เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 22 ม.ค.65 นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี ได้รับรายงานถึงการรักษาช้างพลายงาด้วน ชื่อ คุณปู่ป่าละอู อายุ 60 ปี หนักกว่า 5 ตัน ซึ่งได้ล้มลงอย่างสงบแล้ว


หลังได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลบริเวณลำตัวหลายจุด จากการต่อสู้และถูกยิงหลายแห่ง มีกระสุนปืนฝังในตัวหลายจุด แผลค่อนข้างลึก ติดเชื้อในกระแสเลือดระดับรุนแรง มีหนองไหลจากแผลบริเวณท้ายลำตัว ร่างกายอ่อนแอ ซูบผอม ประกอบกับเป็นช้างป่าที่อายุมากแล้ว อาการจึงอยู่ในภาวะวิกฤต บริเวณบ้านป่าแดงใกล้บริเวณอ่างเก็บน้ำกระหร่าง 3 อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน หมู่ 3 ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน


จากการรักษาอย่างต่อเนื่อง แต่ช้างป่าตัวดังกล่าวมีอายุมากกว่า 60 ปี ประกอบกับร่างกายอ่อนแอจากการบาดเจ็บเรื้อรัง จนช้างต้องทนอยู่ในทุกขเวทนาจากอาการบาดเจ็บ ทีมสัตวแพทย์ได้ลงความเห็นไม่ยื้อชีวิต ให้คุณปู่ป่าละอูหลับไปอย่างสงบ


โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการผ่าพิสูจน์กระสุนที่ฝั่งอยู่ในร่างกาย ซึ่งพบมีรอยแผลกระสุนหลายจุด จากงวง หัว ลำตัว ถึงหางช้าง โดยภายในร่างพบกระสุนฝังติดอยู่ทั้งหมด 124 นัด ก่อนให้พนักงานสอบสวนเข้าตรวจสอบเคลื่อนย้ายซากไปผ่าพิสูจน์ ทำพิธีสวดบังสุกุลและฝังกลบ ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานที่ 7 (เขาหุบเต่า) ต่อไป


นายพิชัย กล่าวว่า หลังได้ทราบอาการบาดเจ็บของ คุณปู่ป่าละอู ได้แจ้งให้ นายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน หรือ หมอล็อต สัตวแพทย์ประจำกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และเจ้าหน้าที่ เข้ารักษาทำการวางยาซึมแต่ด้วยสภาวะร่างกายของช้างป่าค่อนข้างอ่อนแอ มีภาวะติดเชื้อทั่วร่างกาย โลหิตจาง ค่าไตและตับขึ้นสูงมากจึงทำให้การเข้าถึงตัวค่อนข้างมีอุปสรรค หลังจากให้ยา ช้างป่าได้ล้มตัวลงนอนกับพื้นในลักษณะที่หัวต่ำกว่าตัวเสี่ยงต่อภาวะสำลักและอาจมีภาวะอื่น ๆ แทรกซ้อนตามมา จึงให้ยาปฏิชีวนะ ยาบำรุง สารน้ำ และยากำจัดปรสิต


ซึ่งบาดแผลของช้างที่พบมีหนองข้นไหลออกจากด้านหลังทั้ง 2 แผล เป็นโพรงเข้าไปถึงชั้นกล้ามเนื้อลึกประมาณ 2-3 ฟุต ซึ่งคาดว่าเป็นรอยจากการต่อสู้ ส่วนแผลที่บริเวณหัวและบริเวณกลางลำตัว ตรวจด้วยเครื่องตรวจโลหะพบว่ามีโลหะอยู่ภายในบาดแผลทั่วทั้งร่างกาย โดยทีมสัตวแพทย์ได้ล้างแผลและนำกระสุนออกเป็นกระสุนปืนลูกซองขนาด 9 จึงเก็บเป็นหลักฐานเข้าแจ้งความเพื่อหาตัวคนกระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป


ซึ่งคาดว่าไม่ใช่ฝีมือชาวบ้านและประชาชนในพื้นที่ป่าละอู และป่าเด็ง เพราะชาวบ้านทั้งหมดมีความรักและเข้าใจต่อช้างป่า เข้าใจต่อสถานการณ์ปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่าที่เกิดขึ้นเป็นอย่างดี และมีแนวปฏิบัติในการป้องกันการกระทบกันระหว่างคนกับช้างอย่างถูกวิธี


ด้าน นายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน หัวหน้าฝ่ายสุขภาพสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ผ่าพิสูจน์ซาก ปรากฏว่าพบกระสุนปืนชนิดต่าง ๆ ฝังอยู่ในตัว นับรวมทั้งสิ้นได้ 124 นัดด้วยกัน ถือเป็นกรณีที่น่าเศร้าใจอย่างยิ่ง ที่ถูกยิงมากขนาดนี้


ปู่ป่าละอูนั้นเป็นช้างที่แก่มากแล้ว อายุกว่า 60 ปี ใช้ชีวิตในป่ามาอย่างสมบุกสมบัน ช้างแก่มักจะถูกช้างหนุ่มขับไล่ออกจากพื้นที่ สันนิษฐานว่าปู่ป่าละอูจะออกนอกป่า เพื่อมาขอความช่วยเหลือ ซึ่งช้างแก่ตัวอื่น ๆ ก็มีพฤติกรรมเช่นนี้ เคสนี้ทั้งน่าสลดใจและน่าเศร้าใจอย่างมาก ที่อยู่ในป่าพื้นที่ตัวเองก็ไม่ได้ ออกมาข้างนอกก็ถูกไล่ยิง


ผมจึงไม่อยากให้ทุกคนคิดเอาเองว่า เมื่อมีช้างออกจากป่าแล้ว เขาจะออกมาบุกรุกทำลายข้าวของหรือพืชผลเสมอไป แต่อาจจะออกมาขอความช่วยเหลือเหมือนกรณีของปู่ป่าละอูก็ได้ ดังนั้นหากเห็นช้างออกจากป่าให้แจ้งเจ้าหน้าที่ให้ทราบ


นายสัตวแพทย์ภัทรพล กล่าวอีกว่า ปู่ป่าละอูไม่ได้ถูกล่า แต่ถูกไล่ยิง ซึ่งไม่ได้ยิงแค่ครั้งเดียว น่าจะโดนมากกว่า 2-3 ครั้ง

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/GSPdu8_PNyw