คนร้ายตามประกบหญิงวัย 49 ปี กว่า 2 กิโลเมตร หวังกระชากสร้อยคอทองคำ แต่ผู้เสียหายขัดขืน จนรถล้มทั้งคู่ มีพลเมืองดีช่วยเหลือ และโชคดี สร้อยที่ขาด 2 ท่อน หลุดเข้าไปในเสื้อชั้นใน


เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 21 ม.ค.65 ร.ต.อ.วิรัตน์ ตระกูลไทย รอง สารวัตร(สอบสวน) สภ.บ้านบึง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยศีลธรรมสมาคมบ้านบึง ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายกระชากสร้อยคอทองคำ ทำให้รถของผู้เสียหายล้มบนถนนสายหนองปิง-หนองซ้ำซากหมู่ที่ 3 ต.หนองซ้ำซาก อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี


จึงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และพบผู้เสียหายเป็นหญิง ชื่อนางกฤตภรณ์ นกทอง อายุ 49 ปี ได้รับบาดเจ็บมีแผลถลอกบริเวณที่ใบหน้าและที่แขนขา ยังอยู่ในอาการตกใจ กู้ภัยทำการปฐมพยาบาลทำแผลเบื้องต้น ในมือถือสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาท และพระเลี่ยมทอง 1 องค์ ที่ขาดเป็น 2 ท่อน นอกจากนี้ยังมีรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าคลิ๊กไอ 125 สีดำ จอดอยู่ มีร่องรอยความเสียหายจากการล้ม


จากการสอบถาม นายอนุพล มูลแก้ว อายุ 32 ปี พลเมืองดี ที่เข้าช่วยเหลือ เล่าว่า ตนเองได้ยินเสียงรถล้มและเสียงคนร้องขอความช่วยเหลือให้ช่วย เห็นคนร้ายกำลังเดินดิ่งเข้ามาหาผู้เสียหายและพยายามจะคว้าสร้อยคอทองคำ เห็นท่าไม่ดี จึงมาวิ่งกระโดดถีบและพยายามจะเข้าจับกุม แต่ได้ยินเสียงของคนที่อยู่ใกล้ที่พักอาศัยใกล้ว่าอย่าเข้าไปอาจมีอาวุธปืนหรือมีด เพื่อความปลอดภัย เลยปล่อยให้คนร้ายหนีไป


ด้าน นางกฤตภรณ์ ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนเองขี่รถจักรยานยนต์ออกมาทำธุระ ระหว่างทางจะกลับบ้าน สังเกตเห็นรถจักรยานยนต์ขับขี่ตามหลังมาอยู่ห่าง ๆ ตนเองพยายามจะให้แซงขึ้นหน้า แต่กลับไม่แซง จึงเร่งเครื่องหนี ที่เป็นระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร จนถึงทางโค้งได้ขี่เข้ามาใกล้ ที่มีชายรูปร่างผอม สวมเสื้อเป็นวัยรุ่น อายุประมาณ 20-25 ปี จากที่มองเป็นรถจักรยานยนต์แต่งซิ่ง ใช้มือพยายามคว้าสร้อยคอทองคำ ที่ตนสวมใส่อยู่ที่คอ จึงปล่อยมือจากแฮนด์รถปัดป้อง ก่อนรถจะเสียหลักล้มไถลกับพื้น แล้วล้มด้วยกันทั้งคู่


จากนั้นคนร้ายก็วิ่งมาหาตน พยายามกระชากเอาสร้อยคอทองคำ ที่หล่นไปในเสื้อชั้นใน แต่โชคยังดีที่ส่งเสียงร้อง มีพลเมืองดีเห็นเหตุการณ์ วิ่งเข้ามาช่วยเหลือ หลังจากตั้งสติได้ รีบวิ่งหนีพร้อมกับสร้อยคอทองคำที่ขาด น้ำหนัก 1 บาท พร้อมพระนางกวักเลี่ยมทองขาดสองท่อน


เบื้องต้นตำรวจได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบของกลางที่คนร้ายทำตกหล่นมีไขควง คีมปากแหลม และคาดว่าคนร้ายเป็นวัยรุ่นต่างถิ่น ที่ไม่น่าอยู่ในพื้นที่อำเภอบ้านบึง คาดว่าขับขี่รถตะเวนหาเหยื่อไปเรื่อย ๆ หากพบก็จะปรี่ตามประกบ เข้าหาและทำร้ายเพื่อชิงทรัพย์ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ดูกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง เพื่อจะได้ติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป