วานนี้ (20 ม.ค.) ศ.ดร.พรายพล คุ้มทรัพย์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์ กล่าวถึงราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง จากสถานการณ์ความตึงตัวของอุปทานในตลาดโลก ส่งผลให้ราคาน้ำมันในประเทศไทยมีการขยับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะน้ำมันในกลุ่มดีเซล ที่ขณะนี้ใกล้แตะลิตรละ 30 บาทสำหรับ โออาร์ และ บางจาก ส่วนค่ายอื่นอั้นไม่อยู่ราคาทะลุลิตรละ 30 บาทไปแล้ว

โดยเชื่อว่า ทั้ง 2 ค่าย จะอั้นราคาไว้ในระดับต่ำกว่า 30 บาทต่อลิตรได้อีกไม่นาน หากราคาน้ำมันในตลาดโลกยังขยับขึ้นแบบนี้ ในขณะที่เงินกองทุนน้ำมันที่รัฐบาลใช้อุดหนุนราคาก็มีจำกัด เพราะทำการกู้มาเต็มเพดานแล้ว

โดยมองว่า หากรัฐไม่กู้เพิ่ม ก็น่าจะถึงเวลาในการใช้มาตรการอื่นเข้ามาพยุงราคาน้ำมัน เช่น การปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันลง ลิตรละ 2-3 บาท ก็น่าจะช่วยได้ เพราะการปรับขึ้นราคาน้ำมันในช่วงนี้ถือว่าสูงผิดปกติ

ประเมินว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะยังอยู่ในขาขึ้นและมีโอกาสพุ่งแตะระดับ 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลได้ ในอีก 1-2 เดือนข้างหน้าหากสถานการณ์ความตึงตัวของอุปทานยังไม่คลี่คลาย แนะจับตาแหล่งผลิตในสหรัฐ (แฟลกกิ้งออยล์) จะเพิ่มกำลังการผลิตออกมารองรับความต้องการของตลาดได้มากน้อยเพียงใด

สำหรับแนวคิดที่มีการเสนอให้ปรับเพดานการตรึงราคาน้ำมันดีเซลให้สูงกว่า 30 บาทต่อลิตรเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป ศ.ดร.พลายพล มองว่า เพดานตรึงดีเซล ที่ลิตรละ 30 บาทยังเป็นระดับที่เหมาะสม เพราะราคาน้ำมันที่ขยับสูงขึ้นเป็นเพียงชั่วคราว หรือระยะสั้นเท่านั้น ยังไม่จำเป็นต้องปรับเพดานแต่อย่างใด

แต่ที่น่าห่วงคือราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) ที่จะต้องจับตาว่ารัฐบาลจะตรึงราคาต่อหรือไม่หลังสิ้นสุดมาตรการในวันที่ 31 มีนาคมนี้ เพราะจะมีผลต่อค่าครองชีพของประชาชนในวงกว้าง


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/k3A5CbQOOts