'นิธิพัฒน์' เผย 'กทม.-นนทบุรี-ปทุมธานี' อาจเป็นพื้นที่สีฟ้าที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ หวั่นแผนเดินหน้าประเทศสะดุด

สังคม

'นิธิพัฒน์' เผย 'กทม.-นนทบุรี-ปทุมธานี' อาจเป็นพื้นที่สีฟ้าที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ หวั่นแผนเดินหน้าประเทศสะดุด

โดย weerawit_c

23 ม.ค. 2565

199 views

รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์เฟซบุ๊ค นิธิพัฒน์ เจียรกุล ถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระบุว่า ยังพุ่งไปต่อกับยอดรายวันทั้งประเทศ โดย กทม.นำโด่งที่ 20% (นอกจากบุคลากรทางการแพทย์ป่วยเยอะแล้ว นักเตะไทยลีกสองทีมดังก็ติดงอมแงมจนต้องเลื่อนเตะ) ถ้ารวมกับสามจังหวัดรายรอบจะขึ้นไปแตะที่ 40% นี่ยังไม่ทันถึงเวลาปรับสีพื้นที่ในอีกสามวันข้างหน้า



สงสัย กทม. นนทบุรี และปทุมธานี อาจต้องถูกจัดให้เป็นพื้นที่สีฟ้าซึ่งต้องจับตาเป็นพิเศษ โดยให้หน่วยงานในพื้นที่ที่รับผิดชอบต้องแจ้งแผนการดำเนินการควบคุมโรคพร้อมตัวชี้วัดที่ชัดเจน เพื่อให้สังคมร่วมรับรู้และผู้บังคับบัญชาได้ประเมินผล หากไม่มีทิศทางที่ดีขึ้นจะได้ลงแส้ให้เคร่งครัดกันมากขึ้น นี่ก็ใกล้เทศกาลตรุษจีนและเทศกาลสอบในทุกระดับการศึกษาแล้ว อย่าทำให้แผนเดินหน้าประเทศต้องสะดุด โดยเฉพาะการกลับมาของ Test&Go โฉมใหม่



หลังจากเริ่มกุมขมับกับสถิติประเทศแต่เช้า อย่างไรชีวิตต้องเดินต่อ ด้วยปัจจุบันกำลังจะเข้าสู่ยุคหลังโควิดถ้าโอไมครอนเป็นตัวปิดเกมจริง จำเป็นต้องมีการจัดเตรียมห้องเรียนคุณภาพอากาศดี ให้เยาวชนปลอดภัยจากโรคติดเชื้อในระบบการหายใจและมลพิษในอากาศ มีพัฒนาการของร่างกายและจิตใจที่สมบูรณ์ เติบโตเป็นพลเมืองของประเทศที่มีคุณภาพ จึงได้คิคออฟโครงการพัฒนาคุณภาพอากาศในห้องเรียน ซึ่งเป็นการร่วมมือกันของโครงการต่อลมหายใจ ในศิริราชมูลนิธิ และศูนย์บริการสาธารณสุข 30 วัดเจ้าอาม



โดยการสนับสนุนของทีมวิศวกรอาสา  มีเป้าหมายไปที่โรงเรียนของภาครัฐในเขตบางกอกน้อย พร้อมการจัดหาหน้ากากผ้าชนิดใช้ซ้ำที่ได้มาตรฐาน สำหรับป้องกันไวรัสก่อโรคระบบการหายใจและป้องกันฝุ่น PM2.5 ให้กับนักเรียนที่ทางบ้านขัดสน ใครสนใจร่วมบริจาคเงิน ความรู้ หรืออื่นๆ ติดตามโครงการกันต่อไปได้ สำหรับกิจกรรมวันนี้ได้รับความสนใจจากคณะครูของโรงเรียนแรกที่เข้าร่วมโครงการเป็นอย่างดี



หลายคนร่วมสนุกทายผู้ป่วยปริศนาตามโพรไฟล์ที่นำเสนอเมื่อวานได้อย่างถูกต้อง วันนี้ผู้ป่วยโรคไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง (ไม่เป็นข้อห้าม) ได้ไปบริจาคเลือดที่ล่ากว่ากำหนด เพราะหลายวันก่อนหลบไปเที่ยวกินข้าวดูหนังกับครอบครัว แล้วเจอเจ้าหน้าที่ธนาคารเลือดซึ่งไปร้านเดียวกันทักว่าเลยกำหนดนัดบริจาคเลือดมาเกือบเดือนแล้ว ต้องโทษโควิดที่ทำให้นัดหมายหลายเรื่องคลาดเคลื่อน ขณะที่กำลังถูกถ่ายเลือดมีเจ้าหน้าที่มาขอถ่ายรูป เพื่อไปเชิญชวนคนมาร่วมบริจาคให้มากๆ อย่างเมื่อวานศิริราชมีการใช้เลือด 190+ ถุง แต่มีผู้บริจาคในสถานที่เพียง 80+ ถุง ต้องพึ่งเลือดสำรองจากการออกรับบริจาคนอกสถานที่และที่ขอสนับสนุนจากสภากาชาดไทย



การเมืองไทยกับอังกฤษช่วงนี้น่าจับตา ฝ่ายรัฐบาลบ้านเขากำลังมีการเขย่าเก้าอี้กันเอง ในช่วงที่ผลงานฝ่ายบริหารตกต่ำโดยเฉพาะการจัดการกับสถานการณ์โควิด แถมคนในรัฐบาลยังไปทำเรื่องอื้อฉาวละเมิดมาตรการควบคุมโควิดที่ตัวเองประกาศออกมาเสียเองด้วย ส่วนบ้านเราก็เกิดศึกชิงรักหักเหลี่ยมในฝ่ายรัฐบาลกันอยู่วุ่นวาย ผลพวงจากการแบ่งผลประโยชน์ไม่ลงตัว จึงสอดรับกับวลี “เมื่อผลประโยชน์ขัดกัน การห้ำหั่นจึงเกิดขึ้น” ฝ่ายค้านก็เตรียมการร่วมถล่มโดยมีประเด็นเรื่องการจัดการปัญหาโควิดเข้ามาด้วย แต่ดูจากน้ำหนักการนำเสนอของฝ่ายค้านเรื่องโควิดที่ผ่านมา คอการเมืองส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า “เบาบางดังปุยนุ่น”


รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/zt-X6Bw9nqE

คุณอาจสนใจ