อังกฤษถือ เป็นประเทศแรกในโลกที่ประกาศผ่อนคลายมาตรการป้องกันโควิดทั้งหมดเมื่อหลายเดือนก่อน โดยไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัย และให้ประชาชนใช้ชีวิตได้อย่างอิสระเสรี

แต่ทว่าล่าสุดนั้น นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ได้ประกาศใช้ "แผนบี" หรือ “แผนสอง” เพื่อรับมือกับการระบาดของโควิดสายพันธุ์โอมิครอน โดยแถลงข่าวประกาศให้ประชาชนทำงานจากที่บ้านอีกครั้งหนึ่งถ้าหากใครทำได้

นอกจากนั้นยังประกาศให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย ขณะที่อยู่ในอาคารที่ร่ม และยังประกาศต้องใช้วัคซีนพาสปอร์ตก่อนเข้ารับบริการต่างๆ ทั้งร้านอาหาร หรือสถานท่องเที่ยวกลางคืน รวมถึงโรงภาพยนต์ โรงละคร หรือติดต่อบริการต่างๆ

ผู้นำอังกฤษระบุว่า การประกาศใช้ "แผนบี" ในครั้งนี้ ถือเป็นการซื้อเวลาให้กับหน่วยงานด้านสาธารณสุขสามารถที่จะเรียนรู้และศึกษาสายพันธุ์โอมิครอนได้มากขึ้น เพื่อหาทางป้องกันในขั้นต่อไป เนื่องจากในขณะนี้พบว่า มีผู้ติดเชื้อโอมิครอนมากขึ้น มีเคสที่ยืนยันแล้วอยู่ที่ 568 เคส แต่หลายฝ่ายเชื่อว่า จริงๆ แล้วอาจจะมากถึงหลักหมื่นด้วยซ้ำ

นาย บอริส จอห์นสันกล่าวว่า สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของโอมิครอนก็คือ มีหลักฐานที่ชี้ชัดว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโอมิครอนนั้นเพิ่มขึ้นในหลักเท่าตัวในช่วงเวลาเพียง 2-3 วันเท่านั้น ดังนั้นการสวมหน้ากากอนามัยจึงต้องกลับมาใช้อีกครั้งสำหรับการใช้บริการต่างๆ  เช่น โรงภาพยนต์ หรือโรงละคร เป็นต้น