เร่งหาสาเหตุน้ำมันดิบ 1.6 แสนลิตร รั่วไหลในทะเลระยอง ห่วงพัดเข้าชายหาดแม่รำพึง

สังคม

เร่งหาสาเหตุน้ำมันดิบ 1.6 แสนลิตร รั่วไหลในทะเลระยอง ห่วงพัดเข้าชายหาดแม่รำพึง

โดย pattraporn_a

26 ม.ค. 2565

48 views

เกิดเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลกลางทะเล ในบริเวณมาบตาพุด จ.ระยอง ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ส่วนความคืบหน้าวันนี้เจ้าหน้าที่เร่งควบคุม คาดทิศทางน้ำมันไหลไปทางหาดแม่รำพึง ถึงเกาะเสม็ด


เบื้องต้นนายภุชงค์ สฤษฏีชัยกุล ผอ.สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลที่ 1 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากกรมควบคุมมลพิษว่า ทางบริษัทสตาร์ปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน) ตั้งอยู่ที่ ต.มาบตาพุด จ.ระยอง ว่า เมื่อเวลา 00.10 น. ของวันที่ 26 ม.ค. มีน้ำมันดิบรั่วไหล จำนวน 400,000 ลิตร จากท่อใต้ทะเลของทุ่นรับน้ำมันดิบกลางทะเล ในบริเวณมาบตาพุด จุดเกิดเหตุ คือ บริเวณทุ่นรับน้ำมันดิบกลางทะเล


ซึ่งเกิดเหตุเมื่อเวลา 21.06 น. วันที่ 25 ม.ค. และจำเป็นต้องยับยั้งไม่ให้น้ำมันเคลื่อนที่เข้าสู่ฝั่ง เนื่องจากลมมีทิศพัดขึ้นไปทางด้านเหนือ อาจจะมีผลกระทบต่อบริเวณ จ.ระยองได้ กรมควบคุมมลพิษจึงได้ใช้แบบจำลอง OilMap ในการทำนายการเคลื่อนที่ของคราบน้ำมันในทะเล โดยผลการจำลองแสดงให้เห็นว่า กลุ่มน้ำมันดังกล่าวอาจเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งบริเวณหาดแม่รำพึง ถึงบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ในวันที่ 28 ม.ค. เวลา 17.00 น. ประมาณ 180,000 ลิตร


ขณะที่เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา หลายหน่วยงานได้เร่งประชุมหารือวางมาตรการควบคุมน้ำมันดิบที่รั่วไหลลงทะเล โดยมีเจ้าหน้าที่ท่าเรือมาบตาพุด เจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อมที่ 13 การนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด กรมเจ้าท่า เจ้าหน้าที่อนุรักษ์ชายฝั่งและสิ่งแวดล้อม เข้าร่วม


โดยนายพงษกร ช่อชูวงค์ ผู้จัดการฝ่ายชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม บริษัทสตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) เป็นตัวแทนชี้แจง ระบุว่า เมื่อคืนนี้มีกิจกรรมการโหลดน้ำมันดิบจากเรือนที่เดินทางมาจาก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไปที่ทุ่นรับน้ำมันดิบกลางทะเล หรือ SPM เพื่อขนส่งไปที่บริษัทเพื่อทำการกลั่น โดยเรือบรรทุกน้ำมันมา 320,000 ลิตร ประมาณ 3 ทุ่มเศษ ได้กลิ่นไฮโดรคาร์บอนออกมา และพบว่ามีคราบน้ำมันพุ่งมาจากพื้นน้ำ จึงหยุดกระบวนการขนส่งน้ำมัน ตามขั้นตอนความปลอดภัย พร้อมแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวัง


และพยายามเก็บกู้คราบน้ำมัน โดยล่าสุดได้มีการใช้เรือล้อมคราบน้ำมันด้วยบูมไว้ได้ส่วนหนึ่ง แต่ส่วนที่หลุดรอดไปได้ เจ้าหน้าที่ทหารกองทัพเรือ กำลังใช้เฮลิคอปเตอร์บินตรวจสอบ


เบื้องต้นประเมินว่าน้ำมันสูงสุดที่รั่วไหวอยู่ที่ประมาณ 160,000 ลิตร ได้ทำการสลายคราบน้ำมันตามกระบวนการตั้งแต่เมื่อคืน จนถึงช่วงเช้า คาดว่าน่าจะเหลือคราบน้ำมันประมาณ 20,000-30,000 ลิตรที่อยู่บนผิวน้ำ คาดว่าสถานการณ์ในวันนี้น่าจะดีขึ้น แต่ก็เป็นห่วงถ้ากระแสน้ำและลมรุนแรง คราบน้ำมันจะเข้าพื้นที่ชายฝั่ง ส่วนสาเหตุที่เกิดการรั่วไหล อยู่ระหว่างการตรวจสอบ


ทั้งนี้ พิกัดจุดที่น้ำมันดิบรั่ว ตามแบบจำลอง OilMap คาดว่า คราบน้ำมันในทะเล จะไหลเคลื่อนเข้าสู่ฝั่งในอีก 2 วันนี้ ช่วง 5 โมง ในวันศุกร์นี้ โดยแบบจำลอง OilMap แสดงให้เห็นถึงจุดพิกัดเรือ ที่น้ำมันดิบประมาณ 160,000 ลิตร รั่วไหลห่างนอกชายฝั่ง 20 กิโลเมตร พร้อมการเคลื่อนที่ของคราบน้ำมันในทะเล และ เนื่องจากลม มีทิศพัดขึ้นไปทางด้านเหนือ ซึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อพื้นที่เขตเทศบาลนครระยองได้


ในแบบจำลอง จะเห็นว่า อยู่กึ่งกลางระหว่างเกาะเสม็ด จ.ระยองและ แสมสาร จ.ชลบุรี ทั้งนี้ หากไม่มีการควบคุมป้องกัน กลุ่มน้ำมันอาจเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งทะเล บริเวณหาดแม่รำพึงถึงบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ในวันศุกร์ที่ 28 มกราคม นี้ เวลา 5 โมงเย็น ทั้งนี้ผลคาดการณ์ตามแบบจำลอง อาจเปลี่ยนแปลงได้ หากทิศทางลม ความเร็วลม และกระแสน้ำมีการปรับเปลี่ยน


เหตุการณ์นี้ ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศทางทะเลและรองคณบดี คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า เหตุการณ์นี้คล้ายเหตุน้ำมันดิบรั่วนอกฝั่งเกาะเสม็ดเมื่อหลายปีก่อน แต่ปริมาณครั้งนี้เยอะกว่า


อาจารย์ธรณ์ ได้โพสต์ภาพมุมสูงพร้อมระบุว่า เห็นชัดว่าน้ำมันแผ่ขยายกว้างมาก จุดแตกต่างนอกจากปริมาณคือ ปัจจัยสิ่งแวดล้อม ลมพัดขึ้นเหนือไม่ค่อยแรง ต่างจากครั้งก่อนที่ลมพัดไปทางตะวันออก ค่อนข้างแรง ทำให้พื้นที่ได้รับผลกระทบต่างกัน ครั้งนี้น่าจะเป็นชายฝั่งเมืองระยอง หาดแม่รำพึง ก้นอ่าว ซึ่งจุดนั้นเป็นหาดทรายยาว หากน้ำมันดิบมาถึงหาดทราย เกิดคราบดำบนหาด หรือก้อนน้ำมันดิบ จะส่งผลต่อการกำจัดคราบน้ำมันยากมาก ทุกอย่างยากหมด


วิธีที่ดีที่สุด คือ อย่าให้ถึงฝั่ง ลมค่อนข้างเบา พอมีเวลา ใช้บูมตัก กวาดน้ำมันออก ใช้สารเคมีทำให้จมตัวลง เน้นย้ำว่า ใช้สารเคมีต้องใช้ในที่ลึก อย่าใช้ในที่ตื้น เพราะน้ำมันกับสารจะแตกตัวไม่ทัน ไปกองที่พื้นก่อน แหล่งนั้นเป็นประมงพื้นบ้าน ต้องระมัดระวัง เพราะครั้งนี้ถือว่าเยอะ


อาจารย์ธรณ์ บอกอีกว่า ระบบนิเวศหลักๆที่ได้รับผลกระทบคือ หาดทราย พื้นที่เฝ้าระวังมากๆคือ เมืองระยองถึงก้นอ่าว หญ้าทะเลที่บ้านเพและสวนสนอาจได้รับผลกระทบบ้างแต่คงน้อย เพราะช่วงนี้น้ำไม่ลงต่ำจนแห้ง คราบน้ำมันจึงไม่ลงไปยังหญ้าโดยตรง ส่วนทิศทางลมไม่น่าไปทางเกาะเสม็ดแนวปะการังอาจได้รับผลกระทบไม่มาก สรุปแล้วให้เน้นหาดทรายกับพื้นท้องทะเลเป็นหลัก


ขณะที่ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) ออกแถลงการณ์ฉบับ 3 กรณีพบน้ำมันดิบรั่วไหลบริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล หรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล (SPM)ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งท่าเรือมาบตาพุดไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ประมาณ 20 กิโลเมตร ล่าสุด บริษัทฯ ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพเรือภาคที่ 1 ด้วยการใช้เครื่องบินกองทัพเรือบินลาดตระเวณเพื่อดูสำรวจการเคลื่อนที่ของน้ำมัน


โดยพบว่ามีปริมาณน้ำมันหลงเหลืออยู่ในทะเลประมาณ 20 ตัน นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสมาคมอนุรักษ์สภาพแวดล้อมของกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมัน (IESG) ในการช่วยเหลือน้ำยาขจัดคราบน้ำมัน และอุปกรณ์ขจัดคราบน้ำมัน และบริษัทฯได้ประสานงานจาก บริษัท Oil Spill Response Limited (OSRL) ณ ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งขณะนี้กำลังส่งผู้เชี่ยวชาญเดินทางมาให้ความช่วยเหลือโดยทันที


คาดว่าจะสามารถขจัดและเก็บคราบน้ำมันได้ทั้งหมดภายในไม่ช้า อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้จัดส่งทีมติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด


สำหรับการดำเนินงานของโรงกลั่นน้ำมัน บริษัทฯ ยังสามารถเดินเครื่องได้ตามปกติโดยไม่มีผล กระทบจากอุบัติการณ์ดังกล่าว หากมีความคืบหน้า บริษัทฯ จะรายงานสถานการณ์ให้ทราบเป็นระยะจนกว่าสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ


ชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/RVXIxm-hT5E 

คุณอาจสนใจ