เผยคลิปวิดีโอที่ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลบ้านโฮ่ง จ.ลำพูน บันทึกภาพเหตุการณ์ รถกระบะโตโยต้าสีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน กษ 1598 เชียงใหม่ ขับมาตามบนถนนสายลำพูน-ลี้ ช่วงหน้าวัดฉางข้าวน้อยใต้ ต.ป่าซาง จ.ลำพูน

โดยเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดเมื่อเวลา 23.50 น. คืนวันที่ 24 มกราคม 2565 โดยในคลิป รถกระบะดังกล่าวขับนำหน้ารถพยาบาล ขณะที่รถพยาบาลพยายามจะขับแซง กลับพบว่ารถกระบะไม่ยอม พยายามขับส่ายไปมาขวางช่องทางจราจร แม้จะให้สัญญาณว่าเป็นรถพยาบาลแล้วก็ตาม ยังคงขับส่ายไปมาเป็นช่วงระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร

ต่อมาเจ้าหน้าที่รพ.ได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สภ.ป่าซาง จ.ลำพูน ซึ่งทางตำรวจ สภ.ป่าซางได้รับเรื่อง และติดตามจนทราบตัวเจ้าของรถแล้ว เตรียมออกหมายเรียกให้มาให้ปากคำแล้ว

ด้านนายณนงค์ จินดาหลวง พนักงานขับรถโรงพยาบาลบ้านโฮ่ง เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นรถที่ตนและพยาบาล 2 คน เดินทางกลับจากส่งผู้หญิงใกล้คลอดที่โรงพยาบาลลำพูน ขากลับขับรถมาตามบนถนนสายลำพูน-ลี้ เพื่อกลับมารับผู้ป่วยฉุกเฉินอีกราย ที่โรงพยาบาลบ้านโฮ่ง เพื่อไปส่งโรงพยาบาลลำพูน

เนื่องจากช่วงเวลานั้นรถโรงพยาบาล เหลือเพียงคันเดียว ส่วนคันอื่นไปให้บริการรับส่งผู้ป่วยไวรัสโควิดที่โรงพยาบาลสนาม เมื่อตนขับรถมาถึง ช่วงหน้าวัดฉางข้าวน้อยใต้ ต.ป่าซาง เห็นรถกระบะคันดังกล่าวขับส่ายไปมา ตนจึงเร่งเครื่องเพื่อแซงรถคันดังกล่าวและรถคันดังกล่าวขับจี้ก้นรถโรงพยาบาลมาเรื่อยๆ

พอมาติดไฟแดงที่แยกสะปุ๋ง รถกระบะคันดังกล่าวขับตามมาทัน เมื่อสัญญาณไฟเขียวออก รถคันดังกล่าวได้ออกตัวก่อนขับแซงไป ตนจึงขับตามปกติแต่รถคันดังกล่าวพยามขับขวาง และขับรถช้าประมาณ 30-40 กม./ ชั่วโมง ตนพยามจะขับแชงหลายครั้ง แต่รถคันดังกล่าวได้ขับขวาง และเบียด ตลอดเวลา ตั้งแต่แยกสะปุ๋ง

ในขณะนั้น พยาบาลทั้งสองเกิดความกลัว เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวดึกมาก แล้วไม่มีรถคันอื่นขับตาม หรือขับสวนมาเลย และเกรงว่าบุคคลในรถอาจะมีอาวุธ ตนจึงตัดสินใจ เลี้ยวรถของความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บริการประชาชนนครเจดีย์ อ.ป่าซาง

ส่วนรถกระบะคันดังกล่าวได้ขับหลบหนีไป ส่วนตนได้ขับรถพยาบาลไปรับผู้ป่วยฉุกเฉินที่โรงพยาบาลบ้านโฮ่ง เพื่อส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลลำพูนได้ทัน โชคดีที่ตีรถไปส่งผู้ป่วยฉุกเฉินได้ทันก่อนอาการจะทรุดหนัก แต่ต้องเสียเวลาในการเดินทางนานถึง 30 นาที

ขณะที่ตนขับรถกลับมารับผู้ป่วยฉุกเฉินที่โรงพยาบาลบ้านโฮ่ง ขณะนั้นในรถไม่มีผู้ป่วยตนจึงไม่ได้เปิดไฟขอทาง แต่ได้ส่งสัญญาณให้รถคันดังกล่าวทราบแล้ว แต่คนขับยังคงขับขวางอยู่

อยากขอวิงวอนให้ ประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนว่า ขอให้ทางรถพยาบาล ถึงแม้ว่าขณะนั้นในรถไม่มีผู้ป่วยอยู่ แต่ขณะนั้นตนและเจ้าหน้าที่รีบไปรับผู้ป่วยอีกเคส เพื่อไปส่งต่อ ซึ่งตนยืนยันได้ว่า ไม่ได้มีการขับปาดหน้า หรือสร้างความแค้นเคืองใดๆ กับคู่กรณี ไม่ทราบว่าเมาหรือตั้งใจขับรถขวางดังกล่าวที่อาจจะก่อให้เกิดอันตรายแก่รถพยาบาล และเจ้าหน้าที่ที่กำลังปฏิบัติงาน

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/Q8qe3IdfrCc