ในที่สุดผลการตัดสินสุดท้ายสำหรับเหตุการณ์ “เสือดำ” ของนายเปรมชัย กรรณสูต และพวกก็ถึงที่สิ้นสุด

เป็นเวลาถึงเกือบ 4 ปี ที่คดีนี้สู้กันในชั้นศาลและเป็นที่สนใจของคนไทยจำนวนมาก

เนื่องจากคดีนี้ผู้ต้องหาคือคนระดับเจ้าสัวลำดับต้นๆของเมืองไทย

ศาลฎีกาได้พิพากษาว่า นายเปรมชัย กรรณสูต มีความผิดฐานร่วมกันล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต ครอบครองและซ่อนเร้นซากสัตว์ป่าคุ้มครองซึ่งได้มาโดยกระทำผิดกฎหมาย ให้จำคุก 2 ปี 14 เดือน

นายยงค์ โดดเครือ (คนขับรถ คนสนิทของนายเปรมชัย) ศาลให้คงโทษจำคุก 2 ปี 17 เดือน

นายธานี ทุมมาศ (นายพราน) ให้คงโทษจำคุก 2 ปี 21 เดือน

ส่วน นางนที เรียมแสน (แม่ครัว) ไม่ได้ยื่นฎีกา จึงมีโทษจำคุก 1 ปี 8 เดือน ปรับ 40,000 บาท รอการลงโทษไว้สองปีตามคำพิพากษาชั้นต้น

ย้อนกลับไปเมื่อเกือบ 4 ปีที่แล้ว

เช้าวันที่ 4 ก.พ. 2561 เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชได้เผยแพร่ภาพที่สร้างความสนใจให้กับสังคม เมื่อจับกุมคณะ “กิตติมศักดิ์” ในป่า ซึ่งทราบเวลาต่อมาคือ “เปรมชัย กรรณสูต อดีตประธานกรรมการ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ และพวก รวมทั้งหมด 4 คน โดยสามคนที่เหลือคือ นายยงค์ คนสนิท นางนที ที่ทำหน้าที่แม่ครัว และ นายธานี ซึ่งเป็นนายพราน

ซึ่งในวันที่ 3 ก.พ. 2561 ทั้ง 4 คน ได้ลักลอบเข้าพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก จ.กาญจนบุรี โดยเข้าไปตั้งแคมป์ที่จุดห้วยปะชิ (อยู่ระหว่างหน่วยฯ ทิคอง กับหน่วยฯ มหาราช) เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ซึ่งไม่อนุญาตให้ตั้งแคมป์

ในที่เกิดเหตุพบอาวุธปืน .22 จำนวน 1 กระบอก ปืนไรเฟิล ติดลำกล้อง 1 กระบอก พร้อมด้วยลูกซองอีก 1 กระบอก ในพื้นที่พบซากไก่ฟ้าหลังเทาและเนื้อเก้ง

จากนั้นวันที่ 5 ก.พ. 2561 ก็ได้ตรวจเพิ่มเติมในพื้นที่และพบซากเสือดำถูกชำแหละ ทำให้คดีนี้ถูกเรียกว่าคดี "เสือดำ" เจ้าหน้าที่จึงส่งตัวไปดำเนินคดีที่ สภ.ทองผาภูมิ

ต่อมา ในวันที่ 6 ก.พ. 2561 เปรมชัยและพวก ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างการสอบสวน โดยศาลให้ประกันตัวคนละ 150,000 บาท

ระหว่างนั้นนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืชทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ให้การในเบื้องต้นว่า มีความพยายามในการติดสินบนเจ้าพนักงาน จึงให้นายวิเชียรร้องทุกข์กับตำรวจ บก.ปปป. และกล่าวโทษ นายเปรมชัยและพวกฐานให้สินบนเจ้าพนักงานแล้ว โดยจะต้องดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับ เรื่องสินบนทุกราย

คดีนี้มีอดีตนายตำรวจคนดังอย่าง พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในขณะนั้น เข้าไปดูแล แต่ก็ปรากฏภาพนิ่งการไหว้นายเปรมชัยอย่างนอบน้อม ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก

แต่ต่อมา พล.ต.อ.ศรีวราห์ ออกมาพูดภายหลังว่า เป็นการรับไหว้ตามประเพณี ไม่ได้ผิดแปลกอะไร และไม่ได้นำเรื่องนี้มาใส่ใจ

สำหรับคดีติดสินบนเจ้าพนักงานนั้นศาลคดีทุจริตตัดสินจำคุก “เปรมชัย” 1 ปี

ต่อมาในวันที่ 19 มี.ค. 2562 ศาลชั้นต้นได้พิพากษาจำคุก “เปรมชัย” เป็นเวลา 16 เดือน ไม่รอลงอาญา จาก 5 ข้อกล่าวหา ประกอบด้วย

1. ข้อหาร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต พิพากษา จำคุก 6 เดือน

2. ข้อหาล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และ (ข้อ 3. )

3. ข้อหาร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ (กรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษบทหนักที่สุด) จำคุก 8 เดือน

4. ข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

5.ข้อหาร่วมกันซ่อนเร้นซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำความผิดกฎหมาย (กรรมเดียวเป็นความผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษบทหนักที่สุด) จำคุก 2 เดือน

โดยมีหนึ่งข้อหาที่ยกฟ้องไป คือ ร่วมกันซ่อนเร้น พาเอาไปเสีย หรือรับไว้ด้วยประการใดๆ ซึ่งซากของสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำผิดกฎหมาย เนื่องจากตามกฎหมาย

เนื่องจากมีการแก้ไข พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าปี 2562 ซึ่งไม่มีข้อกล่าวหาดังกล่าว

นอกจากนี้ยังให้ลงโทษ จำคุกนายยงค์ 16 เดือน นางนที 4 เดือน และ นายธานี 2 ปี 17 เดือน และให้ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้กรมอุทยานเป็นเงิน 2,000,000 บาท

อย่างไรก็ตามต่อมาอัยการได้ยื่นอุทธรณ์

ต่อมาวันที่ 12 ธ.ค. 2562 ศาลจังหวัดทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ โดย พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น แต่เพิ่มโทษนายเปรมชัย จากจำคุก 16 เดือน เป็น 2 ปี 14 เดือน ไม่รอลงอาญา ใน 3 ข้อหา ฐานเป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (ไก่ฟ้าหลังเทา) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ โดยหลุดข้อหาครอบครองซากเสือดำ เนื่องจากไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่า “เปรมชัย” เป็นผู้ครอบครองซากเสือดำ

ขณะที่ นายยงค์ มีคำพิพากษา จำคุก 2 ปี 17 เดือน นางนที 1 ปี 8 เดือน แต่ให้รอลงอาญา และ นายธานี 2 ปี 21 เดือน และใช้ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 2 ล้านบาท

ทำให้จำเลยทั้งสามยกเว้นนางนทียื่นฎีกา

และล่าสุด ในวันนี้ เจ้าสัวก็ต้องเดินคอตกเข้าคุก เมื่อคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำเลยทั้งสามต้องจำคุก