กรณีนายประสิทธิ์ หรือเสี่ยแดง ภูทองสุข อายุ 48 ปี ใช้ปืน .38 มม. ยิงคนเสีย 4 ราย ประกอบด้วย

-นางวันเพ็ญ ประสานวงศ์ อายุ 49 ปี อดีตภรรยาของนายประสิทธิ์

-น.ส.อรยา หรือโบว์ เชื้อเจริญ อายุ 25 ปี ลูกของนางวันเพ็ญ และเป็นลูกเลี้ยงของนายประสิทธิ์

-นายธีระชาติ เต่าทอง อายุ 44 ปี

-นายบุญร่วม แสงมา อายุ 48 ปี

ก่อนจะไปนั่งดื่มสุราอย่างใจเย็น ภายในหมู่บ้านหนองมะค่า หมู่ 4 ต.ทุ่งขนาน อ.สอยดาว โดยมีร่างของ น.ส.อรยา นอนจมกองเลือดภายใน รถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ของนางวันเพ็ญ ที่นายประสิทธิ์ขับมาหลังจากยิงแม่ลูกคู่นี้แล้ว จอดอยู่ใกล้บริเวณร้านค้า

ทั้งนี้สาเหตุทั้งหมด นายประสิทธ์ให้การว่า มาจากความแค้นในเรื่องเงินและความรัก เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในช่วงเย็นของวันที่ 30 ม.ค. 65

ล่าสุดมีภาพวงจรปิด ส่วนหนึ่ง ที่นายประสิทธิ์ ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุยิง 4 ศพ เหตุการณ์นี้เป็นการไปยิง นายธีรชาติ ผู้เสียชีวิตรายที่ 3 ซึ่งผู้เสียชีวิตเป็นคนยืมเงิน 40,000 บาท และไม่ใช้คืนทำให้แม่ของนายประสิทธิ์ ต้องจ่ายดอกเบี้ยรายเดือนแทน นายธีรชาติ จึงโกรธแค้นเพราะทิ้งภาระให้แม่ของตนเองต้องรับผิดชอบหนี้ส่วนนี้

ในกล้องวงจรปิด เห็นว่า นายประสิทธิ์ ขับรถมาจอดหน้าบ้าน และเดินลงไปด้วยท่าทีโกรธแค้น จากนั้น ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นต่อเนื่อง 2 นัด และได้ยินเสียงร้องกรีกร้องและเสียงร้องขอความช่วยเหลือ จากนั้น นายประสิทธิ์ ก็เดินออกมาจากบ้านและขับรถออกไปทันที

ต่อมาเวลา 12.00 น. วานนี้ (31 ม.ค.) พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ต.จรัญ จิตเจือจุล รอง ผบ.ตร.ภาค 2 ได้ร่วมกันสอบปากคำนายประสิทธ์ อย่างละเอียด

โดยนายประสิทธิ์ให้การรับสารภาพว่าที่ยิงทั้ง 4 ศพ เพราะความแค้น เริ่มจากยิงนางวันเพ็ญ ถูกพูดจาไม่ดีใส่ตลอดที่อยู่ด้วยกัน และตอนแต่งงานตนนำทองรูปพรรณจำนวน 8 บาท / รถบรรทุก 6 ล้อ เป็นค่าสินสอดของแต่งงาน รวมถึงนำเงินอีก 2 แสนบาท มาร่วมลงทุนทำสวนทุเรียน

เมื่อเลิกกันเมื่อ 1 ปีก่อน นางวันเพ็ญบอกให้เงิน 1 แสนบาท กับตนแต่สุดท้ายไม่ให้ จึงวางแผนก่อเหตุ โดยก่อนลงมือ ตนทราบว่านางวันเพ็ญมาซื้อกับข้าวในตลาดนัด จึงขี่มอเตอร์ไซค์มาดักรอบริเวณที่เกิดเหตุ จนกระทั่งนางวันเพ็ญ และ น.ส.อรยา มาถึง ได้ลงมือยิงทั้งคู่ทันที ก่อนจะขับรถของนางวันเพ็ญหลบหนี โดยมี น.ส.อรยา ใกล้ตายติดรถไปด้วย

หลังจากยิงสองแม่ลูกแล้ว ได้ขับรถไปยิงนายธีระชาติ ด้วยสาเหตุที่นายธีระชาติ ยืมเงิน 40,000 บาท ของแม่ตนไป แต่ไม่ใช้คืน ถัดมาจึงไปยิงนายบุญร่วม เพราะตนถูกหลอกให้ซื้อปืนปลอม ก่อนที่นายบุญร่วมจะเปลี่ยนเป็นปืน .38 มม. ซึ่งเป็นกระบอกที่ใช่ก่อเหตุ กระทั่งต่อมา น.ส.อารยา ก็มาเสียชีวิตด้วยเช่นกัน ทั้งนี้หากยังไม่ถูกจับ ตั้งใจจะยิงอีก 3 คน

ภายหลังการสอบปากคำตำรวจได้นำตัวนายประสิทธ์ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ การทำแผน เริ่มจากจุดแรกที่บริเวณริมถนน 317 จันทบุรี - สระแก้ว ด้านหน้าวัดตามูล และตลาดนัดตามูล หมู่ 1 ต.ทรายขาว อ.สอยดาว โดยนายประสิทธิ์ขี่ จยย. มาจอดรอนางวันเพ็ญและ น.ส.อรยา

จนกระทั่งนางวันเพ็ญและลูกสาว เดินทางมาถึง เมื่อนางวันเพ็ญลงมาจากรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ นายประสิทธ์ ได้ปรี่เข้าไปยิง 2 นัด ระหว่างที่ น.ส.อรยา กำลังนั่งอยู่ในรถด้านซ้ายมือฝั่งคนขับ จากนั้นใช้ปืนกระบอกเดียวกัน ยิง น.ส.อรยา 3 นัด เพื่อให้แน่ใจว่าตาย ก่อนจะขับรถคันที่นางวันเพ็ญขับมาไปยิงเหยื่อรายที่ 3 และ 4 โดยมี น.ส.อรยา ติดอยู่ในรถ

จากนั้นได้นำนายประสิทธ์ไปทำแผนจุดที่ 2 ภายในสวนลำไย หมู่ 9 ต.ทับไทร อ.โป่งน้ำร้อน ตำรวจพบว่ามีญาติคนตายมารอจำนวนมาก จึงยกเลิกการทำแผนในจุดที่ 2 และ 3 เนื่องจากเกิดเหตุชุลมุน ก่อนนำตัวไปยัง สภ.สอยดาว

พล.ต.ท.สมพงษ์ เปิดเผยว่า การยิงทั้ง 4 รายมาจากความแค้นของนายประสิทธ์ ตามคำรับสารภาพ แต่ตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับผู้ตาย ให้ญาติหรือผู้เกี่ยวข้องได้ชี้แจงด้วย และได้ตั้งข้อหานายประสิทธิ์ ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา มีอาวุธปืนไม่ได้รับอนุญาตในความครอบครอง โดยตรวจสอบได้ว่า ปืนที่นายประสิทธ์ใช่ก่อนเหตุเป็นปืนที่มีมาจาก จ.ลพบุรี ขณะนี้กำลังตรวจสอบที่มาของปืนว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร รวมทั้งจะเพิ่มเติมข้อหาที่มีหลักฐานตามมาด้วยต่อไป

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/_yXRB1Zwj9E