รอง ผบ.ตร. ทดสอบข้ามทางม้าลาย จุดเดียวกับ 'หมอกระต่าย' แนะ ตร.อย่าทำผิด จะโดนสังคมตำหนิเป็น 2 เท่า

สังคม

รอง ผบ.ตร. ทดสอบข้ามทางม้าลาย จุดเดียวกับ 'หมอกระต่าย' แนะ ตร.อย่าทำผิด จะโดนสังคมตำหนิเป็น 2 เท่า

โดย thichaphat_d

27 ม.ค. 2565

289 views

ความคืบหน้าในส่วนของการแก้ปัญหาทางข้ามม้าลาย จุดที่เกิดอุบัติเหตุ รถจยย.บิ๊กไบค์ของ ส.ต.ต นรวิชญ์ บัวดก พุ่งชน พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือหมอกระต่าย บริเวณทางม้าลายจนถึงแก่ชีวิต ซึ่งยังเป็นคำถามสังคมว่า แม้จะเป็นทางม้าลายจุดข้ามถนน แต่กลับเกิดอุบัติเหตุ

วานนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร.) พร้อม พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.ร่วมกับสำนักการจราจรและขนส่ง กรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ สำรวจทางม้าลายจุดเกิดเหตุ และเดินเท้าสำรวจพื้นที่โดยรอบ

เริ่มตั้งแต่แยกพญาไท ไปจนถึงหน้าสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ ถนนพญาไท โดยพบว่าที่แยกพญาไท มีสัญญาณไฟคนข้ามถนนติดตั้งอยู่ และจากแยกพญาไท ไปจนถึงหน้า สถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ จุดที่เกิดเหตุ ประมาณ 300 เมตร

จากนั้น พล.ต.อ ดำรงศักดิ์ พร้อมคณะ เดินสำรวจมาถึงทางม้าลายจุดที่หมอกระต่ายข้าม พล.ต.อ ดำรงศักดิ์ ทดลองเดินข้ามทางม้าลายจุดนี้ด้วยตัวเอง โดยมีตำรวจคอยโบกรถให้สัญญาณรถที่ขับมาบนถนนพญาไท ทั้งขาเข้าและขาออก หยุดรถ

จากนั้น พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ก็เดินข้ามทางม้าลายมาให้สัมภาษณ์ โดยระบุว่า ช่วงที่ตนเดินข้ามทางม้าลาย ยอมรับ ว่าเกิดความกังวลเรื่องความปลอดภัย เพราะมีข่าวออกมา ก็ยิ่งกังวลเป็นธรรมดา

ซึ่งการลงพื้นที่มาตรวจสอบจุดที่เกิดเหตุนี้ ก็พบปัญหาหลายเรื่อง เช่น บริเวณทางข้ามม้าลายนี้ อยู่ห่างจากแยกพญาไทเพียง 300 เมตร ทำให้ช่วงที่ปล่อยสัญญาณไฟเขียวจากแยกพญาไท รถที่ผ่านมาก็จะเร่งเครื่อง เมื่อมีรถเลี้ยวซ้าย ทำให้รถที่อยู่เลนขวาสุด อาจถูกรถทางซ้ายทั้งสองเลนบังจนไม่เห็นคนข้าม จึงอาจจะเป็นส่วนหนึ่งให้เกิดอุบัติเหตุหรือไม่ โดยปัญหาจุดนี้จะมีการนำไปประชุมแก้ไขปัญหา

แต่ขณะนี้ยังไม่ฟันธง ว่าจะทำอะไรก่อน ขอให้ กทม.กับตำรวจนครบาล ได้หารือกัน ในวันนี้ (27 ม.ค.) และวันที่ 28 ม.ค. จะมีการประชุมสองครั้ง ของคณะกรรมการนโยบายการป้องกันอุบัติเหตุทางท้องถนน โดยมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน

และในวันที่ 28 ม.ค.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะเป็นการประชุมระหว่าง กทม. กระทรวงคมนาคม และหน่วยเกี่ยวข้องเพื่อหารือการวางมาตรฐานการดูแลทางม้าลายทั่วประเทศให้เกิดความปลอดภัยในระยะยาว รวมถึงการบังคับใช้กฎหมาย

โดยพื้นที่กรุงเทพฯ อาจจะมีการติดตั้งเครื่องหมายสัญญาณไฟทางม้าลาย รวมถึงกล้องตรวจจับ ความเร็วของรถที่วิ่งผ่าน เพราะรถบางคันก็วิ่งเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ส่วนที่ต่างจังหวัด จะเป็นหน้าที่ของกระทรวงคมนาคมกับท้องถิ่น

ที่ผ่านมา มีนโยบายการแก้ไขปัญหาจราจรมาตั้งแต่ปี 2562 โดยสั่งเพิ่มอัตราโทษในการฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจร จากปรับไม่เกิน 1,000 บาทเป็นไม่เกิน 4,000 บาท ซึ่งกฎหมายอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสภา คาดว่าจะมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาไม่เกินเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งนอกจากการเพิ่มอัตราโทษแล้ว จะมีการตัดคะแนนจราจรเพิ่มสูงขึ้น

ส่วนกรณี สัญญาณไฟจราจรที่แยกรัชโยธินแสดงสัญญาณไฟเขียวคนข้าม พร้อมกับการเดินรถนั้น พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ระบุว่า ก็จะต้องปรับปรุงในภาพรวม ซึ่งมาตรการป้องกันในเบื้องต้น เช่น การติดตั้งป้ายกำหนดความเร็วก่อนถึงทางม้าลายไม่ให้เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือป้ายชะลอความเร็ว รวมถึงการเพิ่มไฟส่องสว่างให้ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะนำเคสหมอกระต่ายเป็นบทเรียนในการพัฒนาทางม้าลายให้ดียิ่งขึ้น

สำหรับสำนวนคดี ของ ส.ต.ต นรวิชญ์ ตอนนี้พนักงานสอบสวน อยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์ความเร็วของรถ ว่าเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ หากได้ข้อมูลแล้ว ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องการใช้ความเร็ว ซึ่งกรณีนี้ ยอมรับว่า สังคมจับตามอง เพราะเป็นตำรวจแต่ทำผิดเอง

เรื่องนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. กำชับ ให้กำลังพลให้ระมัดระวัง เพราะหากตำรวจ หากทำอะไรผิด จะโดนกระแสสังคมโจมตีหนักเป็นสองเท่า จึงได้กำชับทุกนายให้ระวัง ส่วนเรื่องสำนวนคดี ก็ให้ตำรวจนครบาลทำคดีอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการยกเว้น

ส่วนที่มีการแชร์ข้อความในไลน์กลุ่มแจ้งข่าวตำรวจนครบาลในลักษณะที่ตำรวจน้อยใจ เนื่องจากสังคมไม่วิจารณ์กรณีเสี่ยเบนซ์ขับรถชนตำรวจเสียชีวิตแล้วไปบวชนั้น มองว่าการที่ผู้กระทำผิดสำนึกผิดเป็นเรื่องดีเพราะขี่รถ โดยประมาทไม่มีเจตนา แต่กรณีของ ส.ต.ต นรวิชญ์ กลับโดนสังคมตำหนิ

พล.ต.อ ดำรงศักดิ์ ระบุว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ส.ต.ต.นรวิชญ์ ขี่มาจากทางแยกด้วยความเร็วและโดนรถบังทางซ้าย ซึ่งเมื่อเกิดเหตุเจ้าตัวก็เสียใจต้องการจะไถ่โทษให้กับผู้เสียชีวิต แม้ว่าไม่สามารถทำให้หมอกระต่ายฟื้นกลับมาได้ ก็ถือเป็นการแสดงออกให้สังคมเห็นว่าสำนึกผิดซึ่งตำรวจก็ถูกสังคมต่อว่ามาตลอดหลายเรื่อง “เป็นตำรวจก็ต้องอดทนต่อความเจ็บใจและเข้าใจว่าประชาชนคาดหวังกับตำรวจสูง อะไรที่ผิดพลาดก็ต้องยอมรับและแก้ไข”

แต่การจะไปควบคุมกำลังพลตำรวจทั้งหมดที่มีอยู่กว่า 2 แสนนาย ก็คงเป็นเรื่องลำบาก จึงขอให้ทุกคนปฏิบัติตามกฎหมาย และหากตำรวจทำผิดก้ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นกัน

นอกจากเรื่องคดีแล้ว กรณีนี้ยังพบว่า การซื้อขายรถ จยย.บิ๊กไบค์ มีการโอนลอยถึง 9 ครั้ง ซึ่งส่อถึงพฤติกรรมไม่โปร่งใส หรือพยายามเลี่ยวกฎหมายหรือไม่ พล.ต.อ ดำรงศักดิ์ ระบุว่า การโอนรถลอย ทั้งในกรณี ส.ต.ต.นรวิชญ์ และประชาชนทั่วไป จะต้องตรวจสอบประวัติว่ามีเจตนาที่จะไม่จดทะเบียนหรือไม่ ประกอบกับข้อกฎหมาย เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่จะต้องหารือ ในที่ประชุมว่าจะปรับแนวทางหรือการทำงานและการบังคับใช้กฎหมายอย่างไร

สำหรับบรรยากาศที่บริเวณทางข้ามม้าลายจุดที่เกิดอุบัติเหตุนี้ พบว่า แม้จะเป็นข่าวทุกวัน หรือมีสัญญาณเตือนทั้งการตีเส้นช่องจราจร ลูกระนาดให้ชะลอความเร็ว แต่ก็ยังพบว่า มีรถที่ไม่ชะลอ และยังคงจอดคร่อมทางข้ามม้าลาย เมื่อวานนี้ ชาวบ้านและทีมข่าวลองเดินข้ามถนน ก็พบว่า มีรถจอดคร่อมทางม้าลายไว้ เวลาจะเดินข้ามก็ต้องเดินหลบรถ เสี่ยงอันตราย แม้ว่าจะมีข่าว มีสัญญาณเตือนชะลอความเร็วก็ตาม



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/OPTtshhmT18

คุณอาจสนใจ

Related News