พี่ชายร้องทีมข่าวช่อง 3 ถูกนายจ้างโหดทำร้ายร่างกาย จนอวัยวะเพศเน่าติดเชื้อ แถมบังคับให้กินฉี่สุนัขและอึสุนัข ด้านนายจ้าง ปัดทำร้าย แต่ผู้บาดเจ็บขี่รถล้มเอง

โดยภาพบาดแผลตามใบหน้าและร่างกาย เป็นหลักฐานที่พี่ชายของผู้เสียหายส่งมาร้องขอความเป็นธรรมกับพี่หนุ่ม กรรชัย พร้อมระบุข้อความว่า ถูกทำร้ายร่างกายเป็นประจำทุกวัน จนใบหน้าบวมปูด ที่หนักก็คือ บังคับให้กินอึหมา ฉี่หมาด้วย กลัวว่าจะเอาเรื่องไม่ได้ เพราะนายจ้างมีเส้นสายเยอะ

หลังทราบเรื่องผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ บ้านของผู้เสียหายในอำเภอท่าหลวง จังหวัดลพบุรี พบนายจิราวัฒน์ หรือฟ้า อายุ 29 ปี ผู้เสียหาย สภาพแผลที่ปากบวมเป่ง ตาข้างซ้ายปิด ที่ใบหูก็มีรอยแผล ส่วนตามร่างกายมีรอยแผลทั่วตัว

นายจิราวัฒน์ หรือฟ้า เล่าว่า ตัวเองไปทำงานเป็นลูกจ้างที่ร้านค้าวัสดุการเกษตรแห่งหนึ่ง จังหวัดสิงห์บุรี นาน 10 กว่าปีตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ชั้น ปวช.ปีที่ 1 ซึ่งนายจ้างเป็นเหมือนผู้อุปถัมภ์ครอบครัวตัวเองมาตั้งแต่ยังเด็ก ให้ช่วยงานที่บ้าน ทำความสะอาด ช่วยเลี้ยงสุนัข แต่พักหลังถูกนายจ้าง ชื่อเจ๊กั้ง กับ นายอ้วน ลูกจ้างอีกคน ทำร้ายร่างกายใช้ไม้เบสบอลทุบตีตามตัว โดนซ้ำมาเรื่อยๆ จนเป็นแผลทั่วร่าง รวมถึงอวัยวะเพศ เป็นแผลเน่า ติดเชื้อ ไม่ยอมพาไปหาหมอ หนักสุดถึงขั้นให้กินฉี่หมาและอึหมา ส่วนสาเหตุที่โดนทุบตีเพราะ นายจิราวัฒน์ ขโมยเงินในบ้าน 40 บาท และ ขโมยของกินในบ้าน

โดยนายจ้างจะให้ฟ้า เลี้ยงสุนัขไซบีเรียน 30 ตัว และให้ จิราวัฒน์ เก็บอุจจาระและปัสสาวะสุนัข กรณีเช็ดฉี่ไม่หมด จะให้จิราวัฒน์ ใช้หลอดดูดฉี่สุนัขขึ้นมา ถ้าสุนัขไปกินขี้นก จะโกรธ จะบังคับให้ฟ้า ไปกินขี้นกแทน

ขณะที่นายจ้าง ระบุว่า ฟ้ามาอยู่ที่บ้านเหมือนคนในครอบครัว ตนเองดูแลส่งเสียให้เรียนหนังสือตั้งแต่อายุ 15 ปี โดยฟ้ามีนิสัยโกหก ชอบขโมยเงินบ่อย ตนเองจึงทำโทษด้วยการใช้ท่อพีวีซีตีที่ปากเท่านั้น ส่วนแผลตามร่างกายอื่นๆ เชื่อว่ามาจากที่นายจิราวัฒน์ ขี่รถล้มเอง เพราะนายจิราวัฒน์ ชอบหลับใน

และต่อมาทางนายจ้าง ก็ได้โทรศัพท์เข้ามาหาพี่ชายของฟ้า ยืนยันว่าบาดแผลที่เห็นเป็นเพราะฟ้ารถล้มจริงๆ ส่วนแผลที่อวัยวะเพศ ก็เป็นเพราะฟ้าคิดไม่ดี จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่ ไม่ว่ากัน และที่จะแจ้งความจับตนนั้นก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวเจอกันในศาล

ด้านพี่ชายของฟ้า บอกว่าพยายามขอตัวน้องชายกลับมาตั้งแต่เมื่อ 5 ปีที่แล้ว แต่น้องปฏิเสธตลอด บอกว่าเป็นห่วงเจ๊ กลัวเจ๊ลำบาก ขณะเดียวกันตัวนายจ้างเองก็เกลี้ยกล่อมตัวน้องให้ไม่อยากกลับบ้าน และตัดสินใจอยู่ต่อ ซึ่งตนก็ต้องเคารพการตัดสินใจของน้อง จนพักหลังต้องขู่ว่า จะแจ้งความและสุดท้ายก็พาน้องชายหนีออกมาจนได้

ซึ่งพอตนเห็นสภาพน้อง ก็ไม่คิดว่าจะเป็นขนาดนี้ มันเกินขอบเขตแล้ว เท่าที่น้องเล่าให้ฟัง กับรอยแผลตามร่างกายพอพอที่จะบอกได้ว่า มันไม่ใช่รอยรถล้มอย่างที่นายจ้างอ้างแต่อย่างใด หลังจากนี้เตรียมรวบรวมหลักฐานเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายจ้าง ยืนยันเอาเรื่องถึงที่สุด พร้อมขอความเป็นธรรมให้สื่อฯ ช่วยนำเสนอข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกับน้องชายด้วย เพราะเกรงกลัวเรื่องของอิทธิพล เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยเข้าขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่ก็ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม

ล่าสุดยุติธรรมจังหวัดสิงห์บุรี เตรียมตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้ความช่วยเหลือกับผู้เสียหายและครอบครัว ส่วนผู้เสียหายขณะนี้อยู่ในอาการหวาดผวาตลอดเวลา

ชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/7Ynjx9vGrb8