นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ยืนยัน ว่าตอนนี้ยังไม่พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน ในไทย และข้อมูลก็ไม่ถูกต้อง เพราะไม่ใช่นักท่องเที่ยวชาวสเปน แต่เป็นนักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน ที่เดินทางมาจากสเปน ซึ่งตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 แต่อาการไม่รุนแรง และได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยการดูแลของแพทย์ และอาการไม่รุนแรง ซึ่งแพทย์ได้ส่งเชื้อไปตรวจพิสูจน์ที่ห้องปฎิบัติการ ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ หลายวันแล้ว ว่า เป็นสายพันธุ์โอไมครอนหรือไม่ คาดว่าจะทราบผลในวันพรุ่งนี้

หลายประเทศยังคงพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน เพิ่มมากขึ้น ล่าสุด เกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 3 คน เตรียมยกระดับมาตรการควบคุม ขณะที่สหราชอาณาจักร พบผู้ติดเชื้อ โอไมครอน แล้ว 160 คน

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งเกาหลีใต้ (KDCA) ออกมาแถลงว่าพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ที่น่าวิตกกังวลเพิ่มอีก 3 คน ทำให้ขณะนี้ ยอดผู้ติดเชื้อสายพันธุ์นี้ในเกาหลีใต้ อยู่ที่ 12 คน ขณะเดียวกัน ทางการกำลังเฝ้าดูผู้ต้องสงสัยติดเชื้อสายพันธุ์นี้อีก 3 คน ในกรุงโซล สร้างความวิตกกังวลเป็นอย่างมากเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อกลายพันธุ์ “โอไมครอน” ในพื้นที่เมืองหลวง คาดว่าจะทราบผลตรวจของกลุ่มผู้ต้องสงสัยในวันพรุ่งนี้

และตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ทางการเกาหลีใต้จะยกระดับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขึ้น โดยประชาชนสามารถรวมตัวกันได้ไม่เกิน 6 คนในพื้นที่กรุงโซล ส่วนผู้ที่อาศัยอยู่นอกเขตเมืองหลวง สามารถรวมตัวกันได้ไม่เกิน 8 คน

นอกจากนี้ ประชาชนที่จะเข้าไปในสถานที่สาธารณะอย่างน้อย 14 แห่ง เช่น ร้านอาหาร, โรงภาพยนตร์ และสถานที่สาธารณะอื่น ๆ จะต้องแสดงเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน หรือผลการตรวจหาเชื้อโควิด -19 เป็นลบ

ขณะที่ สหราชอาณาจักร เพิ่มมาตรการคุมเข้มสำหรับผู้ที่เดินทางเข้าประเทศ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ “โอไมโครอน” โดยนับตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม เป็นต้นไป ผู้เดินทาง อายุ 12 ปีขึ้นไป ที่ต้องการเดินทางเข้าสหราชอาณาจักร จะต้องแสดงผลตรวจโควิด -19 เป็นลบ ภายในเวลาไม่เกิน 48 ชั่วโมงก่อนเดินทาง

นอกจากนี้ ยังระบุให้ประเทศ ไนจีเรีย อยู่ในบัญชีแดง ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศ ที่ผู้เดินทางมา จะต้องเข้ารับการกักตัวในโรงแรม 10 วัน ก่อนเข้ามาในสหราชอาณาจักร นับเป็นมาตราการที่เข้มงวด หลังจากที่พบว่า ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ติดเชื้อโอไมครอน ในสหราชอาณาจักรแล้ว 160 คน อยู่ในอังกฤษ และ สก็อตแลนด์ โดยเมื่อวานนี้เพียงวันเดียว พบเพิ่มอีก 26 คน