วานนี้(19 ม.ค.) พาณิชย์จังหวัดระยอง ปศุสัตว์จังหวัดระยอง และหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางไปที่ บรรทมฟาร์ม อยู่ที่หมู่ 5 ตำบลห้วยยาง อำเภอแกลง จังหวัดระยอง

หลังจากที่เจ้าของฟาร์มหมู ออกมาโวยว่า ราคาหมูในตลาดแพงได้อย่างไร ในเมื่อราคาขายหน้าฟาร์มของเค้า ขายแค่กิโลกรัมละ 60 บาท แล้วตอนนี้หมูที่เลี้ยงอยู่ที่ได้เวลาจะจับขายได้แล้ว แต่ก็ยังไม่มีคนมาซื้อ รวมถึงฟาร์มอื่น ๆ ก็อยู่สภาวะเดียวกัน

ทำให้มีหมูเป็นที่จับได้ขายได้แล้ว ตกค้างอยู่ในฟาร์มของเค้ากว่า 1,400 ตัว ฟาร์มอื่น ๆ ที่อยู่ในพื้นที่ระยอง จันทบุรี และตราดอีก รวมแล้วหลายหมื่นตัว ทำให้ไม่เข้าใจว่า ทำไมหมูขาดแคลน ทำไมหมูแพง ทั้งที่ยังอยู่หมูอยู่ในฟาร์มอีกมาก และราคาที่ฟาร์มก็ยังคงเดิม

ซึ่งหลังจากที่มีสื่อมวลชนนำเสนอข่าวในจุดนี้ไป ทำให้มีพ่อค้าจำนวนมาก โทรมาขอซื้อหมู บางรายให้ราคาถึงกิโลกรัมละ 100 บาท และจ่ายเป็นเงินสด รวมถึงมีหน่วยงานต่าง ๆ โทรมาสอบถามนับร้อยสาย จนต้องออกมาอธิบายกันใหม่ ว่าความจริงแล้ว หมูที่เลี้ยงไว้ไม่สามารถจะขายให้กับใครได้ เนื่องจากมีสัญญากับบริษัทหนึ่งไว้ และมีการประกันราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 60 บาท

นายบรรทม ศึกษา เจ้าของฟาร์มเลี้ยงหมู ได้อธิบายว่า ตนเองได้ทำสัญญารับจ้างเลี้ยงหมูกับบริษัทแห่งหนึ่ง โดยทำมาเป็น 10 ปีแล้ว โดยบริษัทจะนำลูกหมูมาให้เลี้ยง พร้อมส่งอาหาร เวชภัณฑ์ และวัคซีนต่าง ๆ มาให้ครบ ตนเองมีหน้าที่เลี้ยงดูหมูให้ได้คุณภาพตามที่ตลาดต้องการ โดยมีการทำสัญญากันปีต่อปี และเมื่อถึงเวลาที่จับหมูขาย จะได้กิโลกรัมละ 60 บาท หมู 1 ตัว จะหนักประมาณ 130-135 กิโลกรัม ราคาก็จะตกตัวละประมาณ 7,500-8,000 บาท

ทางบริษัท จะหักค่าลูกหมูตัวละ 1,350 บาท ค่าอาหาร ค่าเวชภัณฑ์ต่าง ๆ เหลือจึงคืนให้กับทางฟาร์ม ซึ่งส่วนใหญ่จะเหลือกำไรตัวละประมาณ 800-1,000 บาท

นายบรรทม บอกด้วยว่า ในฐานะเกษตรกรผู้เลี้ยง ยังรับได้กับราคาหมูที่กิโลกรัมละ 60 บาท แม้ว่าราคาหมูในตลาด จะขึ้นไปมากแล้วก็ตาม เพราะราคาลูกหมูของบริษัทนี้อยู่ที่ 1,350 บาท แต่ที่อื่นคิดราคาลูกหมูเกษตรกรไปถุึงตัวละ 2,300 บาทแล้ว

อีกอย่างบางครั้งราคาหมูก็ถูก จนบริษัทที่เลี้ยงหมูขาดทุนก็มี อย่างเช่น เลี้ยงแล้วหมูตายเป็นจำนวนมาก หรือน้ำหนักไม่ถึง หมูเป็นโรค ก็อยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการขาดทุน เช่นในปี 57 คนเลี้ยงหมูประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนัก ซึ่งในรอบต่อไป หากบริษัทยังให้ราคากิโลกรัมละ 60 บาท ก็ยังจะรับเลี้ยงอยู่ เพราะถือว่าเป็นราคาที่ยังอยู่ได้

ด้านนางปรินทิพย์ ศึกษา ภรรยาของนายบรรทม ซึ่งก่อนหน้านี้ให้ข่าวประมาณว่า หมูหน้าฟาร์ม กิโลกรัมละ 60 บาทยังไม่มีใครรับซื้อ และงงว่าทำไมหมูในตลาดขาดแคลนน และราคาแพง วันนี้ถึงกับยกมือไหว้ขอโทษงาม ๆ ไปถึงนายกรัฐมนตรี อธิบดีกรมปศุสัตว์ และหน่วยงานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ให้ข่าวคลาดเคลื่อน

เพียงเพราะตัวเองเครียด หลังจากที่ไปตลาด แล้วได้ยินคนพูดว่าหมูแพงมาก ซื้อไม่ไหว เขียงหมูต้องหยุดขาย โรงเชือดไม่เชือดหมู เลยเกิดความวิตกกำลังวลว่า หมูที่เลี้ยงไว้เป็นพัน ๆ ตัว แล้วก็โตขึ้นทุกวัน จะเอาไปไว้ที่ไหน ใครจะซื้อ ในเมื่อราคาแพงจนไม่มีคนกิน ยอมรับผิดพลาด แต่ไม่มีเจตนาจะไปกล่าวโทษ หรือสร้างความเดือดร้อนให้ใคร ฝากสื่อมวลชนขอโทษไปถึงนายกรัฐมนตรี

ด้านพาณิชย์จังหวัด และปศุสัตว์จังหวัด ที่ลงพื้นที่ฟาร์ม ก็บอกว่า ที่ลงพื้นที่วันนี้ก็เพื่อที่จะมาดูข้อเท็จจริง และหาแนวทางช่วยเหลือ แต่อย่างไรก็ตามต้องฟังแนวทางจากบริษัท ที่นำหมูมาให้เกษตรกรเลี้ยงด้วย ว่ามีแนวทางอย่างไร ซึ่งคาดว่าจะมีการพูดคุยกันในช่วงบ่ายวันนี้

สำหรับบรรทมฟาร์ม เป็นฟาร์มเลี้ยงหมูระบบปิด ที่มีการเอาใจใส่ดูแลหมูอย่างดี เป็นที่ไว้วางใจของบริษัท มีหมูตายน้อยมาก ถึงไม่ตายเลย ได้คุณภาพตามตลาดต้องการ ไม่เคยมีปัญหาลักลอบนำหมูออกไปขาย ทำให้ได้รับรางวัลฟาร์มดีเด่นของภาคตะวันออกจากทางบริษัทมาตลอดอีกด้วย

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/OPycH5XkP8o