คุมตัวมือปืนโหด ถล่มยิงแฟนใหม่แม่ 11 นัดดับ คาดแค้นทำครอบครัวแตกแยก ญาติเสียใจพูดไม่ออก

อาชญากรรม

คุมตัวมือปืนโหด ถล่มยิงแฟนใหม่แม่ 11 นัดดับ คาดแค้นทำครอบครัวแตกแยก ญาติเสียใจพูดไม่ออก

โดย nicharee_m

30 พ.ย. 2564

313 views

เตรียมทำแผนหนุ่มบุกรัวยิงเพื่อนชายคนสนิทแม่เสียชีวิต คาดไม่พอใจเป็นสาเหตุทำให้แม่ไม่กลับบ้านเป็นเดือน ญาติคนตายเผย หลานพาแฟนรุ่นใหญ่เข้าบ้าน เป็นห่วงความสัมพันธ์เพราะฝ่ายหญิงยอมรับยังไม่หย่าขาดคนเก่า


กล้องวงจรปิดหน้าศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง ที่ตำบลปากแพรก อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี เผยให้เห็นนาทีที่นายอำพล อายุ 27 ปี วิ่งหนีตายมาบริเวณลานจอดรถ จากนั้นนายสิทธิชัย อายุ 29 ปี ขี่มอเตอร์ไซค์ตามเข้ามาจอด แล้วชักปืนวิ่งไล่ยิง 11 นัด จนผู้เสียชีวิตล้มแน่นิ่ง จากนั้นได้ขี่มอเตอร์ไซค์หลบหนีไป


เหตุเกิดช่วงเช้าวานนี้ เริ่มจากผู้เสียชีวิตนั่งรถกระบะมากับนางรจนา อายุ 50 ปี กำลังเดินทางไปฉีดวัคซีนโควิด 19 เข็ม 2 ที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา เมื่อมาถึงสี่แยกวังสารภี ขณะที่รถจอดรถติดไฟแดง จู่ ๆ นายสิทธิชัย ซึ่งเป็นลูกชายของนางรจนา ได้ขี่มอเตอร์ไซค์มาจอดขวางหน้ารถ แล้วพยายามเปิดประตูเรียกแม่ลงจากรถ แล้วมีปากเสียงกัน ทำให้ผู้เสียชีวิตที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ได้เปิดประตูลงจากรถวิ่งหนีไป โดยวิ่งเข้าไปที่บริเวณหน้าศูนย์การค้า นายสิทธิชัย จึงขี่รถตามไปไล่ยิง กระสุนเจาะเข้าร่างนายอำพล 9 นัด เสียชีวิตคาที่ ส่วนนางรจนา อยู่ในอาการตื่นตกใจจนเกือบเป็นลม กู้ภัยต้องเข้าช่วยปฐมพยาบาล


โดยในช่วงบ่าย พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ขอศาลอนุมัติหมายจับนายสิทธิชัย ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา หลังมีพยานหลักฐานชัดเจน กระทั่งช่วงเย็นวานนี้ญาติได้พาตัวนายสิทธิชัย เข้ามอบตัวแล้วกับ พลตำรวจโท ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 จึงถูกจับกุมตามหมายจับ เบื้องต้น สารภาพว่า ฆ่านายอําพลจริง จึงถูกคุมตัวไปหาปืน และมอเตอร์ไซค์ที่ใช้ก่อเหตุ


ด้านญาติที่พามามอบตัว บอกว่า ปมเหตุเกิดจากนางรจนาหายตัวจากบ้านเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม และติดต่อไม่ได้ นายสิทธิชัยจึงไปแจ้งความเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม จากนั้นได้สืบหาจนรู้ว่าแม่อยู่ที่ไหน แล้วพยายามอ้อนวอนให้แม่กลับบ้าน แต่แม่ก็ไม่ยอมกลับ จนกระทั่งวันเกิดเหตุ รู้ว่าแม่กำลังจะไปฉีดวัคซีนจึงไปดักรอ ญาติก็ไม่รู้ว่านายสิทธิชัยพกปืนไปได้ด้วย ซึ่งปกติก็เป็นคนเงียบ ๆ ไม่ใช่คนใจร้อน ไม่เคยมีประวัติทางอาชญากรรม


ล่าสุด บรรยากาศที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี ค่อนข้างคึกคัก โดยผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 จะแถลงข่าวปิดคดีในช่วงบ่าย พร้อมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ขณะที่ญาติ ๆ ของนายสิทธิชัย เดินทางมาที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี ตั้งแต่เช้า เพื่อรอยื่นเรื่องขอประกันตัว โดยภรรยาของนายสิทธิชัย บอกว่า สามีเป็นคนใจเย็น อารมณ์ดี ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับใคร ตกใจที่รู้ว่าสามีไปยิงคนตาย ซึงก็ยังไม่รู้ว่า สาเหตุมาจากอะไร


ผู้สื่อข่าวไปที่บ้านของผู้เสียชีวิต อยู่ที่อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ พบนางสมพอง อายุ 53 ปี แม่เลี้ยงผู้เสียชีวิต บอกว่า ลูกเลี้ยงเดินทางไปกาญจนบุรีพร้อมนางรจนา แฟนของเขาก่อนเกิดเหตุวันเดียว ก่อนหน้านี้ลูกเลี้ยงมีแฟนอีกคนก่อนเลิกกัน แล้วมาคบกับคนนี้ ซึ่งอายุมากกว่า รู้จักกันทางเฟซบุ๊ก แล้วฝ่ายหญิงเดินทางมาหาตั้งแต่ช่วงน้ำท่วม มาอยู่ด้วยกันเป็นเดือนแล้ว ทราบว่า ฝ่ายหญิงให้เงินใช้ครั้ง 1,000 บาทบ้าง 2,000 บาทบ้าง 5,000 บาทบ้าง


ด้าน นางสังวาลย์ อายุ 59 ปี อาผู้เสียชีวิต บอกว่า ตอนที่ฝ่ายหญิงมานอนที่บ้าน เคยไปคุยกับฝ่ายหญิงแล้วถามว่า เป็นยังไงกับแฟน เลิกกันหรือยัง ฝ่ายหญิงก็บอกว่า ยังไม่ได้เลิก ยังไม่ทันได้หย่าขาดกัน ที่มาเพราะทะเลาะกันจึงหนีมา ถ้าสบายใจเดี๋ยวจะกลับ


นาย ประยูร บุ้งทอง อายุ 56 ปีและ นางสาว กาญจนา มูลลี อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นพ่อและน้าสาวของนายอำพล เดินทางมาที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อติดต่อรับศพนาย อำพล


นาย ประยูร บอกว่า เสียใจพูดไม่ค่อยออก ซึ่งเพิ่งมารู้ข่าวเมื่อวานตอนที่อยู่บ้านในอำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ ปกติลูกชายจะอยู่ที่บ้านกับพ่อตลอด ทำไร่ทำนา เพิ่งจะไปกาญจนบุรีได้คืนเดียวก็เกิดเหตุขึ้น โดยก่อนไปลูกชายบอกแค่ว่าจะไปบ้านแฟน ชวนกันไปฉีดวัคซีน เพิ่งคบหากันได้ประมาณเดือนกว่าๆ พามาอยู่ด้วยกันที่บ้านที่เพชรบูรณ์ ครอบครัวรับรู้ทุกอย่าง ฝ่ายหญิงก็นิสัยดี เคยเล่าให้ฟังว่ามีลูกชาย มีครอบครัวกันหมดแล้ว แต่ไม่เข้าใจว่าลูกชายเขาจะมาก่อเหตุทำไม


ส่วนนางสาว กาญจนา น้าของผู้ตาย เปิดเผยว่า ตอนที่หลานชายพานางรจนามาอยู่ที่บ้าน เขาบอกว่าฝ่ายหญิงแยกทางกับสามีมาแล้ว ทางบ้านก็โอเค ปล่อยให้คบกันไป แต่ไม่เคยรู้มาก่อนว่าลูกชายฝ่ายหญิงเขารับไม่ได้ เขากลัวว่าแม่จะไปรักคนอื่นมากกว่าตัวเอง


หลังจากนี้ ครอบครัวจะนำร่างนายอำพลไปประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ส่วนเรื่องของการดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุก็ให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย เมื่อคืนนี้ได้มีโอกาสพูดคุยกับนางรจนาสั้นๆ เขาก็ยังเสียใจ ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุขึ้น ถ้ารู้ว่าจะพามาตาย คงไม่พามา

คุณอาจสนใจ