-ปศุสัตว์สงขลา บุกทลายห้องเย็นเอกชน พบกักตุนเนื้อหมูมากกว่า 2 แสนกิโลกรัม ยังไม่สามารถระบุแหล่งที่มาได้ เบทาโกรแจงหมู 2 แสนโล เป็นการจัดการสินค้าคงคลังตามปกติ เพื่อรองรับการจัดส่ง 5-7 วันจัดส่งใน 8 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง

-พลายติ๊ก ช้างลากไม้ยางพารา ตกมัน กระทืบควาญช้าง ดับคาที่ 2 ศพ กู้ภัยจะเข้าเก็บศพถูกช้างไล่กระเจิง ชาวบ้านที่มาดูเหตุการณ์ ถูกเหยียบซี่โครงหักสาหัส ก่อนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ปศุสัตว์ใช้ยิงปืนลูกดอกยาซึม จนช้างสงบก่อนคุมตัว พบประวัติเคยฆ่าคนมาแล้ว 3 ชีวิต

-ระทึก เมืองบางพลี สมุทรปราการ ชาวบ้านนับร้อยชีวิตอพยพวุ่น หลังดินสไลด์บันทรุดพังหลายหลัง บ้านเรือนพังเสียหายอย่างน้อย 25 หลัง เคราะห์ดีไม่มีใครเจ็บ หรือ เสียชีวิต

-กองสลากฯ ลุยเอง รวบยี่ปั๊วรายใหญ่ วังสะพุงนับ 10 คน คากองหวยชุดที่กว้านซื้อ กลางลานจอดรถไปรษณีย์อำเภอเอราวัณ จังหวัดเลย ยึดของกลาง ลอตเตอรี 400 กล่อง รวม 2 แสนฉบับ มูลค่ากว่า 28 ล้านบาท เร่งขยายผลล่าตัวการ

-ตำรวจ PCT บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน ต้องศูนย์บัญชาการในคอนโดย่านสุขุมวิท 39 จับผู้ต้องหาได้ 10 ราย สารภาพเป็นแอดมินเว็บเถื่อน และโทรหลอกเงินคนจีน พบของกลางเพียบ เงินหมุนเวียนในบัญชีเดือนละ 100 ล้านบาท

-พ่อค้าไก่ย่าง ถูกเจ้าของร้านเพชร ยัดข้อหาขโมยเพชร 15 ล้าน จนติดคุกฟรี 7 เดือน 10 วัน ฟ้องกลับจนชนะคดี ศาลจำคุก เจ้าของร้านเพชร 3 ปี เจ้าตัวเผยอดีตยังตามหลอน ใช้เงินเยียวยาติดคุกฟรี 2 แสนเปิดร้าน "แพะชิงเพชรปิ้งย่างสร้างชีวิต" ต่อลมหายใจ เตรียมหารือทนายฟ้องแพ่งซ้ำ และ เอาผิดตำรวจที่ซ้อมให้ตนรับสารภาพ ทั้งที่เป็นแพะ

-วงจรปิดจับภาพ คนร้ายสวมหมวกกันน็อก บุกเดี่ยวร้านสะดวกซื้อกลางเมืองโคราช บีบน้ำแอลกอฮอล์แล้วจุดไฟเผาหน้าเคาท์เตอร์ แล้วชักปืนขู่ชิงทรัพย์ แล้วเผาอีกรอบก่อนหลบหนีลอยนวล ตำรวจเร่งแกะรอยล่าคนร้ายดำเนินคดี

-กรรมการควบคุมยาเสพติด มีมติปลดล็อก “กัญชา” พ้นรายชื่อยาเสพติด เตรียมส่งต่อ ป.ป.ส. เห็นชอบ 25 ม.ค.นี้ ก่อนให้ “อนุทิน” ลงนามประกาศใช้ ย้ำปลูกเสรีได้ แต่ถ้าปลูกเพื่ออุตสาหกรรมยังต้องขออนุญาต

-ศบค. ปรับพื้นที่สีส้ม ควบคุมโควิดเหลือ 44 จาก 69 จังหวัด คงพื้นที่สีฟ้า 8 จังหวัด เริ่ม 24 ม.ค. พร้อมขยายเวลา พื้นที่นำร่องท่องเที่ยว ดื่มแอลกอฮอล์ได้ถึง 5 ทุ่ม และขยายพรก.ฉุกเฉิน 2 เดือน พร้อมเห็นชอบกักตัวผู้เสี่ยงสูง 7 วัน รีเทิร์นเทศต์แอนด์โก ต้องมีหลักฐานจองโรงแรมที่พักวันแรก และวันที่ 5 ตรวจหาเชื้อ RT-PCR 2 ครั้ง เริ่ม 1 กุมภาพันธ์ นี้


เรื่องเล่าการเมือง

-มีรายงานว่า นายกรัฐมนตรี เดินทางไปเข้าพบหารือกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่มูลนิธิป่ารอยต่อ ซึ่งคาดว่าเป็นการหารือถึงปัญหาความขัดแย้งต่างๆ ภายในพรรคพลังประชารัฐ ภายหลังจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรรคพลังประชารัฐ ถูกขับพ้นพรรคพร้อม ส.ส.จำนวน 20 คน ที่อาจส่งผลกระทบต่อรัฐบาล

ด้าน พล.อ.ประวิตร เผยสบายใจแล้ว ไม่มีอะไรต้องกังวล ตอนนี้ทุกเรื่องจบแล้ว เลิกเขียนได้แล้วว่าขัดแย้งกับ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะไม่เคยขัดแย้งกัน การขับ ร.อ.ธรรมนัสออกจากพรรค นายกฯก็ไม่ได้มาเกี่ยวข้อง

ขณะที่นายกฯ ระบุว่า เรื่องที้เกิดขึ้นเป็นเรื่องของพรรคพลังประชารัฐ ไม่เกี่ยวกับตน และขอให้ประชาชนติดตามพฤติกรรมของแต่ละคนเพื่อคัดกรองในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ซึ่งตนไม่ได้กล่าวว่าใครดีไม่ดี ตนไม่ใช่คนที่จะพูดได้ว่ารักใครชอบใคร หลายอย่างต้องเก็บไว้กับตัว และยืนยันว่าไม่ได้คิดเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีหรือยุบสภา เพราะกฎหมายยังไม่เรียบร้อย

-ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และอดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้โพสต์คลิปวีดีโอความยาว 3.27 นาทีผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยเนื้อหาเป็นการเปิดใจ หลังถูกขับออกจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อม ส.ส.20 คน ระบุว่า หลังเกิดเรื่องไม่เครียด นอนหลับสบายดี

ทั้งนี้ยอมรับว่า ยังเป็นห่วงบ้านเก่า (พปชร.) เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมาที่บ้านเมืองมีวิกฤตการแพร่ระบาดโควิด-19 ส่วนใหญ่แล้วที่ส.ส.ไปลงพื้นที่ ร้อยละ 80 ได้รับการสนับจากตนและ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ดังนั้นหลังจากไม่มีเราแล้วใครจะทำ

ด้านนายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร หนึ่งใน 21 ส.ส.ที่ถูกขับออกจากพรรคพลังประชารัฐ ประกาศชัด 21 ส.ส.ซบพรรคเศรษฐกิจไทย เหตุแนวทางที่พูดคุยเข้ากันได้ดี ลั่นยืนข้างเรื่องที่ถูกต้องเป็นผลประโยชน์กับบ้านเมืองเท่านั้น

-นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้แถลงถึงเหตุผลที่ทำให้พรรคมีมติให้ร้อยเอกธรรมนัส และ ส.ศ.ในกลุ่มรวม 21 คน พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรค โดยย้ำว่าเพราะ ร.อ.ธรรมนัส เสนอให้มีการปรับโครงสร้างขนานใหญ่ พร้อมเงื่อนไขหากไม่ทำตามจะมีมาตรการเคลื่อนไหว ถือเป็นความผิดร้ายแรง

ทั้งนี้ที่ประชุมร่วมกรรมการบริหารพรรคและ ส.ส.ของพรรค ได้มีมติด้วยเสียง 63 เสียง จากจำนวนผู้เข้าร่วมประชุม 78 คน ให้ 21 ส.ส.กลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากพรรคเห็นว่า สิ่งที่ ร.อ.ธรรมนัสขอนั้น ไม่สามารถดำเนินการได้

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ไม่ได้ร่วมลงมติด้วย แต่ท่านไม่สบายใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และให้กรรมการบริหารและ ส.ส.พิจารณาเรื่องนี้เอง

ผู้สื่อข่าวถามว่าความผิดนี้ถือเป็นความผิดร้ายแรงถึงขั้นต้องขับออกหรือ นายไพบูลย์ ยืนยันว่า ใช่ และระบุว่า ถือเป็นวิวัฒนาการของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่จุดแตกหักสักทีเดียว แต่เป็นจุดที่ต้องตัดสินใจ และพยายามบอกว่า สิ่งที่พรรคดำเนินการ "ไม่ใช่การขับออก แต่เพียงให้พ้นสมาชิกพรรค"

-ทีมข่าวการเมืองได้วิเคราะห์สูตร การทำงานในสภาหลังจากนี้ ที่เป็นไปได้ 3 สูตรด้วยกัน จากจำนวน ส.ส. ปัจจุบัน ในสภา ที่ทำหน้าที่ อยู่ 475 คน อยู่ระหว่างหยุดปฏิบัติหน้าที่่้ 9 แบ่งเป็น ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล 208 คน ฝ่ายรัฐบาล 267 คน

สูตรแรก เป็นกรณีถ้า ส.ส.กลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส 20 คน (ความจริง 21 คน แต่หยุดปฏิบัติหน้าที่ 1 คน คือ ส.ส.ทัศนาพร เกษเมธีการุณ) ถ้า ร.อ.ธรรมนัสยังร่วมอยู่กับฝ่ายรัฐบาล รัฐบาลจะมี ส.ส.เท่าเดิม 267 คน พรรคของ ร.อ.ธรรมนัส จะเป็นพรรคอันดับ 4 แทนที่ พรรคชาติไทยพัฒนา ขึ้นมาต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี

สูตรที่ 2 ถ้าพรรคกลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส ต่อรองไม่ได้ แล้วออกมายืนตรงกลาง ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล จะเหลือ 247คน การทำงานในสภาของฝ่าย รัฐบาลจะอ่อนแอลงไปอีก แต่เสียงก็ยังมากกว่าฝ่ายค้านอยู่

สูตรที่ 3 กรณีหากพรรคของ ร.อ.ธรรมนัส ไปจับมือกับพรรคเล็ก ที่ร่วมรัฐบาลอยู่ 9 พรรค มี ส.ส. 9 คน ออกมายืนตรงกลางด้วยกัน ก็จะทำให้เสียงของรัฐบาลหายไปอีก 9 คน เหลือ ส.ส.เพียง 238 คน ซึ่งเท่ากับครึ่งหนึ่งขององค์ประชุมส่งผลให้การพิจารณากฎหมายต่างๆ ต้องใช้เสียงฝ่ายค้านสนับสนุน

และอาจส่งผลถึงขั้นเปลี่ยนขั้วรัฐบาลได้ ถ้าหาก พรรคของ ร.อ.ธรรมนัส กับ พรรคเล็ก 9 พรรคเล็ก ที่มีอยู่ 29 คน หรือหากรวมที่หยุดปฏิบัติหน้าที่อยู่ 1 คน ก็จะเป็น 30 คน

แล้วไปจับมือกับฝ่ายค้านขึ้นมา ฝ่ายค้านซึ่งมีอยู่ 208 คน ก็จะเพิ่มขึ้นเป็น 238 คน เท่ากับเสียงของรัฐบาลทันที เสี่ยงต่อแรงกดดันในการเปลี่ยนขั้วรัฐบาลหรือถึงขั้นยุบสภาได้

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/GMp1IA2yP_4