รองโฆษกนายกฯ ระบุ ‘อนุทิน’ เผยในที่ประชุมโลก ไทยสนใจบริจาควัคซีนให้แอฟริกา

เลือกตั้งและการเมือง

รองโฆษกนายกฯ ระบุ ‘อนุทิน’ เผยในที่ประชุมโลก ไทยสนใจบริจาควัคซีนให้แอฟริกา

โดย JitrarutP

1 ธ.ค. 2564

70 views

“รองโฆษก นายกฯ” เผยหลัง “รองนายกฯ อนุทิน” เข้าร่วมประชุมบนเวทีโลก ระบุ ไทยสนใจบริจาควัคซีนให้ “แอฟริกา” ผ่านโครงการ AVAT


น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 64 เวลา 18.00น . ตามเวลาท้องถิ่น นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส หลังการเข้าร่วมประชุม สมัชชาอนามัยโลก สมัยพิเศษ ณ สำนักงานใหญ่องค์การอนามัยโลก (WHO) นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส เป็นวันที่ 2 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุขได้พบหารือทวิภาคีกับ นาย Tedros Adhanom Ghebreyesus ผู้อำนวยการใหญ่ WHO ในประเด็นที่ให้ประเทศไทยเข้าร่วมใน BioHub System ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาระบบสากลในการแบ่งปันเชื้อไวรัส สำหรับการพัฒนามาตรการป้องกันการระบาดของโรคต่างๆ ที่รวดเร็ว มีการตอบสนองทางการแพทย์อย่างทันท่วงที


รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการหารือนายอนุทิน ยังได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์การฉีดวัคซีนโควิด-19 แบบไขว้ในประเทศไทย ซึ่งช่วยลดระยะเวลาและเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ประชาชนได้เป็นอย่างดี


พร้อมกับแจ้งให้ทาง WHO ทราบถึงนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ว่าเนื่องจากขณะนี้ไทยได้รับวัคซีนโควิด-19 จำนวนที่เพียงพอ และมีหลายแพลตฟอร์มและยังอยู่ระหว่างการพัฒนาวัคซีนภายในประเทศเอง ก็มีความสนในที่จะบริจาคให้กับประเทศที่ยังเข้าถึงวัคซีนน้อย เพราะก่อนหน้านี้ที่ประเทศไทยมีการระบาดหนักและวัคซีนมีจำกัดนั้นก็ได้รับการช่วยเหลือ ได้รับบริจาคจากหลายประเทศ จนผ่านพ้นช่วงวิกฤตมาได้


ทั้งนี้ ผู้อำนวยการใหญ่ WHO ได้เสนอว่าหากไทยมีความสนใจในการแบ่งปันวัคซีนแก่ประเทศที่ยังเข้าถึงวัคซีนน้อย อาจจะเลือกเข้าร่วมโครงการ African Vaccine Association Trust หรือ AVAT ซึ่งเป็นโครงการบริจาควัคซีนต่อจาก COVAX แต่เป็นการบริจาคให้กับประเทศในทวีปแอฟริกาโดยตรง


“รองนายกรัฐมนตรีแสดงความสนใจที่ประเทศไทยจะให้ความช่วยเหลือแบ่งปันวัคซีนแก่ประเทศในแอฟริกาที่ขณะนี้เผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน และขณะนี้ประชาชนยังเข้าถึงวัคซีนน้อย ซึ่งได้แจ้งกับ WHO ว่านำประเด็นนี้กลับมาหารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ และแจ้งแนวทางร่วมโครงการของประเทศไทยอย่างเร่งด่วนต่อไป” น.ส.ไตรศุลี กล่าว


น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ในตอนท้ายการหารือรองนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมแสดงความยินดีกับโอกาสที่ นาย Tedros Adhanom Ghebreyesus จะได้รับการรับรองจากประเทศสมาชิกให้เป็นผู้อำนวยการใหญ่ WHO อีกสมัย เนื่องจากการเลือกตั้งใหม่ในปีหน้า สมาชิกจาก 20 กว่าประเทศได้เสนอชื่อผู้อำนวยการใหญ่ WHO คนปัจจุบันเพียงรายเดียว จึงรอเพียงการประชุมเพื่อรับรองเท่านั้น

คุณอาจสนใจ

Related News