สถานการณ์โควิด วันนี้จำนวนผู้ติดเชื้อกลับมาที่กว่า 8,000 คนต่อวันอีกครั้ง โดยผ่านมา 1 เดือน กรุงเทพมหานครจังหวัดเดียวพบผู้ติดเชื้อสะสมเกิน 30,000 คนแล้ว ด้านองค์การอนามัยโลก หรือ WHO เตือน ขณะนี้ยังไม่ใช่จุดสูงสุดของการแพร่ระบาด และยังต้องเข้มงวดในการเฝ้าระวัง


ศบค.รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่วันนี้ 8,587 คน รวมสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 233,116 คน หายป่วย 8,485 คน รักษาตัวอยู่ 83,094 คน แบ่งเป็นอาการหนัก 524 คน ใส่เครื่องช่วยหายใจ 103 คน เสียชีวิตเพิ่ม 22 คน รวมสะสม 509 คน


ส่วนข้อมูลสะสมตั้งแต่ปี 2563 มีผู้ป่วยสะสม 2,456,511 คน เสียชีวิตสะสม 22,207 คน สำหรับจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 3 อันดับ คือ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ และ นนทบุรี โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมากรุงเทพมหานครมีผู้ติดเชื้อสะสมเกินกว่า 3หมื่นคนแล้ว ล่าสุด 30,149 คน


ขณะเดียวกันมีคลัสเตอร์ใหม่เกิดขึ้นที่จังหวัดนครราชสีมา รวมแล้ว 18 คลัสเตอร์ ในจำนวนนี้เป็นคลัสเตอร์ในกลุ่มนักเรียน มากถึง 6 แห่ง จนทำให้ต้องปรับรูปแบบการเรียนการสอนเป็นออนไลน์ โดยมี


คลัสเตอร์วิทยาลัยเทคนิคบัวใหญ่ อ.บัวใหญ่ มีผู้ติดเชื้อ 32 คน , คลัสเตอร์โรงเรียนประทาย อ.ประทาย 24 คน , คลัสเตอร์โรงเรียนบ้านห้วยจรเข้ อ.ด่านขุนทด 19 คน , คลัสเตอร์โรงเรียนบ้านพันชนะ อ.ด่านขุนทด 21 คน , คลัสเตอร์โรงเรียนเตรียมอุดมน้อมเกล้านครราชสีมา 27 คน , คลัสเตอร์โรงเรียนกีฬา อ.โนนสูง อีก 20 คน โดยทุกคลัสเตอร์มีผู้สัมผัสเสี่ยงอย่างน้อย 100 คนขึ้นไปทั้งหมด ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างสอบสวนโรคเพื่อตรวจกลุ่มเสี่ยงเพิ่มเติม


นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุถึงแผนการฉีดวัคซีนเด็กเล็กว่า จะมี 3 สูตร คือ ซิโนแวค 2 เข็ม , ไฟเซอร์ 2 เข็ม และซิโนแวคเข็มแรก-ไฟเซอร์ เข็มที่ 2 ซึ่งผู้ปกครองสามารถเลือกได้ตามความสมัครใจ ส่วนเข็มกระตุ้นในเด็กตอนนี้ยังไม่มีการกล่าวถึง ซึ่งแผนฉีดวัคซีนในเด็กจากนี้ จะมีลักษณะเดียวกับในต่างประเทศ


นพ.โอภาส ย้ำว่า การฉีดวัคซีนในเด็กมีความสำคัญ เพราะมีข้อมูลบ่งชี้ ว่า หากติดเชื้อในเด็กหลายคน อาจเกิดภาวะมิสซี หรือ การอักเสบทั่วร่างกาย และ เด็กยังมีโอกาสนำเชื้อไปแพร่สู่ผู้ใหญ่ ทำให้การฉีดในเด็กมีประโยชน์มากกว่า ขณะนี้ไทยมีวัคซีนซิโนแวค ประมาณ 4-6 ล้านโดส ในจำนวนนี้มีของที่จีนบริจาคให้ 2 ล้านโดส ซึ่งยังไม่จำเป็นต้องสั่งซื้อเพิ่ม

ด้าน องค์การอนามัยโลกประกาศ หรือ WHO เตือนให้เพิ่มความระมัดระวังด้านมาตรการควบคุมโรค เนื่องจากหลายประเทศยังไม่พ้นจุดสูงสุดของการแพร่ระบาด แม้หลายประเทศจะประสบความสำเร็จในการฉีดวัคซีนได้ครอบคลุม จนเริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการ แต่ก็ควรพิจารณาการยกเลิกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างระมัดระวัง


ขณะเดียวกัน สำนักข่าว NHK รายงานยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ที่ 94,930 คน ขณะเดียวกัน อย่างน้อย 18 จังหวัดของญี่ปุ่น มีสถิติผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดตลอดกาล เช่นที่โอกาซา มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 11,171 คน


ส่วนอัตราผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล เพิ่มขึ้นเป็น 51.4% ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางการญี่ปุ่นเคยบอกไว้ว่าอาจมีการประกาศใช้ภาวะฉุกเฉินหากอัตราผู้ป่วยแตะ 50% อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจจะขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงและปัจจัยอื่นๆ ที่เป็นตัวเสริม