กระบี่ ราคาปาล์มพุ่งสูงเป็นประวัติศาสตร์ ล่าสุดใกล้ 12 บาทต่อ กก. ทำให้ชาวสวนปาล์มน้ำมัน เพิ่มความถี่ลาดตระเวน เฝ้าระวังคนร้ายขโมยผลปาล์ม


นายวิชัย มากศรี เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ตำบลเขาเขา อำเภอปลายพระยา จังหวัดกระบี่ ต้องเพิ่มความถี่การลาดตระเวน เฝ้าระวัง คนร้านเข้าขโมยตัดผลปาล์มภายในสวน เพิ่มขึ้น จาก 2-3 วันต่อครั้ง เป็นวันละ 1-2 ครั้ง หลังจากถูกคนร้ายขโมยปาล์มบ่อยครั้งในระยะนี้ แต่มีจำนวนไม่มากครั้งละ 3-4 ทะลาย เนื่องจากราคาเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุด กิโลกรัมละ 11.80 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงสุดในประวัติศาสตร์ของปาล์มน้ำมัน โดยสังเกตทางปาล์มน้ำมันหากพบถูกตัดร่วงล่นลงมา มีคนร้ายขโมยตัดผลปาล์มออกไป


ขณะที่ ผู้ประกอบการลานเทรับซื้อผลปาล์มน้ำมัน ในพื้นที่ อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ปฏิบัติตาม คำสั่งของเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ตามโครงการลานเทสะเทือน งดรับซื้อของโจร ทำการบันทึกชื่อสกุล ทะเบียนรถ ผู้นำผลปาล์มน้ำมันมาขายติดตั้งกล้องวงจรปิด ในสถานประกอบการลานเท หากมีบุคคลใช้ยานพาหนะ รถจักรยานยนต์ หรือรถจักรยานยนต์สามล้อมพ่วง นำผลปาล์มน้ำมันมาขาย ให้จดหมายเลขทะเบียนรถ ถ่ายภาพไว้ เป็นหลักฐาน หากตรวจสอบพบภายหลังว่า เป็นคนร้าย จะเป็นหลักฐานจับกุมตัวมาดำเนินคดี


สตูล ปาล์มราคาแพง หัวขโมยแอบตัดขาย ชาวบ้านสุดทนลงขันตั้งรางวัลนำจับ


ราคาปาล์มน้ำมันที่แพงขึ้น ทำให้ในพื้นที่ ต.อุไดเจริญ อ.ควนกาหลง จ.สตูล เกิดแก๊งขโมยตัดปาล์มในสวนของชาวบ้านขึ้น เนื่องจากราคาปาล์มที่ปรับสูงขึ้นมากที่สุดในรอบ 20-30 ปี คือก.ก.ละ 11 บาท ซึ่งชาวบ้านเองไม่เคยเห็นราคาปาล์มที่สูงขนาดนี้มาก่อน ส่งผลให้หัวขโมยออกตระเวนตัดปาล์มของชาวบ้านไปขายตามลานต่าง ๆ


วานนี้ (22 ม.ค.) นายสมหมาย ทองช่วย กำนัน ต.อุใดเจริญ อ.ควนกาหลง จ.สตูล พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้าน และฝ่ายปกครองในพื้นที่ นำกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบและหาข้อมูลกับชาวสวนปาล์มน้ำมันในพื้นที่ เนื่องจากเกิดเหตุมีคนร้ายขโมยตัดผลปาล์มน้ำมันของชาวบ้าน โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา


โดยนายสมหมาย เล่าว่า เหตุการณ์ที่มีคนร้ายมาขโมยตัดปาล์มของชาวบ้านเกิดขึ้นบ่อยมาก ล่าสุดเมื่อคืนที่ 20 ม.ค. ตนเองได้รับแจ้งเบาะแสจากชาวบ้านว่า มีคนร้ายเข้าไปขโมยตัดผลปาล์มของชาวบ้านซึ่งเจ้าของสวนอาศัยอยู่นอกพื้นที่ ต่อมาเวลาประมาณ 21.00 น. ของคืนดังกล่าว ตนได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองลงพื้นที่ เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ พบร่องรอยของการแอบขโมยตัดผลปาล์มน้ำมัน พบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง 1 คัน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนบนรถมีทลายปาล์มอยู่ 1 ทะลาย แต่ไม่พบผู้ก่อเหตุ จึงได้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ควนกาหลง ทำการตรวจยึดรถสามล้อพ่วงข้างคันดังกล่าวเพื่อสอบสวนหาข้อเท็จจริง พร้อมด้วยได้แจ้งไปยังเจ้าของสวนปาล์มดังกล่าวให้รับทราบ


ต่อมา กำนัน ต.อุไดเจริญ ได้พาผู้สื่อข่างลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบหาข้อมูลและหลักฐานในจุดเกิดเหตุอีกครั้ง พบอุปกรณ์ที่ใช้ในการเสพยาเสพติด วางอยู่ห่างจากจุดที่ตรวจยึดรถเพียง 30 เมตร จึงคาดว่า คนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 2 คนแอบมาซุ่มและเสพยา ก่อนที่จะลงมือขโมยตัดผลปาล์ม แต่เมื่อทางตนเองและเจ้าหน้าที่เข้ามาเห็นแสงไฟรถ จึงทิ้งรถพ่วงข้างดังกล่าวแล้ววิ่งหนี


จากนั้นได้ขอความร่วมมือกับจุดรับซื้อปาล์มน้ำมันในพื้นที่ ตรวจสอบหากล้องวงจรปิด และขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการรับซื้อว่า หากมีคนแปลกหน้า หรือบุคคลต้องสงสัยนำผลทลายปาล์มมาขาย ให้รีบแจ้งไปยังกำนัน หรือผู้ใหญ่บ้านทันที เพื่อเป็นการตัดช่องทางของคนร้าย ซึ่งการตระเวนขโมยตัดผลปาล์มของหัวขโมยนับวันจะก่อเหตุเหมือนเย้ยกฎหมาย ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนกันทั่ว


ทางกำนัน ผญบ.ทั้ง 9 หมู่บ้านใน ต.อุไดเจริญ จึงรวบรวมเงินเพื่อตั้งรางวัลนำจับ เป็นเงิน 3 พันบาท เพื่อให้กับผู้แจ้งเบาะแสนำไปสู่การจับกุมคนร้าย เพื่อที่หมู่บ้านได้มีความสงบสุขต่อไป


ตรัง ลานเทรับซื้อผลปาล์มวางมาตรการป้องกันเข้ม หวั่นคนร้ายแอบลักขโมยมาขาย หลังเกิดคดีประเภทนี้เพิ่มมากขึ้น ด้านผู้การสั่งทุกโรงพักทำ MOU สกัดช่องโหว่ ย้ำจับได้จัดการเด็ดขาดทุกราย


ลานเทรับซื้อผลปาล์มน้ำมัน ทั้งของเอกชน และของบริษัทต่าง ๆ ขณะนี้ต่างเข้มงวดในการรับซื้อผลปาล์มจากเกษตรกรมากขึ้น หลังจากเกิดการลักขโมยเพิ่มขึ้นในทุกท้องที่ทั้ง 10 อำเภอของจังหวัดตรัง เนื่องจากปาล์มมีราคาสูงขึ้นถึงกิโลกรัมละกว่า 11 บาท หรือสูงมากในรอบหลายสิบปี แต่จากการลงพื้นที่ติดตามดูการรับซื้อผลผลิตพบว่า ขณะนี้แต่ละแห่งรับซื้อได้น้อยลง เนื่องจากผลปาล์มน้ำมันมีปริมาณน้อย และจะออกมากอีกครั้งประมาณเดือนมีนาคมเป็นต้นไป


โดยลานเทโจนัส ซึ่งเป็นลานเทเอกชนในพื้นที่อำเภอห้วยยอด นางสาวลักษมี ด้วนเล็ก อายุ 26 ปี ระบุว่า จะรับซื้อผลปาล์มเฉพาะเจ้าประจำที่มาขาย เพราะจะมีข้อมูลว่า เจ้านั้นมีสวนอยู่ตรงไหน มีจำนวนกี่ไร่ ตัดแต่ละรอบ 15 วัน หรือ 20 วัน/ครั้ง และมีปริมาณเท่าไร แต่ขนส่งหากมากับรถ จยย.หรือ รถจยย.พ่วงข้างครั้งละน้อยนิด ลานเทจะไม่รับซื้อเด็ดขาด หรือหากคนลักขโมยเปลี่ยนแผนไม่นำมาขายเอง แต่เอาไปขายให้เกษตรกรรายย่อยเพื่อสวมรอยนำมาขายต่อ กรณีนี้ทางลานเทก็จะขอหลักฐานบัตรประชาชนด้วยเพื่อตรวจสอบ


ส่วนลานเทของบริษัท ตรังน้ำมันปาล์ม จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มรายใหญ่ในจังหวัดตรัง ทางพนักงานฝ่ายจัดซื้อประจำลานเทบ้านโต๊ะเมือง ตำบลบางหมาก อำเภอกันตัง ระบุว่า ขณะนี้ลานเทของบริษัททุกแห่งในจังหวัดตรัง จะมีแนวทางการปฏิบัติเหมือนกันอย่างเคร่งครัดคือ รับซื้อผลปาล์มแต่เฉพาะลูกค้า หรือเจ้าของสวนประจำที่มีรายชื่อ มีเอกสารสิทธิ์ และเอกสารประจำตัวอยู่กับบริษัทแล้วเท่านั้น และจะใช้วิธีการโอนเงินเข้าบัญชีของเจ้าของสวนโดยตรง หรือหากทางเจ้าของสวนจะให้ทีมตัด หรือลูกจ้างมาขาย ก็จะต้องส่งเอกสารให้กับทางบริษัททราบล่วงหน้า ซึ่งจะมีฐานข้อมูลทุกราย เพื่อป้องกันการลักลอบการลักขโมยผลปาล์มมาขาย


ด้าน พล.ต.ต.สันทัด วินสน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง กล่าวว่า กรณีที่ผลปาล์มมีราคาสูงขึ้น ทำให้มีคนร้ายฉวยโอกาสเข้าไปลักขโมยจำนวนมาก และทางตำรวจก็จับกุมดำเนินการเด็ดขาดกับทุกราย หรือหากพบลานเทมีส่วนรู้เห็นด้วย ก็จะเอาผิดเช่นกัน ทำให้การลักลอบขายผลปาล์มที่ลักขโมยมานั้นทำได้ยาก พร้อมสั่งการให้ทุกสถานีตรวจสอบลานเทรับซื้อผลปาล์มทั้งหมด โดยคนที่นำมาขายจะต้องมีหลักฐาน มีการบันทึกภาพ มีกล้องวงจรปิด และมีการทำ MOU ร่วมกันระหว่างตำรวจ กับผู้รับซื้อ หรือผู้ประกอบการลานเท พร้อมจะต้องปฏิบัติตามข้อสังเกตในการรับซื้อผลปาล์ม เช่น ไม่ซื้อของคนที่ไม่มีสวน ไม่ซื้อรายที่มาขายเล็กๆ น้อย ๆ

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/KSC1cx4JZYs