้สว่นหนึ่งเป็นสุกรที่ขายไม่หมด จึงนำมาเก็บไว้ และส่วนหนึ่งเป็นของลูกค้าที่มาฝากไว้ ในอัตราค่าฝากตั้งแต่ 1.50 บาท ถึง 2 บาทต่อกิโลกรัมต่อเดือน รวมถึงส่วนที่เป็นกระดูกสุกร เพื่อบดเป็นอาหารปลา รวมแล้วในห้องแช่เย็นน่าจะมีราว 4 แสนกิโลกรัม



ขณะอธิบดีกรมปศุสัตว์ ยืนยันระหว่างลงตรวจว่า ผลิตภัณฑ์ในนี้หากรวมทั้งหมด น่าจะเกือบ 1 ล้านกิโลกรัม จำเป็นต้องตรวจสอบให้ละเอียดตามมาตรการที่นายกรัฐมนตรีกำกับเพื่อป้องกันการกักตุน



ผู้ประกอบกิจการห้องเย็นดังกล่าว ยืนยันกับทีมข่าวว่า มีเนื้อหมูที่ซื้อจากฟาร์มาชำแหละขาย แต่ขายไม่หมดเพราะผลพวงโรคระบาด จึงต้องแช่เย็นไว้โดยยืนยันไม่ได้กักตุน แต่เมื่อถามว่า ได้แจ้งการครอบครองตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เมื่อเดือนมกราคม หรือไม่ ผู้ประกอบการ อ้างว่าทนายความอยู่ระหว่างดำเนินการ



ขณะที่การคำนวนเนื้อสุกรทั้งหมด พบว่ามีประมาณ1,047,600 กิโลกรัม แยกเป็นเนื้อที่บริโภคได้747,600 กิโล เป็นส่วนกระดูกและน้ำมัน ราว 3 แสนกิโลกรัม และในจำนวนกว่า 1,047,600 กิโลกรัมนี้ บริษัทแสดงเอกสารหลักฐาน ได้81,389 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่จึงอายัดที่เหลือ 966,211 โดยให้ผู้ประกอบการนำหลักฐานมาแสดงภายในวันจันทร์ หากไม่มีเอกสารชี้แจง จะถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ ส่วนพาณิชย์จังหวัดจะดำเนินคดีฐานไม่แจ้งการครอบครองเนื้อสุกรตามประกาศ เมื่อมกราคมที่ผ่านมา และดำเนินคดีฐานไม่แจ้งประกอบกิจการห้องเย็น



โดยเจ้าหน้าที่ยืนยันในจังหวัดนครปฐมมีกิจการห้องเย็นทั้งหมด 30 แห่ง แต่ไม่พบกิจการห้องเย็นนี้อยู่ในสารบบแต่อย่างใด



ข้อมูลกรมปศุสัตว์ ระบุว่า ตั้งแต่ 20 มกราคม ถึง 4 กุมภาพันธ์ 2565 ผลตรวจสอบห้องเย็น กว่า 1287 แห่ง พบซากและเนื้อสุกรเก็บอยู่ รวม 24 ล้านกิโลกรัม ซึ่งกรมปศุสัตว์ระบุว่าเป็นกลไกหนึ่ง ที่ทำให้ผู้ค้านำสุกรออกขาย ทำให้ราคาหน้าฟาร์มปรับลง ส่งผลให้ราคาค้าปลีกเนื้อสุกร ลดลงเหลือ 198-208 บาทต่อกิโลกรัม จากที่เคยสูงสุด 230 บาทต่อกิโลกรัม